ปี 2023 นี้นับว่าเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ของ วอลต์ ดิสนีย์ สตูดิโอ เพราะจะครบรอบ 100 ปีของบริษัท และน่าจะเป็นอีกปีที่ดิสนีย์จะกวาดรายได้อย่างมหาศาล เพราะแค่เพิ่งเดือนที่ 2 ของปี หรือผ่านไปแค่ 50 วัน ดิสนีย์ก็ทำรายได้ผ่านหลัก 1,000 ล้านเหรียญไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ตัวเลขดังกล่าวล้วนเป็นรายได้มาจาก Avatar: The Way of Water, Titanic ที่กลับมาเข้าโรงฉายใหม่ และ Ant-Man and the Wasp: Quantumania ที่เพิ่งเปิดตัว

Bob Iger

ถ้าพูดถึงตัวเลขเป๊ะ ๆ ที่ดิสนีย์ทำรายได้จากทั่วโลกก็คือ 1,283 ล้านเหรียญ ซึ่งรวมถึงรายได้เปิดตัวเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาของ Ant-Man and the Wasp: Quantumania ที่ตัวเลข 225 ล้านเหรียญไว้ด้วย รายได้ดังกล่าวแบ่งออกเป็น รายได้ในสหรัฐฯ ที่ 383 ล้านเหรียญ และรายได้นอกสหรัฐฯ ที่ 900 ล้านเหรียญ รายได้นอกสหรัฐฯ ที่พุ่งไปได้สูงขนาดนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่ Avatar: The Way of Water ได้อนุญาตให้เข้าฉายในประเทศจีน

และอีกส่วนสำคัญที่ทำให้รายได้รวมของดิสนีย์มีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นกว่าที่ผ่านมา นั่นก็เป็นเพราะการที่ดิสนีย์ได้เข้าซื้อ 20th Century Fox เมื่อปี 2019 ทำให้ดิสนีย์มีรายได้จากหนัง Titanic ที่นำมาออกฉายอีกรอบเพิ่มไปด้วย แต่ในขณะที่ดิสนีย์กอบโกยรายได้มหาศาลขนาดนี้ บรรดาสื่อต่าง ๆ ก็ยังคงเพ่งเล็งไปที่สถานะการเงินของดิสนีย์ นั่นก็เพราะนโยบายใหม่ของ บ็อบ ไอเกอร์ (Bob Iger) ที่เพิ่งกลับมารับตำแหน่ง CEO ของบริษัท ที่เผยนโยบายลดต้นทุนต่าง ๆ ในบริษัท ซึ่งกำลังจะมีผลบังคับใช้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

ตารางรายได้ทั่วโลกปี 2019 ที่ดิสนีย์สร้างสถิติใหม่

เนื่องด้วยดิสนีย์เป็นบริษัทใหญ่ ที่มีบริษัทย่อยอยู่ภายใต้ขายคามากมาย ทำให้ดิสนีย์มีหนังฟอร์มใหญ่อยู่ในคลังเตรียมพร้อมออกฉายในแต่ละปีมากมายกว่าสตูดิโออื่น ๆ จึงไม่แปลกที่แต่ละปี ดิสนีย์จะครองแชมป์สตูดิโอที่ทำรายได้สูงสุดอยู่เสมอ อย่างในปี 2019 ช่วงก่อนจะเข้าสู่ภาวะโควิด-19 แพร่ระบาดนั้น ดิสนีย์ก็กวาดรายได้รวมไปที่ 11,120 ล้านเหรียญ เป็นปีที่ดิสนีย์ทำสถิติรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในปีนั้นดิสนีย์มีหนังถึง 8 เรื่อง อยู่ในอันดับ TOP 10 หนังที่ทำรายได้สูงสุด แน่ ๆ ว่าอันดับ 1 ในปีนั้นคือ Avengers: Endgame ส่วนอีก 7 เรื่องที่อยู่ในอันดับก็คือ The Lion King, Frozen II, Star Wars: The Rise of Skywalker, Toy Story 4 และ Aladdin ซึ่งทุกเรื่องนี้ล้วนทำรายได้เกิน 1,000 ล้านเหรียญ

ปี 2023 นี้ ถึงแม้จะมีหนังทุนสร้างมหาศาลอย่าง Avengers แต่ก็ยังมีหนังที่มีแนวโน้มจะทำรายได้ถล่มทลายอย่าง Guardians of the Galaxy Vol. 3 และ The Marvels ในช่วงซัมเมอร์ของปีนี้ ดิสนีย์ก็เตรียมปล่อย The Little Mermaid เวอร์ชันคนแสดง และ Indiana Jones and the Dial of Destiny ซึ่งดิสนีย์คาดหวังว่าทั้งสองเรื่องจะทำรายได้สูงสุดของปีนี้ ช่วงปลายซัมเมอร์ ดิสนีย์ก็จะปล่อย Haunted Mansion และตามด้วย Elemental หนังแอนิเมชันเรื่องล่าสุดจาก Pixar ปิดท้ายซัมเมอร์ด้วย A Haunting in Venice ปฏิบัติการครั้งสุดของนักสืบ แอร์กูล ปัวโรต์ ที่ เคนเน็ธ บรานาห์ กลับมารับบทนำและกำกับเช่นเคย ซึ่งทั้งหมดก็เป็นเพียงการคาดการณ์ เพราะไม่ใช่ว่าหนังดิสนีย์จะประสบความสำเร็จไปเสียทุกเรื่อง เมื่อปลายปีที่แล้ว ดิสนีย์ก็เพิ่งมีหนังคว่ำให้เห็นเหมือนกัน กับ Strange Worlds แอนิเมชันที่ใช้ทุนสร้างไป 120 ล้านเหรียญ แต่ทำรายได้กลับมาแค่ 73 ล้านเหรียญเท่านั้น

แม้ว่าปี 2023 นี้ ดิสนีย์น่าจะยังไม่สามารถทำลายสถิติเดิมที่ตัวเองทำไว้เมื่อปี 2019 ได้ แต่ดูแนวโน้มแล้วว่า ถายในอีก 2-3 ปีจากนี้ ดิสนีย์มีสิทธิ์ที่จะสร้างสถิติใหม่ได้ เพราะมาร์เวลกำลังเคลื่อนเข้าสู่บทสรุปของ Multiverse Saga ด้วยหนัง Avengers 2 เรื่องต่อกันมาทำหน้าที่ปิดท้ายเฟส 6 รวมไปถึงไตรภาคใหม่ของ Star wars และ Avatars ที่กำลังจะตามมาอีก 3 ภาค ก็ถือว่าเป็นกำไรของคนดู ที่จะได้เห็นสงครามหนังฟอร์มยักษ์ระหว่างหนังฉายโรงกับหนังสตรีมมิง

ที่มา