[รีวิว] Thirteen Lives – ท่วมท้นกว่าน้ำฝนก็อารมณ์คนดูนี่แหละ
Our score
8.1

Release Date

05/08/2022

Runtime

147 Minutes

Genre

Drama Thriller

Director

Ron Howard

Cast

Viggo Mortensen Colin Farell Joel Edgerton สหจักร บุญธนกิจ ธีรภัทร์ สัจจกุล ณัฐวรา หงษ์สุวรรณ ศุกลวัฒน์ คณารศ ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ

[รีวิว] Thirteen Lives – ท่วมท้นกว่าน้ำฝนก็อารมณ์คนดูนี่แหละ
Our score
8.1

จุดเด่น

  1. งานโปรดักชันของหนังเนี้ยบมาก ไม่น่าเชื่อว่าไปถ่ายที่ออสเตรเลีย
  2. นักแสดงนำทั้งวิกโก มอร์เทนเซน และ โคลิน ฟาเรลล์ ทำให้หนังเปี่ยมไปด้วยหัวใจ ชวนลุ้นระทึก
  3. บทหนังสามารถบาลานซ์ ข้อมูลเหตุการณ์จริงเข้ากับดรามาได้อย่างลงตัว
  4. งานถ่ายภาพของสยมภู มุกดีพร้อม คือพาผู้ชมไปสัมผัสเหตุการณ์ในระยะประชิด และสามารถถ่ายทอดทั้งความงามและความโหดร้ายของธรรมชาติได้อย่างยอดเยี่ยม

จุดสังเกต

  1. เสียดายที่หนังไม่ได้ฉายโรง เพราะงานสร้างของหนังดีมากจริง ๆ
  • การแสดง

    8.0

  • โปรดักชัน

    8.5

  • บทหนัง

    8.0

  • ความบันเทิง

    8.0

  • ความคุ้มค่าในการชม

    8.0

แม้ผ่านมา 4 ปีที่นั้นแต่เหตุการณ์หยุดโลกอย่างภารกิจช่วยเหลือเยาวชนทีมฟุตบอลหมูป่าและโค้ชเอกรวม 13 คนออกจากถ้ำหลวงก็ได้กลายเป็นเรื่องราวสุดเหลือเชื่อที่เหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์ต่างหาทางนำมาบอกเล่าในแบบของตนเองโดยมี ‘The Cave นางนอน’ หนังไทยฝรั่งกำกับของ ทอม วอลเลอร์ (Tom Waller) ผู้กำกับที่ผลิตหนังไทยอย่างต่อเนื่องบอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้ของทีมดำน้ำต่างชาติในภารกิจนี้ออกฉายพร้อมดราม่ารอบสื่อที่ท่านอดีตผู้ว่าวอล์กเอาต์และต่อว่าหนังอย่างรุนแรง ออกฉายนำร่องไปก่อนแล้วในปี 2019 และในปีนี้ ‘Thirteen Lives’ อีกหนึ่งหนังจากเหตุการณ์นี้ก็ได้ฤกษ์ฉายทางสตรีมมิงน้องใหม่อย่าง Prime Video ในวันนี้

หากเทียบกับ ‘The Cave นางนอน’ แล้วสิ่งที่ ‘Thirteen Lives’ ใช้เป็นโครงเรื่องก็มีบางส่วนที่ทาบทับกันสนิททั้งเรื่องของนักดำน้ำอังกฤษที่หนังเรื่องแรกใช้เป็นตัวละครหลักในการดำเนินเรื่อง โดยเฉพาะนักดำน้ำชื่อคริส ที่มีในหนังทั้ง 2 เรื่อง แต่สิ่งที่ ‘Thirteen Lives’ ดูจะก้าวข้ามกับดักเรื่องเล่าจากความจริงคือการที่หนังมุ่งนำเสนอ ‘อารมณ์’ ตัวละครเป็นศูนย์กลาง แม้กระทั่งฉากเปิดเรื่องที่แม้จะมีฉากเตะฟุตบอล ฉากจอดจักรยานหน้าถ้ำแล้วเดินเข้าไปเหมือนกัน แต่หนังก็ทำให้เห็นความเป็น “มนุษย์” มากกว่าความเป็น “บุคคลในข่าว” แบบในหนังเรื่องแรก

และเมื่อหนังได้นำเสนอตัวละครฝั่งไทยอย่าง นายณรงศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายขณะนั้นและทีมงานบางส่วนอย่างทีมวิศวกรน้ำที่มีส่วนช่วยในการผันน้ำออกจากถ้ำไปแล้ว การที่หนังไปโฟกัสตัวละครนักดำน้ำในถ้ำอย่าง ริค และ จอห์น พร้อมปูสถานะที่ต่างกันเมื่อฝ่ายแรกคือหนุ่มโสดที่ประกาศตัวว่าไม่ได้ชอบเด็กด้วยซ้ำกับฝ่ายหลังที่เป็นพ่อที่มีลูกชายพร้อมแนวคิดที่แทบจะต่างกันโดยสิ้นเชิงก็สร้างความดรามาติกให้เรื่องราวที่ถูกห่อหุ้มด้วยข้อมูลข่าวสารที่คนทั้งโลกรู้อยู่แล้วได้อย่างลงตัว

Beartai Buzz รีวิว Thirteen Lives
Beartai Buzz รีวิว Thirteen Lives

รวมถึงการใช้บริการนักแสดงระดับเอลิสต์อย่าง วิกโก มอร์เทนเซน (Viggo Mortensen) และ โคลิน ฟาเรลล์ (Colin Farell)มาแสดงเป็นริคและจอห์นนี่แหละครับคือการดึงให้หนังสามารถโน้มน้าวอารมณ์ผู้ชมได้โดยไม่ลืมที่จะกล่าวถึงบริบทแวดล้อมทั้งภารกิจผันน้ำที่เอาความเสียสละของชาวนาในพื้นที่มาสร้างอารมณ์ดราม่าชวนน้ำตาซึมให้หนังได้อย่างลงตัว หรือกระทั่งภารกิจของจ่าแซมที่ได้เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ มารับบทบาทสำคัญก็เป็นการให้เกียรติกับความเสียสละของวีรบุรุษได้แบบที่คนไทยเองก็ไม่มองว่าหนังไปโปรต่างขาติเหมือน ‘The Cave นางนอน’ ได้อย่างหมดจดงดงาม

ซึ่งในภาพรวมนอกจากบทหนังที่ถูกเขียนอย่างรัดกุมโดย วิลเลียม นิโคลสัน (William Nicholson) ที่เล่าเรื่องราวได้รอบด้านและเปี่ยมอารมณ์แล้ว การได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง รอน ฮาวเวิร์ด (Ron Howard) ที่เชี่ยวชาญการทำหนังจากเรื่องจริงมาตั้งแต่ ‘Apollo 13’ ในปี 1995 ซึ่งกับ ‘Thirteen Lives’ โฮเวิร์ดก็ยังโชว์ฝีมือได้จัดจ้านผสานดราม่าผสมกับข้อมูลจริงได้อย่างลงตัวมาก ๆ และที่สำคัญมากคือโฮเวิร์ดใส่หัวใจแบบคนไทยลงไปในเรื่องราวด้วยเลยทำให้ภาพรวมของหนังไม่ได้เนยนมเสียจนกลบความกลมกล่อมและมีรสชาติแบบไทย ๆ เสียทีเดียว

Beartai Buzz รีวิว Thirteen Lives
Beartai Buzz รีวิว Thirteen Lives

เห็นได้จากการที่หนังใช้ภาษาไทยในการดำเนินเรื่องถึง 60% และการนำเสนอพิธีกรรมความเชื่อแบบไทย ๆ ที่ถูกถ่ายทอดได้อย่างลงตัวผ่านงานถ่ายภาพของ สยมภู มุกดีพร้อม ผู้กำกับภาพชาวไทยที่ถ่ายทอดทั้งความงามของภูมิทัศน์ ความโหดร้ายชวนลุ้นระทึกใต้น้ำในถ้ำและภาพสุดดรามาติกของการรวมใจของคนทั้งโลกในพื้นที่เกิดเหตุ ภายใต้การออกแบบงานสร้างที่บันดาลให้พื้นที่ถ่ายทำในออสเตรเลียกลายเป็นถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนได้แนบเนียนไม่น้อยซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นฝีมือคนไทยอย่าง สราวุฒิ ชินเจริญ โปรดักชันดีไซเนอร์มือต้น ๆ ของไทยไปร่วมทีมกับทาง มอลลี ฮิวจ์ส (Molly Hughes) ดีไซเนอร์หลักของหนังจนทำให้งานสร้างของหนังออกมาสมจริงแนบเนียนจนดูแทบไม่รู้เลยว่าหนังไปถ่ายทำกันถึงประเทศออสเตรเลีย

หากจะเจาะจงหาจุดอ่อนของหนังจริง ๆ ก็ดูจะทำให้ผมเป็นคนจู้จี้จุกจิกไปเลยครับเพราะปัญหามันมีเพียงว่าการที่หนังไปถ่ายทำในออสเตรเลียและต้องใช้นักแสดงประกอบคนไทยในพื้นที่ที่บางคนก็พูดภาษาไทยด้วยสำเนียงฝรั่งแต่ก็หลุดมาไม่เยอะนะครับ มิหนำซ้ำการที่ต้องเทรนให้คนไทยในออสเตรเลียอู้กำเมืองก็ยิ่งทำให้เห็นความพยายามเสียด้วยซ้ำ เรียกง่าย ๆ ว่าปัญหาของหนังเป็นเพียงฝุ่นผงที่พัดพาสัมผัสดวงตาแต่ไม่ระคายเคืองแต่อย่างใดครับ

Beartai Buzz รีวิว Thirteen Lives
กดที่ภาพเพื่อชมภาพยนตร์ทาง Prime Video

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส