หนังสัญชาติฮังกาเรี่ยน กวาดมาแล้ว 40 รางวัล ซึ่งรวมถึงภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมเวทีลูกโลกทองคำ และรางวัลกรังด์ปรีซ์จากเทศกาลคานส์ ตอนนี้ก็คือรอผลจากเวทีใหญ่สุด ออสการ์สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม

1231853_Son of Saul

หนังตามติดชีวิต 2 วันของ ซอล ในค่ายกักกันออสวิตซ์ เป็นอีกเรื่องที่เล่าชีวิตของยิวที่ถูกนาซีทารุณกรรมในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่เรื่องนี้เลือกเล่าเรื่องที่เราไม่เคยรู้มาก่อน ด้วยการเจาะลึกวีรกรรมของหน่วย “ซอนเดอร์คอมมานโด” เป็นยิวแรงงานที่ถูกคัดตัวมาทำงานในค่าย ซอนเดอร์คอมมานโด จะทำงานอยู่ประมาณ 2-3 เดือนแล้วสุดท้ายก็ถูกฆ่าตายอยู่ดี เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อวันหนึ่ง ซอล พบศพเด็กชายในห้องรมแก๊ส เขาบอกทุกคนว่านี่คือลูกชายของเขา ซอลเอาศพมาซ่อนไว้และมุ่งมั่นที่จะหาแรบไบมาทำฝังศพลูกชายตามพิธีทางศาสนา ซึ่งเป็นการกระทำที่เสี่ยงตายกับชีวิตที่จะตายวันตายพรุ่งในค่ายแห่งนี้ หนังเดินหน้าไปกับ 2 เหตุการณ์พร้อมกันอย่างแรกคือการตามหาแรบไบจากกลุ่มยิวที่ถูกส่งมาฆ่า และภารกิจแหกค่ายของกลุ่มซอนเดอร์คอมมานโด

หนังสร้างเอกลัษณ์โดดเด่นในตัวหลายอย่าง ที่รู้สึกแปลกตาสุดคืองานภาพที่นำเสนอด้วยสัดส่วน 1.37:1 ภาพจะแคบกว่าหนังปรกติทั่วไปที่เราดูกันแต่จะใกล้เคียงกับมุมมองการรับภาพของสายตามนุษย์ หนังถ่ายภาพด้วยเลนส์ 40 มม. ซึ่งให้ความชัดตื้นมาก จับภาพที่ตัวละครหลักคือ ซอล ออสแลนเดอร์ ตลอดเรื่องเราจะเห็นหน้า ซอล อยู่บนจอกว่า 90 % ถ่ายภาพในลักษณะแฮนด์เฮลด์แต่ไม่แกว่งชวนปวดหัว

987555

สิ่งที่ผู้กำกับ László Nemes สื่อได้ถึงผู้ชมอย่างชัดเจนคือ “ความอึดอัด” ผ่านมุมมองการรับภาพที่แคบ ต้องใช้เวลาอยู่พักใหญ่จึงจะคุ้นกับภาพสัดส่วนนี้ การเล่าเรื่องทุกอย่างผ่านตัวซอล หนังจับภาพเต็มหน้าซอลกว้างสุดคือครึ่งตัว กล้องตามหลังซอลไปทั่วทั้งค่ายด้วยการถ่ายแบบลองชอต ทั้งเรื่องไม่มีภาพมุมกว้างให้ได้เห็น เล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้ได้เห็นผ่านฉากหลังเบลอ ๆ จะมีสลับไปถ่ายตัวแสดงอื่นทั้งเรื่องก็รวม ๆ ไม่ถึง 10 นาที และความอึดอัดจากการได้รับรู้เรื่องราวอันหดหู่ของการสังหารหมู่ที่ฆ่าคนอย่างกับอุตสาหกรรมเร่งด่วน ยังดีที่ภาพไม่โจ่งแจ้งนักไม่มีเลือดให้เห็น

บทซอล ส่งให้ Géza Röhrig ได้เข้าชิงบนเวทีประกวดตามเทศกาลหนังหลายรางวัล และเขาก็คว้ามาได้ 2 รางวัล บท ซอล เป็นงานที่ยากเพราะหน้าเขาต้องอยู่บนจอเกือบทั้งเรื่องเราจะเห็น ซอล ทำหน้านิ่งแทบไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมาทางสีหน้าเลย มีเพียงเสี้ยวนาทีที่ ซอล มองศพลูกชายเท่านั้นที่เขาสื่อความเศร้าออกมาทางสายตา ด้วยความมุ่งมั่นที่จะฝังศพลูกชายให้ได้ ซอลไม่สนคนรอบข้างแม้กระทั่งชีวิตตัวเองที่เขาพาตัวเองไปเฉียดตายอยู่หลายครั้ง ถึงแม้ทั้งเพื่อนและคนดูจะมองว่าซอลนั้น โง่ และ ดื้อ แต่ภารกิจของเขาก็ถือเป็นเมนหลักของเรื่อง ผู้กำกับ László Nemes จึงเลือกสื่อความเป็นปัจเจกของซอลด้วยภาพที่ให้เห็นแต่ตัวซอลเด่นแยกออกจากฉากหลังและผู้คนรอบข้างอย่างชัดเจน

son-of-saul-bts-oscar-foreign-language-contenders

เป็นหนังสายรางวัลที่ดูไม่ยาก ไม่ต้องตีความ เรื่องราวไม่ง่วงไม่น่าเบื่อ บางช่วงก็ชวนลุ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์ของหนังสายรางวัลในเรื่องปริศนาบางอย่างยังดูคลุมเครือ ไม่มีคำตอบให้อย่างเด่นชัด แล้วแต่ว่าคนดูจะมองเห็นนัยยะแอบแฝงที่ซุกซ่อนอยู่ในเรื่องราว แล้วคิดหาคำตอบให้ตัวเองได้หลังหนังจบ เหมาะสำหรับคนชอบหนังทางเลือกที่แปลกต่าง คนที่ชอบเรื่องราวของยิวและนาซี และคนที่อยากพิสูจน์คุณภาพของหนังว่าสมควรจะคว้าออสการ์ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมปีนี้ได้ไหม ดูแล้วรอลุ้นกันวันจันทร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ นี้ครับ

 

Play video