Play video

ชีวิตของ เจฟฟ์ บาวแมน (เจค จิลเลินฮาล) มีอันกลับตาลปัตรหลังเหตุวินาศกรรมบอสตันมาราธอน เขาต้องเผชิญความรู้สึกด้อยค่าในฐานะผู้พิการและความกดดันในการรับบทฮีโร่ที่ แพตตี้ (มิแรนดา ริชาร์ดสัน) แม่ของเขาพยายามป่าวประกาศ แต่ในช่วงวิกฤติชีวิตเขายังมี อีริน เฮอร์ลีย์ (ตาเตียนา มาสลานี) แฟนสาวที่เลิกราไปนานกลับมาดูแลและพร้อมสร้างครอบครัวกับเขานั่นทำให้เจฟฟ์ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าเขาดีพอจะได้ลุกขึ้นเดินเคียงข้างเธออีกครั้ง


เจค จิลเลินฮาล รับบท เจฟฟ์ บาวแมน

เจฟฟ์ บาวแมน ตัวจริงมาให้คำปรึกษาด้านการแสดงก้ับ เจค ในกองถ่าย


เรื่องจริงบันดาลใจสู่หนังดราม่าฟีลกู๊ด

       สิ่งที่ทำให้ชีวิตของ เจฟฟ์ บาวแมน ตัวจริงเป็นที่สนใจของชาวโลกคือบทบาทการเป็นพยานสำคัญที่ทำให้ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุวางระเบิดวินาศกรรมบอสตันมาราธอนได้ และเรื่องราวของเขาได้ก่อให้เกิดพลังสำคัญที่ทำให้ชาวบอสตันลุกขึ้นสู้กับผู้ก่อการร้ายจนเกิดแคมเปญ บอสตันสตรอง แต่ประเด็นสำคัญที่จอห์น พอลโลโน ผู้เขียนบท (ดัดแปลงจากหนังสือ Stronger โดย เจฟฟ์ บาวแมนและ เบรต วิตเตอร์) เลือกหยิบจับมาถ่ายทอดคือการเอาชนะความพิการของตนเอง และเมื่อหนังได้ผู้กำกับหนังตลกอย่าง เดวิด กอร์ดอน กรีน มาถ่ายทอดเรื่องราวดังกล่าวเลยทำให้หนังสามารถหลุดพ้นจากอารมณ์ฟูมฟายไปสู่การรับมือกับวิกฤติชีวิตของผู้ชายไม่ยอมโตที่แทบจะถอดแบบมาจากหนังตลกที่เขาเคยกำกับอย่าง Pineapple Express (2008) นั่นทำให้หนังเต็มไปด้วยปัญหาชีวิตวุ่นวายทั้งแม่เจ้ากี้เจ้าการ แฟนสาวละเหี่ยใจ และเพื่อนเกรียนไม่ยอมโตที่หาเรื่องชกต่อยในบาร์ ซึ่งกอร์ดอน กรีน ก็สามารถคุมองค์ประกอบทั้งหมดออกมาได้อย่างลงตัวและมีหลายช่วงที่ทำให้นึกถึง The Fighter (2010) หนังชิงออสการ์ของผู้กำกับ เดวิด โอ รัสเซล ไม่น้อยจนหนังน่าจะมีลุ้นได้เข้าชิงออสการ์ทั้งภาพยนตร์และผู้กำกับเลยทีเดียว


มิแรนดา ริชาร์ดสัน กับบท แพตตี้ บาวแมน

Play video


แอปโพรช ….ความลึกซึ้งในการถ่ายทอดเรื่องราว    

      ความโดดเด่นของบทภาพยนตร์ของ จอห์น  พอลโลโน คือการพูดเรื่องราวการเอาชนะตนเองผ่านวิธีเล่า หรือแอปโพรช (Approach)เป็นกระบวนการตระหนักรู้หรือ Realize ของ เจฟฟ์  โดยพอลโลโน ได้ถักทอแต่ละซีนโดยเล่นกับ “สัญญาณเตือน” ตั้งแต่เสียงเตือนเตาอบที่เจฟฟ์ลืมเปิดจนทำให้ไก่ในเตาไหม้เพราะมัวแต่เอาขยะไปทิ้งตอนต้นเรื่อง ไปเพื่อปูถึงการเป็นคนที่ไม่เอาจริงเอาจังในชีวิต เพื่อปูไปสู่ฉากผู้ต้องสงสัยที่เดินผ่านหน้าเขาในงานบอสตันมาราธอนก่อนเกิดเหตุระเบิดเพื่อสื่อถึงชะตาชีวิตที่พลิกผันโดยไม่มีสัญญานเตือนเช่นกัน รวมไปถึงการเล่นกับการเปิดกล่อง เปิดประตูที่ปิดกั้นรอให้ตัวละครเข้มแข็งพอจะเปิดมันเอง เสริมรับกับงานถ่ายภาพของ ฌอน บ๊อบบิต ที่เล่นกับแอปโพรชดังกล่าวทั้งเรื่อง แต่ช็อตที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้นการเปลี่ยนผ้าพันแผลที่เลือกโฟกัสที่หน้าเจฟฟ์ แล้วปล่อยให้ภาพการเปลี่ยนผ้าพันแผลของขาที่ขาดเป็นภาพเบลอ โดยอาศัยการแสดงของเจค จิลเลินฮาล และการเข้าเฟรมของหน้าตาเตียนา มาสลานี มาสื่อสารถึงการตระหนักรู้ทั้งความเจ็บปวดและความรักที่จะเอาชนะความยากลำบากของชีวิตได้ ควบคู่ไปกับงานจัดแสงที่สามารถสื่อสารถึงชะตากรรมของตัวละครได้อย่างลึกซึ้งอีกด้วย


 

ตาเตียนา มาสลานี รับบท อีริน เฮอร์ลีย์

Play video


เจค และ ตาเตียนา คู่ขวัญลุ้นออสการ์ 

       คงเดาได้ไม่ยากว่าหนังแนวชีวิตต้องสู้อย่าง Stronger คือโอกาสทองสำหรับ เจค จิลเลินฮาล นักแสดงหนุ่มที่มารับบทบุคคลที่มีชีวิตอยู่จริงอย่าง เจฟฟ์ บาวแมน ซึ่งกล่าวอย่างไม่เกินเลย มันก็คือบทที่เวทีรางวัลออสการ์โปรดปรานยิ่งนัก ยิ่งบทดังกล่าวมีความใกล้เคียงกับบท รอน โควิก นาวิกโยธินพิการที่เคยส่ง ทอม ครูซ เข้าชิงออสการ์จาก Born on the fourth of July (1989)ด้วยแล้ว งานนี้หากการทุ่มเททั้งการกลืนกินตัวเองเป็นตัวละครทั้งรูปลักษณ์และการฝึกการเคลื่อนไหวให้เหมือนคนพิการ ควบคู่ไปกับแววตาและถ่ายทอดอารมณ์ ยังสะสมแต้มบุญไม่พอให้เจค ได้สมหวังบนเวทีออสการ์คงเหลือแต่มาหาอาจารย์หนู กันภัยให้สักยันต์สัก 18 แถวแล้วแหละ  และเนื่องจาก Stronger ไม่ได้มีเพียง เจค จิลเลินฮาล เท่านั้นที่ควรได้รับการแซ่ซ้องสรรเสริญ ดาราสาวจากซีรีส์ดัง Orphan Black อย่าง ตาเตียนา มาสลานี ยังรับบท อีริน เฮอร์ลีย์ ได้อย่างชวนใจสลายด้วยบุคลิกตัวละครที่ซับซ้อนเกินกว่าการเป็นแม่พระของชายพิการ เพราะบทยังเรียกร้องให้เธอแสดงความเป็นมนุษย์ทั้งหญิงผู้กำลังค้นใจตัวเองว่าเธอจะรักชายพิการไม่ยอมโตอย่าง เจฟฟ์ ได้หรือไม่จนนำไปสู่ฉากระเบิดอารมณ์ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนตอนท้ายเรื่องได้อย่างทรงพลัง รวมถึง มิแรนดา ริชาร์ดสัน ในบท แพตตี้ แม่จอมเจ้ากี้เจ้าการของเจฟฟ์ที่ทั้งเปี่ยมอารมณ์ขันและน่าเห็นใจไปในคราวเดียวกันที่ช่วยสร้างอารมณ์ขันให้เรื่องราวได้อย่างเปี่ยมสีสัน

ด้วยองค์ประกอบที่ครบเครื่องเรื่องออสการ์ขนาดนี้เลยทำให้ Stronger น่าจะถูกใจคอหนังหวังรางวัลและผู้ที่กำลังท้อถอยในชีวิตให้ได้เข้าไปรับพลังงานและความอบอุ่นหัวใจที่อบอวลอยู่ในหนังเรื่องนี้ ในโรงภาพยนตร์ได้อย่างอิ่มเอมใจ


Stronger หัวใจไม่แพ้ ฉาย 2 พฤศจิกายนนี้