เว็บไซต์ Deadline ได้รายงานว่า Universal ได้ซื้อสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่อง ‘Phantom’ ที่ดัดแปลงมิวสิคัลสุดคลาสสิก ‘The Phantom of the Opera’ ให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานการอำนวยการสร้างของ จอห์น เลเจนด์ (John Legend) นักร้อง/นักแต่งเพลงชื่อดัง เจ้าของเพลงฮิตอย่าง All of Me และ Like I’am Gonna Lose You รวมถึงเขายังได้คว้ารางวัลออสการ์จากเพลง Glory ที่เขาแด่งขึ้นร่วมกับ คอมมอน (Common) สำหรับประกอบภาพยนตร์ ‘Selma’ (2014)

John Legend
จอห์น เลเจนด์ (John Legend)

นอกจากนี้ยังได้ ฮาร์วีย์ เมสัน จูเนียร์ (Harvey Mason Jr.) ผู้อำนวยการด้านเพลงประกอบภาพยนตร์เคยชิงรางวัล Emmy จาก ‘Zoey’s Extraordinary Playlist’ (2020) และที่รู้จากผลงานด้านเพลงใน ‘Deamgirls’, ‘Straight Outta Compton’ (2015) และ ‘Sing’ (2016)

‘Phantom’ เปลี่ยนสถานที่เดินทางจากดั้งเดิมที่โรงละครในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส มาเป็นย่านเฟรนช์ควอเตอร์ (French Quarter) ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังมาในเมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา สหรัฐฯ จากบทของ จอห์น ฟัสโก้ (John Fusco) จาก ‘Spirit: Stallion of the Cimarron’ (2002) และ ‘Hidalgo’ (2004)

‘The Phantom of the Opera’ เดิมทีเป็นนิยายของ กัสตง เลอรูซ์ (Gaston Leroux) นักประพันธ์ชาวฝรั่งเศสในชื่อ ‘Le Fantôme de l’Opéra’ เมื่อปี 1909 ว่าด้วยเรื่องราวของฆาตกรสวมหน้ากากที่แฝงตัวอยู่ในโรงอุปรากรในกรุงปรารีส และได้ตกหลุมรักหญิงสาวที่มีพรสวรรค์ด้านการร้องเพลง โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงที่โรงอุปรากรแห่งหนึ่งในกรุงปรารีส เมื่อศตวรรษที่ 19

Phantom of the Opera
ภาพจากหนังสือนิยาย ‘Phantom of the Opera’ เวอร์ชัสสหรัฐฯ เมื่อปี 1911 : ภาพจาก Wikipedia

‘The Phantom of the Opera’ ได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์เงียบในปี 1925 และกลายเป็นบอร์ดเวย์มิวสิคัลระดับปรากฏการณ์โดยฝีมือประพันธ์เพลงของ แอนดรูว์ ลอยด์ เวบเบอร์ (Andrew Lloyd Webber) ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงและเล่นมาตั้งแต่ปี 1986 มาจนถึงทุกวันนี้

ไม่เพียงแค่นั้น เวบเบอร์ยังได้นำ ‘The Phantom of the Opera’ ขึ้นจอใหญ่เป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2004 โดยฝีมือการกำกับของผู้กำกับระดับอาวุโสอย่าง โจเอล ชูมาเกอร์ (Joel Schumacher) ซึ่งตัวภาพยนตร์ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก แต่ได้แจ้งเกิดให้นักแสดงที่กำลังมาแรงอย่ง เจอราร์ด บัตเลอร์ (Gerard Butler), เอ็มมี รอสซัม (Emmy Rossum) และ แพทริค วิลสัน (Patrick Wilson)

ข้อมูลอ้างอิง : screenrant

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส