ถ้าพูดถึงกระเป๋าผ้าลายดอกไม้สีสดใสคงนึกถึงแบรนด์ดอกไม้ชื่อดังจากประเทศฟินแลนด์ที่ใคร ๆ ต่างรู้จักกันดี Marimekko (มารีเมกโกะ) แบรนด์ผ้าที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่นและการใช้สีที่สดใสเฉพาะตัวมายาวนาน 70 ปี อย่างดอกอูนิกโกะ (Unikko) หรือดอกป๊อปปี้ในภาษาฟินนิช แต่ทำไมดอกอูนิกโกะที่แสนจะเรียบง่ายถึงกลายมาเป็นแบรนด์หรูในปัจจุบัน เรามาดูความสำเร็จของ Marimekko กันว่าทำไมถึงยังเป็นแบรนด์ที่คนนิยมชื่นชอบกันนัก

จากโรงงานทอผ้าในเมืองเล็ก ๆ สู่แบรนด์ระดับโลก

อาร์มี ราเทีย (Armi Ratia) ผู้ก่อตั้งแบรนด์และผู้อำนวนการฝ่ายสร้างสรรค์ Marimekko ที่มีความคิดอยากทำอะไรสักอย่างเพื่อคนฟินแลนด์ให้มีรอยยิ้มในแต่ละวัน โดยจะต้องเป็นสิ่งที่มีประโยชน์และคุ้มค่าในช่วงที่ประเทศอยู่ในภาวะขาดแคลนหลังสงคราม เธอจึงออกแบบและทอผ้าที่มีลวดลายและสีสันที่ไม่เหมือนใคร โดยก่อตั้งโรงงานทอผ้าชื่อ Printex กับวิลิโย ราเทีย (Viljo Ratia) สามีของเธอ โดยแนวคิดคือภาพและสีต้องชัดเจน ‘โดดเด่น’ และ ‘สดใส’

อาร์มี ราเทีย (Armi Ratia)

ความเรียบง่ายที่ผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่ตกยุค

การเริ่มต้นบางครั้งอาจไม่สวยหรูเสมอไป เช่นเดียวกับ Marimekko ผ้าที่มีลวดลายเรียบง่ายอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นและไม่เหมือนใคร แต่ถ้าไม่รู้ว่าจะเอาไปใช้ยังไงมันก็เป็นแค่ผ้าธรรมดา ในปี 1951 อาร์มีจัดงานแฟชั่นโชว์ขึ้นโดยเชิญดีไซเนอร์ รีตต้า อิมโมเนน (Riitta Immonen) มาเป็นผู้ออกแบบชุดทั้งหมดในคอลเล็กชันงานนี้ จนผู้คนต่างหลงใหลในลวดลาย สีสันและดีไซน์การตัดเย็บที่ทันสมัย หลังจากจบงานอาร์มีและวิลิโยได้จดทะเบียนบริษัทในนาม Marimekko หรือ Marry Dress ที่แปลว่า ชุดกระโปรงเด็กผู้หญิง

ด้วยลายที่โดดเด่นและเรียบง่ายของแบรนด์ ทำให้โลโก้ของ Marimekko เป็นตัวพิมพ์ดีดที่คลาสสิก ไม่ว่าจะผ่านมากี่ทศวรรษก็ยังเป็นโลโก้ที่เรียบง่ายสมกับภายใต้แนวคิดของอาร์มีที่ต้องการความเรียบง่ายและไม่ตกยุค

รู้หรือเปล่า ดอกอูนิกโกะที่อยู่บนกระเป๋าผ้าในปัจจุบันเกือบจะไม่ได้พิมพ์ลายแล้ว

ดอกไม้ที่เบ่งบานและสร้างสีสันให้ธรรมชาติกลายเป็นกฎในการออกแบบลายของอาร์มี ห้ามออกแบบลายดอกไม้เด็ดขาดเพราะเธอคิดว่าดอกไม้สวยงามตามธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่ควรลดทอนคุณค่าของมันและลายดอกไม้จะไปซ้ำกับลายผ้าเจ้าอื่น แต่ดีไซเนอร์คนหนึ่งที่ทำให้อาร์มีต้องกลืนน้ำลายและยกเลิกกฎในการออกแบบลายดอกไม้ของ Marimekko อย่าง ไมยา อีโซลา (Maija Isola) ที่แหกกฎเจ้านายออกแบบลาย อูนิกโกะ หรือ ดอกป๊อปปี้สีแดงที่สามารถใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย จากเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากลายดอกไม้เจ้าอื่น ทำให้ดอกอูนิกโกะเบ่งบานมาจนถึงปัจจุบันและไมยายังออกแบบลายให้ Marimekko อีก 500 กว่าลาย

ไมยา อีโซลา (Maija Isola)

ความสำเร็จของ Marimekko มาจากลวดลายที่เรียบง่าย โดดเด่นและสีสันที่เป็นเอกลักษณ์ตั้งแต่เริ่มต้นถึงปัจจุบัน ที่สื่อถึงความ Unisex ไม่ว่าเพศใดก็สามารถใช้ได้ ถือว่าเป็นแบรนด์แรกที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความเท่าเทียม โดยยึดหลักการทำงาน Design is inspired by beautiful everyday. คือการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความสวยงามในชีวิตประจำวัน ประกอบด้วยความเชื่อว่า หนึ่ง การมองโลกให้สนุก ทำงานให้สนุก และมอบพลังบวกให้คนรอบข้าง สอง การให้อิสระกับนักออกแบบ สาม สร้างสรรค์ผลงานให้มีลวดลายและสีสันที่โดดเด่น สี่ ลวดลายคลาสสิกที่เข้าได้กับทุกยุคทุกสมัย ห้า ทำความเข้าใจและยอมรับความสวยงามที่เข้ามา และหก ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน

อ้างอิง อ้างอิง อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส