“ตลาดน้อย” เป็นย่านที่ Hip & Happening สุดแล้วสำหรับเยาวรุ่นในตอนนี้ ใคร ๆ ก็พากันไปเช็กอิน เดินเล่น ถ่ายรูป เสพงานศิลป์ ชมแกลเลอรีดี ๆ จนมีร้านคาเฟ่น่ารักมากมาย เปิดปีใหม่ไอจีก็ต้องอัปเดตสักหนึ่ง หรือ อยากหาที่สร้างแรงบันดาลใจดี ๆ วีคเอนด์นี้แนะนำตลาดน้อยไปถ่ายรูปแบบจุก ๆ กันได้เลย

1. Hong Sieng Kong ฮงเซียงกง

ห้องแถวสองคูหาโดนเด่นด้วยสีน้ำเงินครามกับความมหัศจรรย์ของร้านด้านในด้วยพื้นที่ 1 ไร่ ประกอบด้วยบ้านจีนเก่าจำนวน 6 หลัง ไฮไลต์คือบ้านจีนริมน้ำด้านในสุดอายุ 200 ปี เสริมบรรยากาศขลัง ๆ ด้วยวัตถุโบราณ เช่น ประตูจากประเทศอินเดีย

บันไดไม้วนจากวังเก่า ทุกอย่างมารวมกันและเติมเต็มบางส่วนที่ขาดหายจนกลายเป็นคอนเซ็ปต์ที่ว่า Imperfection is Perfection แค่บรรยากาศชิลริมน้ำ โดยมีภาพวิวอาทิตย์ลับขอบฟ้าเป็นรางวัล ก็ทำให้ที่นี่สมบูรณ์แบบเกินจะกล่าว

เครื่องดื่มและขนมเค้กต้องลอง Sieng Kong Pudding Tea ชาสมุนไพรหอมละมุนละไม ออนท็อปด้วยพุดดิ้งหวานกลมกล่อม โรยด้วยปาท่องโก๋ตัวเล็กกรอบ คนรักสุขภาพลองเค้กทำจากผงอัลมอนด์ Flourless Orange Cake แต่ถ้าอยากจัดเต็มความอร่อย สั่งเลย New York Cheesecake รสชาติเหมือนได้บินไปชิมที่แดนลุงแซม  

ปักหมุด: ซอยวานิช 2 (ติดกับศาลเจ้าโจวซือกง) แขวงตลาดน้อย โทร. 095-998-9895 เปิดวันอังคาร–อาทิตย์ เวลา 10:00 -18:00 น. (ปิดวันจันทร์)

2. Timo and Tintin
ร้าน Timo and Tintin ชื่อที่ต้องการสื่อถึงความ Fun และ Friendly ดังนั้นร้านจึงไม่ได้จำกัดว่า ตัวร้านต้องเป็นสไตล์ไหน แต่เป็นการถ่ายทอดผ่านมุมมองความชอบและแนวคิดของ Founder จึงทำให้ Mood ในแต่ละชั้นมีความแตกต่างกัน โดยใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งของ Founder เป็นหลัก

ความน่ารักคือส่วนของแก้วน้ำป็นแก้วทึบสีขาว ติดสติกเกอร์ให้ตามลายของเมนู ภายใต้คอนเซ็ปต์ A cup of happiness 🙂 แนะนำ Dirty Dirty เป็น Espresso Shot ท็อปบนนมแช่เย็น เมื่อดื่มแล้วจะได้สัมผัสทั้ง ความร้อนของกาแฟ และความเย็นของนม ขนม Brookie เป็น Homemade Brownie+Cookie Dough สูตรพิเศษของทางร้าน ซึ่งมีจำนวนจำกัดในแต่ละวัน เนื่องจากเป็น Homemade และใส่ใจทุกวัตถุดิบเหมือนทำกินเอง

ปักหมุด: 674 ซอยวานิช 2 แขวงตลาดน้อย โทร. 062-505-3546 เปิดอังคาร-ศุกร์ 9:00-17:00 น. เสาร์-อาทิตย์ 9:00-18:00 น.

3. Citizen Tea Canteen
คอนเซ็ปต์ร้านได้แรงบันดาลใจจากย่านที่อยู่ตรงกลางระหว่างความเก่าและใหม่ ไทยและจีน และเป็น Walking Street ที่ยังให้ประสบการณ์การออกเดินสำรวจตามซอกซอยต่าง ๆ ในแบบที่ห้างสรรพสินค้าอาจจะมอบให้ไม่ได้ Citizen Tea Canteen จึงตั้งใจหยิบเอาวัฒนธรรมโรงน้ำชา หรือ โกปี้ มาปัดฝุ่นใหม่โดยเน้น ชา จากชุมชนต่าง ๆ ในประเทศไทยเป็นวัตถุดิบหลัก การตกแต่ง เน้นเรื่องวัฒนธรรมพื้นถิ่นของการดื่มชา ทั้งไทย จีน มลายู รวมถึงที่ตั้งที่อยู่ตรงข้ามศาลเจ้า โจว ซือ กง เป็นโจทย์หลัก การตกแต่ง จึงผสมผสานรูปแบบของโรงน้ำชาแบบไทยจีน และงานหัตถกรรมจากชุมชนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน

เมนูเก๋ไก๋อย่างชาไทยเย็นเบอร์ 3 มีกลิ่นของกล้วยตาก และวานิลลาเบา ๆ หรือลองชาร้อน กลิ่นเป็ดตุ๋นเจ้าท่าที่ ได้รับแรงบันดาลใจ จากก๋วยเตี๋ยวเป็ดในย่านตลาดน้อย ที่มีกลิ่นของเครื่องเทศและสมุนไพรอบอวลอยู่เบา ๆ

ปักหมุด: Citizen Tea Canteen ซอยดวงตะวัน ตรงข้ามศาลโจวซือกง ตลาดน้อย โทร. 08-1483-2434 เปิดวัน ศุกร์-อาทิตย์ 10:00-18:00 น.

4. ARBOR Cafe and Cooking Studio 

ARBOR มาจากคำว่า ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ทางด้านหลังของร้าน เมื่อมาถึงที่ร้านถ้าสังเกตจากด้านหน้าจะเห็นต้นโพสูงใหญ่ให้ร่มเงา ให้ความรู้สึกสบาย ๆ ร่มรื่น ทางร้านเป็น Cooking studio มีการทำขนมเองทุกตัว และมีการสอนทำขนมเป็นคอร์สสั้น ๆ สำหรับผู้ที่สนใจด้านเบเกอรี่  

ร้านตกแต่งเป็นสไตล์ Modern in the Classic ร้านมี 3 ชั้น ชั้นแรกเป็นห้อง Cooking ชั้น 2 เป็นที่นั่งเครื่องปรับอากาศ และชั้น 3 เป็นโซนเอาต์ดอร์ เมนูที่ไม่ควรพลาดคือ Honey Comb Lemon น้ำผึ้ง Sparking ทางร้านเสิร์ฟคู่กับไอศกรีมเลม่อนและรวงผึ้งหอมหวาน เมื่อกินคู่กันมีรสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ สดชื่น อีกอย่างคือ Spocky Rose Apples เครื่องดื่มประเภทกาแฟสูตรเฉพาะของทางร้าน รสกาแฟไม่เข้มจนเกินไป เสริมด้วยความหอมน้ำแอปเปิลแทน เมนูนี้รสสัมผัสจะเข้ม ๆ หวาน ๆ  สายกาแฟถ้ามาต้องลอง!

ปักหมุด: หัวมุมปากซอยเจริญพานิช ถนนทรงวาด แขวงตลาดน้อย โทร.088-292-1969 เปิดทุกวัน 09:00-17:00 น.

5. Mustang Blu Café

จอย อนันดา สไตลิสต์และโชว์ไดเร็กเตอร์จากวงการแฟชั่นชื่อดัง ได้สร้างสรรค์โรงแรมและคาเฟ่ที่เป็น Talk of the Town ตั้งแต่ปี 2563 จนมาถึงตอนนี้ชื่อเสียงของ เดอะมัสแตง บลูก็ยังไม่แผ่ว ด้วยความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมของอาคารเก่าใจกลางกรุงเทพมหานครอายุร่วมร้อยปี ถูกพลิกฟื้นให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่แตกต่างผ่านมุมมองเปี่ยมจริต จากโครงสร้างอาคารเดิมที่สวยสง่าคลาสสิก เสริมแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์วินเทจ มีแกรนด์เปียโนหลังงาม เทียน และแสงไฟสร้างความโรแมนติก ที่โดดเด่นคือบันไดเวียนกลางคาเฟ่มีหนังสือเก่าของจริงมากมายตกแต่งไว้ เป็นอีกมุมที่น่าถ่ายรูปที่สุด หรือจะไปโพสท่าคู่กับหุ่นสตัฟฟ์ของน้องยีราฟคอยาวที่กำลังเฝ้ามองผู้คนด้วยแววตาสนใจ 

เมนูควรสั่งของสาว ๆ คือ Country Rose น้ำกุหลาบเลม่อน ส่วนคุณหนุ่ม ๆ ไม่เน้นหวานมากสั่งได้เลย The Dark Side of Beer Cake เค้กเบียร์ดำ หรือเลือกเป็นสโคนเสิร์ฟกับเนยและแยม ทางร้านมีกำหนดให้แขกทุกคนต้องสั่งเครื่องดื่ม 1 แก้วและขนม 1 ชิ้น ถ้ายังไม่หนำใจเพราะติดที่คนเยอะเกิน เราแนะนำให้เก็บกระเป๋ามาเช็กอินที่นี่สักคืน ดื่มด่ำเสพบรรยากาศเต็มอรรถรส รับรองว่าคุณจะได้ความรู้สึกราวกับหลุดไปอีกมิติหนึ่งจริง ๆ

ปักหมุด: 721 ถ.ไมตรีจิตต์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย โทร. 06-4708-0761 เปิด 11:00-21:00 น. (ทุกวัน)

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส