[รีวิว] Cinderella and The Secret Prince – มนต์รักนางซินตาแข็งกับเจ้าชายหลังตึงเปรี๊ยะ
Our score
2.8

Cinderella and The Secret Prince

จุดเด่น

จุดสังเกต

  1. คุณภาพอนิเมชั่นแย่มาก
  2. เสียงพากย์ไร้ความรื่นหูใดๆ
  • ความสมบูรณ์ของบท

    3.0

  • โปรดักชั่น

    2.0

  • ข้อคิด สาระ

    3.0

  • ความสนุก

    3.0

  • ความคุ้มค่า

    3.0

ตำนานซินเดอเรลลากำลังจะเล่าขานในมุมใหม่ เมื่อเจ้าชายตัวจริงถูกสาปให้กลายเป็นหนู เธอจึงรวมพลังกับเพื่อนหนูทั้ง 3 เกลอและแม่มดฝึกหัดเพื่อเดินทางไปยันดินแดนในตำนาน อันมีแหวนวิเศษที่สามารถถอนคำสาปได้ แต่อุปสรรคสำคัญคือเจ้าแม่มดตัวร้ายที่ยึดครองวังหลวงอยู่ที่ทำทุกทางไม่ให้พวกเขาถอนคำสาปได้สำเร็จ 

Play video

สนับสนุนเนื้อหาโดย Major Cineplex

ไม่ว่าความตั้งใจของ ลินน์ เซาเธอร์แลนด์ ผู้กำกับอนิเมชั่นเรื่องนี้คืออะไร แต่หน้าหนังของมันก็ได้ทำลายความน่าสนใจมันไปหมดแล้ว เอาจริงๆจากตัวอย่างหนังที่เห็นมาก่อนหน้านี้ก็แทบไม่มีความน่าสนใจใดๆหลงเหลือ แต่ด้วยอยากให้โอกาสตัวเองพิสูจน์หนังจริง เลยขอลองชมมันแบบเต็มๆและน่าเศร้าที่ผลลัพธ์ก็ไม่ผิดจากการคาดเดาเสียด้วย 

จุดบอดแรกที่ผู้สร้างแก้ตัวไม่ขึ้นแน่ๆคือคุณภาพของงานอนิเมชั่น การเลือกฟอร์มเป็น 3D คือความเสี่ยงต่อความคาดหวังของคนดูยุคนี้ที่ผ่านตางานเนี๊ยบๆจากพิกซาร์ ดรีมเวิร์ค หรือ บลูสกาย รวมถึงอนิเมชั่นอินดี้ต่างๆมานักต่อนัก และตลอดเวลา 24 ปีนับจาก Toy Story (1995) อนิเมชั่นสามมิติก็พัฒนามาถึงจุดที่เคลื่อนไหวได้อย่างลื่นไหล แต่กับ Cinderella and The Secret Prince เหมือนเอาเงิน 20 ล้านเหรียญมาละลายเล่นจนได้คุณภาพงานที่ง่อยเปลี้ยเหลือเกิน ทั้งที่คาแรคเตอร์ดีไซน์ของมันก็ทำให้ดูน่ารักได้ไม่ยาก แต่พอเห็นตาซินเดอเรลล่าแข็งเป็นหิน หรือท่าทางการเดินของเจ้าชายที่ดูเหมือนคนป่วยโรคพังผืดที่กระดูกสันหลัง รวมถึงการขยับตัว มูฟเมนต์ต่างๆ ของตัวละครหนู ที่ไร้ความละเอียดละออในงานสร้าง ก็ย่อมมีผลต่อการชมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย 

พ้นจากภาพก็คืองานเสียงพากย์  ที่ต้องขอบอกว่า พังยิ่งกว่างานภาพอีก เพราะเสียงของนักพากย์ที่ออกมาดูเป็น อนิเมชั่นเกรดบี พากย์เหมือนวีดีโอสอนภาษาอังกฤษ จนฟังแล้วรู้สึกรำคาญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งพองานภาพที่ไม่สามารถทำให้คุณภาพมันทัดเทียมกับเรื่องอื่นๆได้แล้วมาสมทบกับเสียงพากย์ที่ฟังไม่ลื่นหู ผลลัพธ์เลยตกเป็นความทรมานของผู้ชมแทนไปโดยปริยาย  

ไม่น่าเชื่อว่า อนิเมชั่นอเมริกันเรื่องนี้ จะปล่อยปะละเลยด้านคุณภาพได้ถึงเพียงนี้ ดูแล้วบอกตามตรงว่า อนิเมชั่นจบการศึกษาระดับ ป.ตรี ของบ้านเรายังดูดีกว่าเลยครับ