[รีวิว] หน่าฮ่าน – สเมล ไลค์ หมอลำ สปีริต
Our score
8.0

หน่าฮ่าน

จุดเด่น

  1. หนังนำเสนอวิถีชีวิตวัยรุ่นอีสานได้อย่างมีสีสัน
  2. เพลงมาแต่ละทีนี่แทบลุกมาเด้าตามเลย
  3. บทมีความลึก ชวนขบคิดหลังดูจบ

จุดสังเกต

  • ตรรกะความสมเหตุสมผลของบท

    8.0

  • คุณภาพงานสร้าง

    8.0

  • ความแปลกใหม่

    8.0

  • ความสนุก

    8.0

  • ความคุ้มค่าตั๋ว

    8.0

หลังอกหักจาก สิงโต (แม็คกี้ นฤเบศร์ ฤทธิศร) หนุ่มหล่อขายสร้อยหน่าฮ่านหมอลำ ยุพิน (กอส สุดารัตน์ โพธิ์อำพล) สาว ม.ปลายหัวใจว้าวุ่น ก็ได้ สวรรค์ (บุญฤทธิ์ เวียงนนท์) หมอแคนนักเรียนดีเด่นมาดามหัวใจ แต่ทริปสัญญาใจระหว่างเธอกับเพื่อนๆที่จะไปเด้ากันหน่าฮ่านหมอลำที่อุดรดันพาเธอไปเจอถ่านไฟเก่าอย่างสิงโต สุดท้าย ยุพินจะเลือกใครระหว่าง พ่อค้าสุดหล่อหรือนักเรียนดีเด่นที่เอาใจเธอทุกอย่าง 

Play video

สนับสนุนเนื้อหาโดย Major Cineplex

ด้วยหน้าหนังเราคงต้องยอมรับว่าได้กลิ่นหนังสไตล์ไทบ้านมาไกลๆ แต่สิ่งที่หน่าฮ่านดูจะกล้าหาญชาญชัยกว่าหนังรุ่นพี่คือการเลือกตัวละครนำให้เป็นผู้หญิง แถมยังให้คาแรกเตอร์ดูเป็นผู้หญิงบ้านๆที่ไม่ได้มีแพชชั่นอะไรในชีวิตมากไปกว่าได้ไปเต้นเด้าๆหน้าเวทีหมอลำกับเพื่อนๆ ซึ่งหากตัวละครนี้ไปอยู่ในโครงเรื่องที่ไม่แข็งแรงมีแต่จะทำให้เกิดอาการเบื่อหน่ายได้ง่ายๆแถมพอหนังเอาพลอตรักสามเศร้าเข้ามาสวม เราก็เริ่มเดาทิศทางหนังที่น่าจะออกมาคลีเช่ได้ทันที แต่เฮ้ย! มันผิดคาด เพราะหากมาพิเคราะห์ตัวละครชายทั้ง 2 ดูดีๆ จะเริ่มเห็นการมองเห็นการวิพากษ์สังคมปิตาธิปไตยได้อย่างแหลมคม 

บทที่ ฉันทนา ทิพย์ประชาติ ผู้กำกับเขียนร่วมกับ นคร โพธิ์ไพโรจน์ วางตัวละครชายไว้ 2 ขั้วได้อย่างน่าสนใจ โดย สิงโต คือตัวแทนชายรักอิสระ ไม่ถือยศถืออย่างและแม้เหตุผลที่เขาทิ้งยุพินไปตอนต้นอาจไม่ได้รับการอธิบายนักแต่เราพอเดาได้จากกิจวัตรที่ต้องช่วยเหลือทางบ้าน โดยเป้าหมายชีวิตสิงโตดูเลื่อนลอยไม่ได้มีแผนการอะไรใหญ่โต ตรงกันข้ามกับ สวรรค์ ที่ชื่อก็บ่งบอกถึงความเป็นชนชั้น และยิ่งหนังใส่ฟังก์ชันผู้ชายสุดเพอร์เฟคต์ทั้งเป็นหมอแคน ทั้งเรียนดี แต่ทัศนคติคือต้องการให้คนรักเดินบนทางเดียวกัน เป้าหมายเดียวกันจนดูเป็นเผด็จการหัวใจที่มีแต่สร้างความลำบากใจ โดยเอาความรัก-หวังดีมาเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนให้ยุพิน 

การที่หนังวางทางเลือกให้ยุพินที่ผู้ชาย 2 คน เลยกลายเป็นการสะท้อนความคิดของเด็กรุ่นใหม่ไม่น้อย ซึ่งไม่เพียงพลอตหลักเรื่องรักสามเศร้าของยุพินเท่านั้น หนังยังอุดมไปด้วยตัวละครวัยรุ่นที่ปฏิเสธอุดมคติของฝ่ายอนุรักษ์นิยม ทั้ง หอยกี้…สาวท้องแก่ที่ยังอยากไปเต้นไปสนุกกับเพื่อนๆโดยที่หนังแทบไม่ตัดสินว่าการกระทำของเธอคือเด็กใจแตกหมดอนาคต แคลเซียม…ตัวละครสาวสวยที่คาแรกเตอร์มีจุดขายที่หน้าอกก็เป็นตัวละครที่หนังนำเสนอออกมาได้น่ารักเป็นเพื่อนในแบบที่เราต้องมีสักคนในกลุ่มไว้ล้อมันปนอิจฉา หรือกระทั่งการใส่ตัวละคร LGBTQ อย่าง เติ้ลไม้ และ เป๊กกี้ ก็ยังเป็นสีสันที่มาพร้อมกับมิติของความเป็นมนุษย์ไม่ได้เป็นเพียงตัวตลกประกอบฉากแต่ยังนำเสนอให้เห็นความคิดอันลึกซึ้งทั้งความรักพวกพ้องและความกล้าในการเริ่มความสัมพันธ์ โดยการกำกับของฉันทนาช่วยให้เรามองภาพร่วมมุมกับตัวละครทุกตัวได้เป็นอย่างดี แม้ต่อมความเป็นผู้ใหญ่ที่ทำงานหลายครั้งเราจะรู้สึกขัดใจบ้างกับพฤติกรรมความกล้าบ้าบิ่นของตัวละครที่หลายครั้งดูจะพาตัวเองไปสู่อันตราย แต่ฉันทนาก็ช่วยให้ตัวละครค่อยๆจูงมือเราเข้าไปทำความรู้จักกับวิถีชีวิต “ทีนเนเจอร์ภูธร” ที่ทั้งจัดจ้าน กล้าบ้าบิ่น (หลายครั้งตัวละครใช้คำว่า ร่าน หรือ เคียวเลยด้วยซ้ำ 555) จนสุดท้ายจากแค่หนังที่เอากิมมิกเรื่องวัยรุ่นเต้นเด้ามาทำหนังก็กลายเป็นบทบันทึกถึงวัยรุ่นแห่งยุคสมัยในมุมมองที่แปลกตาได้ดีทีเดียว

 

คุณงามความดีสำคัญในการพาคนดูคล้อยตามคงหนีไม่พ้นวิสัยทัศน์ของผู้กำกับอย่าง ฉันทนา ทิพย์ประชาติ ผู้กำกับหญิงจากภาควิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาที่เติบโตมาจากวงการหนังสั้น ซึ่งก่อนหน้าการมาถึงของหน่าฮ่าน เธอกำลังจะมีผลงานหนังยาวอีกเรื่องที่น่าจับตามองมากๆอย่าง รัก..ไม่ปรากฎ ที่ได้ทุนกระทรวงวัฒนธรรมเมื่อหลายปีก่อนแต่หนังยังไม่ได้ฉาย การพาหน่าฮ่านมาเป็นงานเปิดตัวสู่วงการภาพยนตร์ไทยถือเป็นความเสี่ยงในแง่ภาพจำไม่น้อย แต่ฉันทนาได้พิสูจน์แล้วว่ามุมมองของเธอต่อชีวิตคนชายขอบในต่างจังหวัด โดยเฉพาะการเป็นคนอีสานทำให้เธอนำเสนอชีวิตวัยรุ่นภูธรอย่างเข้าใจ แม้ด้วยฟอร์มของหนังตลกก็จำเป็นต้องนำเสนอความชวนหัวและตัวละครสีสันจัดจ้านแต่ช่วงบทสรุปต่างหากที่ม้ันจะตั้งคำถามกับอนาคตที่เยาวชนในยุคนี้เลือก แม้ไม่เดินตามครรลองสามารถประสบความสำเร็จได้ในทางที่ตัวเองเลือกเดิน

อีกจุดที่ต้องบอกว่าโดดเด่นมากๆคือการแคสติงของหนังยังจัดว่าทำได้ดีเยี่ยมทั้งตัวนำทั้ง 3 คนที่มีเสน่ห์ชวนมองแต่ไม่ถูกปรุงแต่งจนดูไม่ใช่คนอีสาน หรือตัวละครสมทบที่มีสีสันได้ใจคนดูไม่ยากเลย ตัวกอส สุดารัตน์ จะว่าไปแทบจะเป็นโมเดลซีรีส์เกาหลีที่นางเอกหน้าตาธรรมดาค่อยๆถูกทำให้เด่นขึ้นมาด้วยตัวละครชายที่มะรุมมะตุ้มกับเธอ แม็กกี้ นฤเบศร์ ก็อาศัยออร่าความเป็นไอดอลอีสานตกสาวๆได้ตลอด แม้กระทั่งบุญฤทธิ์ เวียงนนท์ ที่เพิ่งมีผลงาน Ten Years Thailand ก็ได้พิสูจน์ว่าบางทีเสน่ห์อาจไม่ได้มาจากหน้าตาอย่างเดียวด้วยการแสดงที่เข้าใจในสิ่งที่ผู้กำกับต้องการนำเสนอก็สร้างจุดเด่นได้อย่างน่าชื่นชม 

ชวนหมู่มาจ๊วดจ๊าดหน่าฮ่าน คลิกเลย