[รีวิวซีรีส์] Anatomy of a Scandal ฉาวซ่อนเงื่อน – ซีรีส์นักการเมืองล่วงละเมิดทางเพศที่สนุกและทรงพลัง (แถมมาถูกเวลา)

Release Date

15/04/2022

Episodes

6 Episodes

Director

S.J. Clarkson

Cast

Rupert Friend Sienna Miller Naomi Scott Michelle Dockery Josette Simon

[รีวิวซีรีส์] Anatomy of a Scandal ฉาวซ่อนเงื่อน – ซีรีส์นักการเมืองล่วงละเมิดทางเพศที่สนุกและทรงพลัง (แถมมาถูกเวลา)
Our score
8.6

จุดเด่น

  1. เล่าเรื่องได้น่าติดตาม สนุกแบบเนื้อ ๆ ไม่เอื่อยเฉื่อย
  2. ทีมนักแสดงคือท็อปฟอร์มมาก เฉือนคมกันแบบไม่มีใครยอมใคร
  3. งานกำกับของ S.J. Clarkson เอาซีรีส์ได้อยู่หมัด กำกับอารมณ์คนดูเหมือนสั่งได้

จุดสังเกต

  1. มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ อาจไม่เหมาะกับเยาวชน
  • บทซีรีส์เข้มข้นตลอด 6 ตอนชวนลุ้นตลอด

    8.5

  • งานถ่ายทำให้มุมมองแปลกใหม่ และขับเน้นเรื่องราวให้ชวนน่าติดตาม

    8.5

  • ทีมนักแสดงมากฝีมือเฉือนคมปะทะกันสมบทบาทมาก

    9.0

  • เป็นซีรีส์สอบสวนที่มีตวามน่าติดตาม ไม่เนือย ไม่เอื่อย

    8.5

  • สมควรดูแบบรวดเดียวจบบน Netflix

    8.5

เรียกได้ว่ามาได้ถูกเวลาจริง ๆ สำหรับซีรีส์ ‘Anatomy of a Scandal’ ทั้งเนื้อหาว่าด้วยนักการเมืองหนุ่มหน้าตาดีที่ต้องขึ้นศาลเพราะถูกฟ้องร้องในดคีข่มขืนเจ้าหน้าที่วิจัยรัฐสภาที่ดันมาแบบทาบทับสนิทกับคดีฟ้องร้องนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ถูกฟ้องร้องในคดีคล้ายคลึงกัน แต่จุดที่น่าสนใจที่สุดคงหนีไม่พ้นว่าแม้นี่จะเป็นซีรีส์ขึ้นโรงขึ้นศาลทว่ามันกลับเล่าในมุมของผู้หญิงที่มีอะไรซับซ้อนซ่อนเงื่อนผ่านสายตาทั้งเมีย ทนายและเหยื่อในคดีนี้

ซีรีส์มีศูนย์กลางของเรื่องราวอยู่ที่ครอบครัวไวต์เฮาส์ที่แสนอบอุ่นต้องมาสั่นคลอนเมื่อเจมส์ (รับบทโดยรูเพิร์ต เฟรนด์ Rupert Friend) สามีในตำแหน่งวิปรัฐบาลอนาคตไกลถูกฟ้องร้องจาก โอลิเวีย ลิตตัน (รับบทโดยนาโอมิ สก็อต Naomi Scott) เจ้าหน้าที่วิจัยรัฐสภาที่กล่าวหาว่าเขาข่มขืนเธอในลิฟต์ งานนี้คนที่จะได้รับผลกระทบที่สุดหนีไม่พ้น โซเฟีย (รับบทโดยเซียนนา มิลเลอร์ Sienna Miller) ภรรยาและแม่ของลูก ๆ ที่พยายามปกป้องครอบครัวไปพร้อม ๆ กับตั้งคำถามว่าสามีที่เธอใช้ชีวิตอยู่ด้วยทุกวันเป็นคนดีจริงอย่างที่เธอคิดหรือไม่

และไม่เพียงเส้นเรื่องหลักที่ว่าด้วยคดีฟ้องร้องเท่านั้น แต่ซีรีส์ยังมีพล็อตเสริมอีกพลอตที่ทำหน้าที่เล่าคู่ขนานกันไปคือเรื่องราวของ เคท วูดครอฟต์ (รับบทโดย มิเชล ด็อกเคอรี Michelle Dockery) ทนายฝ่ายโจทย์ที่ต้องทวงความยุติธรรมให้กับเหยื่ออย่างลิตตัน แต่ในขณะเดียวกันเธอก็เก็บงำความลับบางอย่างให้คนดูต้องไปลุ้นในซีรีส์ว่าแท้จริงแล้วอำนาจและอภิสิทธิ์จะอยู่เหนือความยุติธรรมหรือไม่

Beartai Buzz รีวิวซีรีส์ Anatomy of a Scandal
Anatomy of a Scandal Season 1. Rupert Friend as James Whitehouse in episode 3 of Anatomy of a Scandal Season 1. Cr. Ana Cristina Blumenkron/NETFLIX © 2020.
Beartai Buzz รีวิวซีรีส์ Anatomy of a Scandal
Sienna Miller as Sofia Whitehouse of Anatomy of a Scandal Season 1. Cr. Ana Cristina Blumenkron/NETFLIX © 2020.

พูดกันตามตรงแล้วหนังหรือซีรีส์ที่พูดถึงคดีนักการเมืองล่วงละเมิดทางเพศไม่ใช่เรื่องใหม่เอาแค่หนังโรงก็มีทั้ง ‘Wag the dog’ (1997) และ ‘Primary Colors’ (1998) ที่เอาคดีฉาวโฉ่ของ บิล คลินตัน (Bill Clinton) มาเป็นต้นธารในการเล่าเรื่อง แต่สำหรับมินิซีรีส์อย่าง ‘Anatomy of a Scandal’ กลับขุดคุ้ยไปถึงปมอภิสิทธิ์ชนโดยเฉพาะฉากย้อนอดีตในซีรีส์ที่ทำให้เห็นเรื่องราวของหนุ่ม ๆ กลุ่มลิเบอร์ทีน ซึ่งเป็นสโมสรมหาวิทยาลัยที่เหมือนแบบจำลองโลกผู้ชายเป็นใหญ่เพื่ออธิบายถึงที่มาของเจมส์ ไวต์เฮาส์ก่อนจะเดินเข้าทางเข้าสู่สภาไปควบคู่กับเรื่องราวการต่อสู้ในชั้นศาล

ต้องยอมรับล่ะว่าความเข้นข้นและแซ่บปึ้กของนิยายชื่อเดียวกันของ ซาราห์ วอห์น (Sarah Vaughan) เป็นต้นธารให้ซีรีส์ได้ดีอยู่แล้ว แต่เราก็อดชื่นชมผู้กำกับหญิงคนเก่งอย่าง เอส เจ คลาร์กสัน (S.J. Clarkson) ที่เคยกวาดคำชมจากงานกำกับซีรีส์ทั้ง ‘Orange is the New Black’ ของเน็ตฟลิกซ์ และ ‘Life on Mars’ ที่สามารถคุมเรื่องราวและโทนอารมณ์ได้อยู่หมัดทำเอามินิซีีรีส์ 6 ตอนเต็มไปด้วยความดุเดือดแบบไว้วางใจใครไม่ได้

รวมถึงรายละเอียดหลายอย่างที่ทำให้เราเห็น “งานกำกับ” ที่แม่นยำของคลาร์กสันโดยเฉพาะซีนครอบครัวไวต์เฮาส์ที่มีเหตุการณ์เล็กน้อยอย่างเช่นฉากเล่นเกมเศรษฐีที่เจมส์เอาบัตร ‘Jail Free’ หรือบัตรพ้นคุกที่ซ่อนไว้ออกมาใช้กับลูก ๆ จนถูกเด็กน้อยทั้งสองลงทัณฑ์ด้วยหมอนก็เหมือนเป็นซีนที่บ่งบอกถึงความเป็นอภิสิทธิ์ชนของเจมส์ได้อย่างแยบยล และในขณะเดียวกันคลาร์กสันยังทำให้ผู้ชมได้เห็นความเคลือบแคลงใจของโซเฟียต่อผู้ชายที่เธอรักและเทิดทูนมาตลอดเป็นครั้งแรกได้อย่างชาญฉลาดอีกด้วย

นอกจากนี้สิ่งที่ต้องชื่นชมคืองานกำกับภาพในหนังซึ่งจากผลงานเชิงประจักษ์ในมินิซีรีส์ 6 ตอนนี้ก็ทำให้เราไม่อาจคาดหวังอะไรที่น้อยไปกว่าความยอดเยี่ยมสำหรับโปรเจกต์ ‘Madam Web’ หนังใหญ่ในจักรวาล ‘Spider-Verse’ ไม่ได้เลย

Beartai Buzz รีวิวซีรีส์ Anatomy of a Scandal
Michelle Dockery as Kate Woodcroft
Beartai Buzz รีวิวซีรีส์ Anatomy of a Scandal
Josette Simon as Angela Regan
Beartai Buzz รีวิวซีรีส์ Anatomy of a Scandal
Anatomy of a Scandal Season 1. Naomi Scott as Olivia in episode 2 of Anatomy of a Scandal Season 1. Cr. Ana Cristina Blumenkron/NETFLIX © 2020.

แต่กระนั้นแล้วก็ต้องยอมรับว่าพอจำนวนตอนของมินิซีรีส์เรื่องนี้มีแค่ 6 ตอนมันก็กลายเป็นดาบสองคมไม่น้อยเพราะในขณะที่เรื่องราวเข้มข้นแบบแทบไม่มีซีนไหนที่เกินความจำเป็นเลยและทำให้คนดูลุ้นระทึกนั่งไม่ติดแล้ว พอซีรีส์เลือกจะให้ 2 ตอนสุดท้ายนำไปสู่อะไรบางอย่างก็กลับกลายเป็นว่าเวลาในการเล่าเรื่องในส่วนหลังสุดกลับไม่พอซะอย่างนั้นจนทำให้บทสรุปของซีรีส์อาจถูกมองได้ทั้งการทิ้งปมให้คนดูคิดต่อหรือบางทีอาจกลายเป็นว่าเหมือนซีรีส์จบตัดอารมณ์กันซะอย่างนั้น

ทิ้งท้าย…อีกจุดนึงที่ต้องอวยยศกันมาก ๆ คือบรรดานักแสดงนี่แหละครับหลายคนทั้งเซียนนา มิลเลอร์ (G.I.Joe :The Rise of Cobra) รูเพิร์ต เฟรนด์ (Hitman : Agent 47) หรือกระทั่งนาโอมิ สก็อต (Aladdin, Charlie Angels) ต่างผ่านหนังใหญ่ ๆ กันมาแล้วแต่กลับไม่ค่อยได้โอกาสแสดงฝีมือก็มีมินิซีรีส์เรื่องนี้แหละครับที่ทำให้เราเห็นว่านอกจากหน้าตาหล่อสวยแล้วพวกเขามีฝีมือการแสดงที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย รวมถึงมิเชล ด็อกเคอรี จากซีรีส์ ‘Downton Abbey’ ที่สร้างเซอร์ไพรส์มาก ๆ ในบทเคท วูดครอฟต์ก็ทำให้ตัวละครของเธอในช่วงหลังเต็มไปด้วยปริศนาที่ชวนให้เราติดตามแบบไม่อาจละสายตาได้เลย และโจเซตต์ ไซมอน (Josette Simon) ในบทแองเจลา รีแกน ทนายจำเลยสุดเขี้ยวก็เข้มข้นไม่แพ้กัน

สำหรับตอนจบของ ‘Anatomy of a Scandal’ เราคงไม่สปอยล์นะครับแต่บอกได้คำเดียวว่ามันเจ็บแสบไม่น้อยและที่สำคัญหากคดีในโลกความจริงที่ประเทศไทยเป็นไปในทิศทางเดียวกันก็คงกลายเป็นตลกร้ายนอกจอฉบับไทยแลนด์โอนลี่เหมือนที่ผ่านมาไปโดยปริยาย

Beartai Buzz รีวิวซีรีส์ Anatomy of a Scandal
กดที่ภาพเพื่อชมซีรีส์ทาง Netflix

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส