[รีวิวซีรีส์] Guillermo del Toro’s Cabinet of Curiosities: กีเยร์โมกับตู้แห่งความลับ สไตล์ Lovecraft (วันแรก)
Our score
8.0

Release Date

25/10/2022

ความยาว

8 ตอน ตอนละประมาณ 30-50 นาที

[รีวิวซีรีส์] Guillermo del Toro’s Cabinet of Curiosities: กีเยร์โมกับตู้แห่งความลับ สไตล์ Lovecraft (วันแรก)
Our score
8.0

Guillermo del Toro's Cabinet of Curiosities

จุดเด่น

  1. คุณภาพงานโปรดักชันที่ดี เรื่องเล่าจากเรื่องสั้นคลาสสิกที่มีกลิ่นแบบเลิฟคราฟต์ และนักแสดงชั้นดีที่คัดสรร และเหนืออื่นใดวิสัยทัศน์การนำเสนอภาพสยดสยองที่ตราตรึงใจ

จุดสังเกต

  1. งานซีจีมีบางจุดที่ยังไม่เนี้ยบ การเน้นภาพศพที่สยดสยองเกินจริงก็อาจไม่ถูกจริตบางคน
  • บท

    7.5

  • โปรดักชัน

    8.5

  • การแสดง

    7.5

  • ความบันเทิงตามแนวหนัง

    8.5

  • ความคุ้มค่าการรับชม

    8.0

เรื่องย่อ: กีเยร์โม เดล โตโร (Guillermo del Toro) ผู้กำกับชื่อดังขอมาเป็นครีเอเตอร์ซีรีส์รวมเรื่องสั้นแนวสยองขวัญหลากหลายแนวจากผู้กำกับหลากหลายรสนิยม โดยออกอากาศวันละ 2 ตอนจนครบทั้ง 8 ตอนในวันที่ 28 ตุลาคม เพื่อเปิดบรรยากาศสุดสยองสำหรับฮาโลวีนในปีนี้

‘Guillermo del Toro’s Cabinet of Curiosities’ คือซีรีส์สยองขวัญจากการคัดสรรเองของผู้กำกับออสการ์อย่าง กีเยร์โม เดล โตโร ที่มีผลงานฝั่งสยองขวัญมีระดับที่ยังคงติดฝังหัวผู้ชมหลายคนอย่าง ‘Pan’s Labyrinth’ (2006) แต่ในครั้งนี้เขาขอมาทำหน้าที่ป๋าดันให้นักสร้างหนังแววดีหลายคนได้ลองมาทำหนังสั้นขนาด 30-50 นาทีกันคนละหนึ่งเรื่อง โดยเดล โตโรมีเครดิตคิดเรื่องให้ในตอนแรกและตอนจบของซีรีส์

ส่วนที่เหลือก็จะเป็นการดัดแปลงจากเรื่องสั้นของนักเขียนแนวสยองขวัญชื่อดังในอดีตหลายคน อาทิ เฮนรี คุตต์เนอร์ (Henry Kuttner) หนึ่งในกลุ่ม ‘Lovecraft Circle’ ผู้แต่งเติมจินตนาการของจักรวาล เอช. พี. เลิฟคราฟต์ (H. P. Lovecraft) รวมถึงเรื่องสั้นของเลิฟคราฟต์เองก็ได้รับการดัดแปลงทำในซีรีส์นี้ด้วยถึง 2 ตอน นอกจากนี้ยังมีนักเขียนยุคปัจจุบันที่ได้รับรางวัลด้านวรรณกรรมสยองขวัญเป็นการันตี เช่น ไมเคิล เชีย (Michael Shea) และ อีมิลี คาร์รอล (Emily Carroll) อีกด้วย

Guillermo del Toro

Lot 36

สำหรับตอนแรกที่เป็นไอเดียของเดล โตโรเอง มีชื่อว่า ‘Lot 36’ ก็ได้ กีเยร์โม นาวาร์โร (Guillermo Navarro) ผู้กำกับภาพคู่บุญของเดล โตโร จากหนัง ‘Pan’s Labyrinth’ มาลองกำกับดูบ้าง หลังจากเคยลองมือกับการกำกับบางตอนในซีรีส์อย่าง ‘Hannibal’ และ ‘Narcos’ และอีกหลายเรื่องมาแล้ว

เนื้อหาของตอนนี้ว่าด้วยตู้เช่าเก็บของหมายเลข 36 ที่ผู้เช่าเกิดเสียชีวิตและไม่มีใครเป็นญาติมารับของไป ซึ่งตามปกติเจ้าของโกดังให้เช่าตู้นี้ก็จะดำเนินการบังคับขายทอดตลาด โดยเปิดประมูลของทั้งหมดในตู้เช่านั้นให้กับพวกนักสะสมและพ่อค้าของเก่าที่เหมือนมาลองซื้อกล่องสุ่ม

ซึ่ง นิก อดีตทหารเวียดนามที่ชีวิตตุปัดตุเป๋โดนคนทวงหนี้รังควานจนมาขอลองเดิมพันประมูลตู้เช่านี้หวังว่าจะเจอของมีค่าปะปนไปขายใช้หนี้บ้าง ทว่าก่อนนั้นเจ้าของโกดังก็ให้เขาดูเทปกล้องวงจรปิดแสดงพฤติกรรมแปลก ๆ ของผู้เช่าสูงอายุที่ต้องมาที่ตู้เช่านี้ทุกวันจนกระทั่งเสียชีวิต เขาจะกระโดดก่อนเข้าและออกตู้เช่าเสมอ และของในกระเป๋าที่เขาเอามาด้วยก็มักจะหายไปในตู้เช่านั้นอย่างน่าพิศวง แต่นิกที่จนตรอกก็ไม่สนใจและเข้าไปหาของมีค่าไปขายพวกร้านของเก่าจนได้ และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวสยองที่ซ่อนเอาไว้ในตู้เช่าหมายเลข 36

Guillermo del Toro's Cabinet of Curiosities

‘Lot 36’ เป็นตอนที่เสน่ห์ของการเล่าเรื่องมาจากการสร้างตัวละครอย่าง นิก ได้น่าสนใจ เขาดูน่าเห็นใจและน่ารังเกียจไปพร้อม ๆ กัน แล้วยิ่งได้นักแสดงอย่าง ทิม เบลก เนลสัน (Tim Blake Nelson) ที่มีผลงานเชี่ยวกรำในการแสดงมารับบทด้วยแล้ว ยิ่งทำให้นิกดูมีมิติบางอย่างที่น่าสนใจมาก ส่วนของความสยองนั้นต้องบอกว่ามันมาจากความน่าสงสัยและปริศนาของตู้เช่า รวมถึงการสร้างบรรยากาศของสถานที่ได้ชวนขนลุกมากกว่า และเมื่อสิ่งเลวร้ายปรากฏรูปร่างขึ้นมา ก็ต้องบอกว่าดีไซน์การออกแบบนั้นน่าสนใจและน่ากลัวดีทีเดียว คือถ้าเดล โตโร ได้ทำเกม ‘Silent Hill’ ตามที่เคยมีข่าวเมื่อนานมาแล้ว ก็เชื่อว่าคงจะมีตัวอะไรแบบนี้อยู่เต็มเกมไปหมดเช่นกัน

โดยส่วนตัวถือว่าเปิดซีรีส์ได้น่าติดตามทีเดียวกับตอนแรกอย่าง ‘Lot 36’

Graveyard Rats

‘Graveyard Rats’ ได้ผู้กำกับ วินเซนโซ นาตาลี (Vincenzo Natali) จากหนังไซไฟไอเดียดีอย่าง ‘Cube’ (1997) และ ‘In the Tall Grass’ มาดัดแปลงเรื่องสั้นในปี 1936 ของนักเขียน เฮนรี คุตต์เนอร์ ด้วยบรรยากาศย้อนยุคครั้งที่ยังมีรถม้าและโจรขโมยสุสาน แต่สำหรับ โอลด์ แมสสัน ผู้ดูแลสุสานแห่งหนึ่ง แทนที่เขาจะปกป้องผู้วายชนม์ที่เขาต้องรับผิดชอบดูแลเขากลับฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินติดตัวผู้ตายเสียเอง อาจด้วยเพราะติดหนี้ก้อนโตที่ต้องไถ่ถอนไม่อย่างนั้นจะถูกเอาชีวิตทำให้แม้แต่ฟันทองของศพก็มีค่าต่อชีวิตของเขาไปได้อีกพักนึง

แต่แล้วแมสสันก็พบว่าศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดไม่ใช่พวกโจรหนุ่มที่มาขโมยขุดสุสานตัดหน้า แต่เป็นพวกฝูงหนูที่ขุดโพรงทำรังอยู่ในสุสานและกัดแทะซากศพรวมถึงเครื่องประดับทั้งหลายจนหมดต่างหาก และเมื่อการต่อสู้กับเวลาว่าใครจะได้ถึงตัวศพก่อนกันระหว่างคนกับหนูเริ่มขึ้น แมสสันก็พบว่าเขาตกเข้าไปอยู่ในวังวนแห่งความฉิบหายโดยไม่รู้ตัวเสียแล้ว

Guillermo del Toro's Cabinet of Curiosities

เป็นตอนที่ให้อารมณ์พวกสยองขวัญคลาสสิกจริง ๆ มีคนชั่วเดินเรื่อง มีความเชื่อดำมืดในแบบเลิฟคราฟต์ เรื่องราวของขุมทรัพย์ต้องห้ามและฝูงสัตว์ร้ายที่น่าสยดสยอง แต่ด้วยการให้ เดวิด ฮิวเลตต์ (David Hewlett) จากหนัง ‘The Shape of Water’ (2017) ที่แสดงได้ดี แต่เลือกให้นำเสนอตัวละครแมสสันไปในทางเล่นละครเวทีมากกว่าหนังที่ทำให้ดูขบขันในบางครั้ง ก็ลดทอนความน่าหวาดหวั่นลงไปพอควร แต่ตัวหนังก็ยังมีแง่ดีจากการนำเสนอภาพศพที่ชวนหลอนติดตาได้มาทดแทน

จริงแล้ว ‘Graveyard Rats’ เคยถูกดัดแปลงเป็นหนังโทรทัศน์เรื่อง ‘Trilogy of Terror II’ (1996) มาแล้วแต่ต่างจากเนื้อหาในเรื่องสั้นของคุตเนอร์ค่อนข้างมาก ครั้งนี้ถือว่าเป็นงานที่เคารพบทประพันธ์มากที่สุดทีเดียว

Guillermo del Toro's Cabinet of Curiosities

2 ตอนแรกของ ‘Guillermo del Toro’s Cabinet of Curiosities’ ต้องบอกว่า ตัวซีรีส์มีความโดดเด่นในการนำเสนอด้านภาพที่ดีเลย มีความเป็นเลิฟคราฟต์ในการนำเสนอค่อนข้างสูง โปรดักชันของซีรีส์อยู่ในระดับหนังคุณภาพ ซีจีทำได้ค่อนข้างดีมีหลุดลอยบ้างแค่บางฉาก การดีไซน์ภาพลักษณ์ทั้งปีศาจและการสร้างบุคลิกตัวละครน่าสนใจดูมีมิติ แม้เรื่องการเป็นหนี้ที่เป็นแรงขับดันตัวละครทั้งสองตอนจะดูซ้ำทางกันอยู่บ้าง และถ้าจะมีที่ติงก็คงเป็นจังหวะที่ต้องการจัมป์สแกร์เบา ๆ นั้น ยังไม่ค่อยแม่นยำเท่าไรนักทำให้ดูแปลกประหลาดแต่ก็เป็นเพียงแผลเบา ๆ ที่มองข้ามได้

รอติดตามจนครบทั้ง 8 ตอนทางเน็ตฟลิกซ์ได้ในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ เหมาะกับคนไม่ชอบเรื่องผีแบบวิญญาณ ไม่มีจัมป์สแกร์ให้ตกใจ ได้ความหลอนแบบลัทธิความเชื่อ มีสัตว์ประหลาดแบบเลิฟคราฟต์ และที่สำคัญต้องดูสภาพศพแบบน่ากลัว ๆ ไหวพอประมาณ

Guillermo Del Toro’s Cabinet of Curiosities

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส