[รีวิว] ช่องส่องผี – หนังผีแบบคิดเองเออเอง
Our score
0.1

ช่องส่องผี

จุดเด่น

จุดสังเกต

  1. เครื่องตรวจจับวิญญาณสร้างความกลัวด้วยลายเส้นเต้นเบรคแดนซ์ หลอนมั้ยล่ะ?
  2. ลำดับเรื่องมั่วซั่ว จนตอนท้ายต้องมีเสียงบรรยายหนังทั้งเรื่องอีกที
  • ความสมบูรณ์ของบท

    0.1

  • คุณภาพการแสดง

    0.1

  • คุณภาพโปรดักชั่น การผลิต ความแปลกใหม่

    0.1

  • ความสนุก ประเทืองตา ประเทืองใจ

    0.1

  • ความคุ้มค่า

    0.1

ดล (สน-ยุกต์ ส่งไพศาล) ชายหนุ่มต้องมาหาคำตอบหลังการจากไปอย่างลึกลับของ ณิชา (ซูซานนา เรโนล) ภาพความทรงจำอันไม่ปะติดปะต่อ ทั้งภาพพิธีกรรมโดยเจ้าลัทธิ (เดวิด อัศวนนท์) ที่อาจเป็นที่มาของเหตุการณ์สุดสยอง ภาพทริปที่ดลและเพื่อน (เปรมอนันต์ ศรีพาณิช) ไปเที่ยวที่รีสอร์ตหมายเลข 13 ที่พวกเขาได้พบตารางอักขระคล้ายกระดานผีถ้วยแก้ว หลังชิ้นส่วนปริศนาต่อครบอาจเป็นคำตอบของเรื่องราวทั้งหมด. 

Play video

สนับสนุนเนื้อหาโดย Major Cineplex

เป็นปกติของหนังผี โดยเฉพาะหนังผีไทยที่มักเล่นกับเหตุการณ์ สถานที่จริง หรือมีลักษณะของการถ่ายทอดสิ่งลี้ลับให้ผู้ชมหาคำตอบ ซึ่งต้องบอกก่อนว่า ผมเข้าชม ช่อง ส่อง ผี แบบข้อมูลเป็น 0 จริงๆ คือไม่รู้กระทั่งเรื่องย่อ และหลังเครดิตขึ้นชื่อ พงษ์วัฒน์ ตันนุกูล อดีตผู้กำกับ Postcard from nowhere โปสการ์ดที่ไม่มี..ที่มา (2558) ในเครดิตทั้งเขียนบท- กำกับ ก็ต้องงงแบบเป็นลูกโซ่ เพราะการเปิดเรื่องที่หวังจะดูล้ำๆ ด้วยการนำเสนอเหตุการณ์ย่อยๆไม่ต่อเนื่องกัน กลายเป็นเศษกระจกที่กลับมาทิ่มแทงหนังเอง พูดง่ายๆคือ ‘ดูไม่รู้เรื่อง’ เพราะ เหตุการณ์ที่ พงษ์วัฒน์ หวังเล่าเรื่องแบบไม่ลำดับเหตุการณ์ (non-linear storytelling) กลายเป็นเหตุการณ์ที่มาแบบ ‘กะปริบกะปรอย’ เดี๋ยวก็เล่นผีถ้วยแก้ว เดี๋ยวไปเที่ยวรีสอร์ต ซักพัก อ่าวกลับมาเล่าเรื่องของ ณิชา กับ ดล ที่ไม่มีอะไรคืบหน้านอกจาก ณิชา เจอผีหลอก และ ดล ก็รำคาญที่ไม่ได้นอน จนคนดูงงว่า เฮ้ยมันเป็นแฟนกันได้ไงวะ ประกอบกับการกำกับที่พังพินาศในทุกตัวละคร คือลำพังการเล่าเรื่องของหนังทั้ง 3 องก์ เราไม่สามารถระบุได้เลยว่าปมของเรื่องคืออะไร เป้าหมายตัวละครมีมั้ย แล้วทำไมเราต้องมานั่งเสียเวลาดูหนังที่ขยันใส่ผี แต่ไร้ความน่ากลัวและสร้างสรรค์ด้วย จนสุดท้ายหนังต้องให้เสียงตัวละครเพื่อนของดลมาบอกเล่าเหตุการณ์เดิมซ้ำทั้งเรื่องปิดท้าย

 

 

 

ไม่แค่บทที่พัง แต่โปรดักชัน ต้องสารภาพเลยว่า ส่วนตัวขอ ‘สวด’ คนทำที่สุกเอาเผากินมากๆ เชื่อว่าคนดูทั่วไปก็ดูออก ทั้งการจัดแสงแบบจำกัดจำเขี่ยจนภาพดูแบนทุกช็อต เสียงที่มีปัญหาสารพัด อยู่ๆก็มีเสียงไมค์ช็อต อยู่ดีๆนอยซ์ก็ติดมากับเสียงตัวละครบางตัวในฉากเดียวกัน นี่ยังไม่นับการวางเสียงต่างๆที่นอกจากไม่น่ากลัวแล้ว ยังไปทางโคตรน่ารำคาญเลยอีกด้วย เฮ้อ… อีกจุดที่หนังเอามาขายแบบไม่ลืมหูลืมตาคือ ‘เครื่องตรวจจับวิญญาณ’ ที่โฆษณานักหนา กรอกหูตั้งแต่ก่อนเข้าโรง ถามว่ามันทำให้น่ากลัวมั้ย? ก็ไม่… คือถ้าคุณขวัญอ่อนขนาดเห็น จุดประเป็นลายเส้นคนหัวไม้ขีดเต้นเบรคแดนซ์แล้วนอนไม่หลับ ก็ไปพบจิตแพทย์เถอะนะ! แถมยังใส่เข้ามาแบบงงๆ ไม่เกี่ยวกับโครงเรื่องหลักเป็นเบื้องหลังที่ไม่รู้จะใส่มาทำไมอีกด้วย 

ส่วนนักแสดง ขอพูดถึงแค่ 2 คนนะ สน-ยุกต์ ส่งไพศาล คือก็หล่อดีครับ จบ! คือไม่มีอย่างอื่นจริงๆ มาโชว์หล่อแล้วก็ทำตามผู้กำกับสั่งไปจนจบเรื่อง ถือเป็นนักแสดงที่ดีครับ ส่วน ซูซานนา เรโนล ก็สวยครับ แต่ติดอยู่นิดนึงคือทำไมต้องแต่งหน้าเต็มเล่นคอมด้วยอ่ะ อันนี้งงมากแม่! แล้วก็เหมือนผู้กำกับจะไม่ได้ให้เธอแสดงอะไรนอกจากตกใจ กรี๊ด พารานอยด์ สร้างความรำคาญให้ผัว โดยไม่ได้ให้ที่มาที่ไปของตัวละครเลยสักนิด อ้อ..ลืมไป ตัวละครอื่นหนังก็ไม่ได้เล่าอะไรมากมายนี่หว่า!  

เอาเป็นว่าใครอยากสัมผัสประสบการณ์ความหลอน ลองเสียตังค์ดูครับ ซื้อตั๋วแบบราคาเต็มก็จะหลอนมากกว่าคนใช้โปรโมชั่น หรือดูฟรี อันนี้พูดจริง!