[รีวิว] Patrick แพททริค ป่วนนะ ปั๊ก ปั๊ก – หนังที่คนรักปั๊กต้องมีใจบางกันบ้างล่ะ
Our score
8.0

Patrick

จุดเด่น

  1. ถ้าชอบหมาปั๊กนี่คือหนังของคุณ
  2. หนังมีพาร์ตโรแมนติกที่น่าจะถูกใจสาวๆ
  3. นางเอกหน้าเป็นทะเล้นกวน เล่นได้มีสเน่ห์
  4. พระเอกหล่อดี

จุดสังเกต

  1. หนังจับปมเยอะจนล้น
  2. แต่ละปมจบง่าย ไม่ได้ลุ้นอะไรเลย
  • ความสมบูรณ์ของงานสร้าง

    7.0

  • ตรรกะ ความสมเหตุสมผลของบทหนัง

    7.0

  • ความน่ารักของเจ้าหมาปั๊ก

    10.0

  • ความสนุก

    8.0

  • ความคุ้มค่าตั๋ว

    8.0

Play video

สนับสนุนเนื้อหาโดย Major Cineplex

หลังโดนเทจากแฟนหนุ่มก็ถึงคราว ซาราห์ ฟรานซิส (บีตตี เอ็ดมอนด์สัน) รับมรดก “กองโต” จากคุณย่าเป็นเจ้าหมาปั๊กตัวป่วนนาม แพททริค ที่มีงานประจำคือทำห้องพัง ส่วนงานรองคือการพาเธอไปเจอหนุ่มสุดฮอตทั้ง  คุณหมอหมาสุดหล่อ (เอ็ด สไครน์) และหนุ่มใหญ่ (ทอม เบ็นเนตต์)ที่บังเอิญพาหมามาวิ่งในสวนจนปิ๊งกับเธอ ที่ทำให้ซาราห์ต้องสับรางชีวิตสุดป่วนทั้งต้องแอบเลี้ยงหมาในอพาร์ตเมนต์และเริ่มชีวิตในโรงเรียนในฐานะครูที่ต้องรับผิดชอบเด็กๆ บางทีการเข้ามาของ แพททริค อาจสอนอะไรหลายๆอย่างกับเธอจนคู่กัดอาจกลายเป็นส่วนเติมเต็มชีวิตที่เธอขาดไม่ได้

 

 

 

แน่นอนล่ะว่าหน้าหนังของ Patrick คือการขายความน่ารักของเจ้าหมาพันธุ์ปั๊ก ที่เคยทำคนดูตกหลุมรักกันมาตั้งแต่ MIB 2 (2002) หนังไซไฟเรื่องดัง และด้วยหน้าย่นๆตัวป้อมๆ ดูตลกและน่ารักน่าชังทำให้หมาพันธุ์นี้มักปรากฎกายในหนังตลกและหนังครอบครัวหลายเรื่อง อ่านถึงตรงนี้อาจงงว่าทำไมผมถึงยกเจ้าหมาปั๊กมาเกริ่นนำก่อนจะพูดถึงตัวหนังใช่ไหมครับ เหตุผลก็คือการจะเอาหมาปั๊กหรือพันธุ์ใดๆก็ตามที่คนดูเห็นกันจนเฝือมาผูกโยงเรื่องราวให้น่าสนใจ และหลุดจากปมปัญหาที่แสนคลิเช่-น่าเบื่อหน่ายทั้ง หมาเป็นโรคร้าย หมาหาย ไปจนถึงหมากลับชาติมาเกิดแบบหนัง แลสซี ฮอลล์สตรอม

Patrick สร้างเรื่องราวโดยผูกโยงให้เจ้าของหมาประกาศตัวเลยว่าเกลียดหมาเข้าใส้ แถมยังจำยอมรับมาเป็นภาระเพราะถือเป็นหน้าที่เท่านั้น อีกอย่างการที่หนังนำเสนอให้คนดูรู้จักซาราห์ในฐานะสาววัย 30 ที่โดนแฟนหนุ่มเทอย่างหน้าตาเฉยก็น่าจะทำให้ถูกใจคอหนังโรแมนติกคอเมดี้ได้ไม่ยาก เพราะไม่ต้องเดาก็พอจะรู้ว่าพลอตสาวชีวิตพังแบบนี้ก็มักจะได้นัวเนียกับหนุ่มๆสุดหล่อแน่ๆ เพียงแต่คราวนี้หนังเลือกผู้โยงให้เรื่องโรแมนติกมาเกิดขึ้นหลังเธอจำยอมรับแพททริคเข้ามาในชีวิต ซึ่งในจุดนี้เองที่ส่วนตัวมองว่าหนังเองก็พยายามหาเรื่องราวที่แปลกใหม่และสร้างตัวละครนำให้น่าสนใจ พอที่หมาจะไม่กลบความโดดเด่นทางการแสดงแบบหนังเรื่องอื่น ซึ่งส่วนนี้ก็ต้องชมทั้งผู้กำกับหญิงอย่าง แมนดี้ เฟล็ตเชอร์ และ บีตตี เอ็ดมอนด์สัน นักแสดงสาวหน้าเป็นที่สามารถถ่ายทอดบทบาทซาร่าห์ ได้อย่างมีสเน่ห์ชวนติดตามและเคมีระหว่างเธอกับเจ้าหมาปั๊กก็น่ารักน่าชังใช่ย่อยเลย

แต่ในขณะเดียวกันหากเราดูในส่วนของงานบทก็จะพบว่า Patrick เลือกเล่าปมขัดแย้งหลายปมเกินไปในเวลาเพียงชั่วโมงครึ่ง เราจะได้เห็น ซาราห์ ต้องผจญปมปัญหาหลายอย่างนอกจากเรื่องหมาที่เธอต้องดีลกับการเปลี่ยนแปลงชีวิตแล้ว หนังยังให้ซาร่าห์ต้องเลือกระหว่าง สัตวแพทย์สุดหล่อ หรือ หนุ่มใหญ่จิตใจดี (ที่อุตส่าห์มีการหักมุมตอนท้าย) เป็นพลอตรักสามเศร้าอันแสนเบาบาง ยังไม่พอหนังยังให้ซาราห์ ต้องเรียนรู้หน้าที่ครูผู้ให้โอกาสและต้องผจญกับผู้มีอำนาจในโรงเรียน มิหนำซ้ำเธอยังต้องเอาชนะตัวเองในการเข้าร่วมมาราธอน 5 กิโลเมตรเพื่อหาเงินช่วยเหลือคนป่วย ซึ่งการสร้างปมปัญหามหาศาลขนาดนี้ก็ส่งผลให้หนังแทบไม่มีจุดหมายปลายทางที่ชัดเจน เหมือนเราจะต้องค่อยๆเรียนรู้ไปพร้อมกับ ซาร่าห์ และ แพททริค ที่ต้องแก้ปัญหาทีละอย่างๆ ที่ก็จบง่ายไร้อารมณ์ลุ้นใดๆทั้งสิ้นจนหนังออกมาดูจืดชืดไม่น้อย แต่โชคยังดีที่ได้ความน่ารักของเจ้าหมาปั๊กมาคอยขโมยหัวใจคนดูนี่แหละที่ทำให้เรายังอยู่กับหนังจนจบได้

ตีตั๋วชมความน่ารักแบบปั๊ก ปั๊ก คลิกเล้ย