[รีวิว] Tin & Tina: พระศรัทธา อาละวาด
Our score
6.5

Release Date

26/05/2023

ความยาว

119 นาที

ผู้กำกับ

รูบิน สไตน์ (Rubin Stein)

[รีวิว] Tin & Tina: พระศรัทธา อาละวาด
Our score
6.5

Tin & Tina

จุดเด่น

  1. งานศิลป์และเพลงแบบย้อนยุค เสริมด้วยฉากหลังที่มีเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ทางการเมืองรองรับ เนื้อหาที่ชวนถกเถียงตีความ และการแสดงที่ลงตัว แม้จะเป็นผลงานหนังเรื่องแรกก็ทำได้คุณภาพสูง

จุดสังเกต

  1. การนำเสนอฉากหลังเรื่องการเมืองอาจคลุมเครือจนคนดูไม่เข้าใจว่าคืออะไร
  • บท

    7.0

  • โปรดักชัน

    7.0

  • การแสดง

    6.5

  • ความสนุกตามแนวหนัง

    7.0

  • ความคุ้มค่าการรับชม

    6.5

เรื่องย่อ: หลังจากแท้งบุตรอย่างน่าเศร้า สองสามีภรรยาจึงได้รับเลี้ยง สองแฝดเผือกชายหญิงที่กำพร้ามาจากโบสถ์ เด็กทั้งสองผ่านการศึกษาแบบเคร่งศาสนามาตั้งแต่จำความได้ ซึ่งทำให้พวกเขาตีความพระคัมภีร์ไบเบิลแบบคำต่อคำและกลายเป็นปัญหาในการปรับตัวกับโลกภายนอก

ผลงานสยองระทึกขวัญจากสเปนที่มีพลอตแบบ เด็กปีศาจ ที่มีเล่นกันมาหลายเรื่องและหลายสิบปีแล้ว แต่ก็มีความน่าสนใจในตัวเองที่พอจับต้องและโดดเด่นขึ้นมาในแนวทางใหม่ ๆ ได้

โดยเป็นผลงานของผู้กำกับหน้าใหม่อย่าง รูบิน สไตน์ (Rubin Stein) ที่นิตยสารภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Variety เคยจัดอันดับเป็น 1 ใน 10 นักสร้างหนังสเปนหน้าใหม่ที่น่าจับตามอง หลังจากผลงานชุดหนังสั้นแนวสยองขวัญภาพขาวดำของเขาถูกรับเลือกไปตระเวนฉายในหลายเทศกาลหนังทั่วโลก โดยเฉพาะ ‘Tin & Tina’ (2013) ที่เป็นเรื่องแรกในชุด ก็ได้ถูกเลือกให้พัฒนามาเป็นหนังยาวเรื่องแรกของสไตน์ และหากประสบความสำเร็จก็อาจได้เห็นหนังยาวจากชุดหนังสั้นเรื่องที่เหลืออย่าง ‘Nero’ (2017) และ ‘Bailaora’ (2018) ตามมาก็ได้

‘Tin & Tina’ ฉบับหนังยาวนี้ได้ขยายเรื่องราวผ่านสายตาของคุณแม่ยังสาวอย่าง โลลา ในวันที่มีความสุขที่สุดอย่างวันแต่งงานเธอกลับแท้งลูก และถูกหมอบอกว่าเธอจะไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีกทำให้เธอหมดศรัทธาต่อพระเจ้า แต่สามีของเธออย่าง อดอลโฟ ที่เป็นนักบินและไม่ค่อยอยู่บ้านอยากให้เธอมีคนอยู่เป็นเพื่อนจึงคะยั้นคะยอให้ไปรับบุตรบุญธรรมจากโบสถ์ และนั่นคือการพบกับเด็กแฝดเผือกที่โดดเด่นและไร้เดียงสาอย่าง ทิน และ ทินา

พวกเขาเป็นเด็กที่บริสุทธิ์ทั้งความคิดและจิตใจ ร่าเริงและออดอ้อน แต่กระนั้นก็มีความหมกมุ่นจริงจังในเรื่องของพระคัมภีร์คำสอนของศาสนาคริสต์อย่างเข้มข้น จนแยกไม่ออกระหว่างคำสอนเปรียบเปรยที่ต้องตีความกับเรื่องจริง สมมติว่าพระคัมภีร์กล่าวว่าบุตรพระเจ้าสละไวน์ให้ผู้คนดื่มกินโดยบอกว่านี่คือเลือดของเรา ทินและทินาก็อาจกรีดเลือดของตนหรือแม่ชีที่น่าเคารพมาบ่มเป็นไวน์ได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ และสิ่งเหล่านี้สร้างความหลอนและกังวลใจต่อโลลาขึ้นมาทีละนิด จนกลายเป็นความหวาดระแวงว่าทินและทินาคือเด็กปีศาจในที่สุด

Tin & Tina

จุดที่น่าสนใจของหนังเรื่องนี้คือการที่นำเสนอ ทินและทินา สองแฝดด้วยความเป็นเด็กน้อยที่มองโลกอย่างตรงไปตรงมา และกระทำความชั่วร้ายด้วยใจศรัทธาอย่างบริสุทธิ์อย่างยิ่ง จนกล่าวได้ว่าสองเด็กน้อยก็อาจเป็นเหยื่อที่น่าสงสสารได้เช่นกัน ทั้งนี้กลวิธีของสไตน์คือให้คำใบ้ออกมาอย่างไม่ชัดเจนว่าจริงแล้วพวกเด็กนั้นเข้าใจในความหมายของสิ่งที่กระทำมากแค่ไหนหรือจริงแล้วเพียงเอาพระคัมภีร์มาแอบอ้างต่อความอยากในจิตใจของพวกเขา จนกระทั่งจบเรื่องก็เชื่อว่าคนดูแต่ละคนคงมีคำตอบออกมาหลากหลาย

นอกจากการตีความในแง่ของศาสนาที่ล้างสมองคน หนังยังสอดแทรกเหตุการณ์ในโทรทัศน์ที่ทำให้รู้ว่าฉากหลังของเรื่องน่าจะอยู่ในยุคที่การเมืองสเปนเข้มข้นสุดขีดช่วงหนึ่ง โดยเราได้เห็นข่าวเหตุการณ์การรัฐประหารในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 1981 เมื่อพันโทอันโตนิโอ เตเจโร พร้อมด้วยกำลังพลติดอาวุธ 200 นาย บุกเข้าไปในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรในกรุงมาดริดระหว่างการลงมติสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานรัฐบาลคนใหม่ กลุ่มรัฐประหารจับสมาชิกรัฐสภาและรัฐมนตรีเป็นตัวประกันเป็นเวลานานกว่า 18 ชั่วโมง ก่อนจะถูกปฏิเสธความชอบธรรมจนคณะรัฐประหารต้องยอมวางอาวุธมอบตัวเนื่องจากกษัตริย์สเปนไม่ยอมรับรองการทำรัฐประหารและกล่าวประนามผ่านสถานีโทรทัศน์ เช่นเดียวกับในช่วงท้ายเรื่องเราจะได้เห็นเหตุการณ์การเมืองที่คลี่คลายมีการตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งก็อาจนำไปพิจารณาถึงสารที่ซ่อนอยู่ในเรื่องอีกชั้นหนึ่งได้ด้วย แล้วแต่ว่าใครจะตีความอย่างไร

ด้วยฉากหลังในช่วงปี 1980 หนังจึงโดดเด่นจากการออกแบบศิลป์และเพลงที่ย้อนยุคและน่าสนใจ มีความแปลกประหลาดไม่เข้ากับเหตุการณ์แต่ก็ชวนหลอน อย่างฉากการแสดงกลจานหมุนของพวกเด็ก ๆ ประกอบเพลงเก่าที่เนื้อหาชวนขบขันและงุนงง ต้องขอบคุณที่เน็ตฟลิกซ์มีการแปลเนื้อหาของเพลงมาด้วยทำให้เข้าใจบริบทของการแสดงฉากนั้นมากขึ้นและหลอนดีทีเดียว

Tin & Tina

นอกจากนี้ผู้กำกับสไตน์ยังแสดงความทะเยอทะยานผ่านฉากลองเทคในช่วงท้ายของหนัง ที่มันอาจไม่ได้ทรงพลังขั้นสุดแต่ก็สัมผัสได้ถึงความตั้งใจและพยายามในการนำเสนอจากผู้กำกับหน้าใหม่คนนี้ น่าจับตามมองอย่างที่นิตยสารภาพยนตร์ดังกล่าวไว้จริง ๆ

หนังได้ มิเลนา สมิต (Milena Smit) จากซีรีส์เน็ตฟลิกซ์ ‘The Girl in the Mirror’ (2022) มารับบทโลลาคุณแม่ที่หวาดระแวง และได้ ไอมี ลอเรนเต (Jaime Lorente) จากซีรีส์ ‘Money Heist’ (2018) มารับบทอดอลโฟคุณพ่อที่พยายามทำให้ครอบครัวสงบสุข และนำเสนอดาราเด็กที่น่าสนใจอย่าง อนาสตาเซีย รุสโซ (Anastasia Russo) กับ คาร์ลอส กอนซาเลส โมรอลลอน (Carlos González Morollón) มารับบท ทินา และทิน ตามลำดับ ซึ่งแต่ละคนก็รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดี

ใครชอบหนังแนวเด็กปีศาจหนังเรื่องนี้อาจไม่ได้สยดสยองสะใจ แต่มันก็มีองค์ประกอบที่น่าถกเถียงและให้ตีความมากมาย น่าสนุกทีเดียว

Tin & Tina

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส