ด้วยภาพลักษณ์ของซีรีส์ Stranger Things ที่นำเสนอตัวเองอย่างเด่นชัดว่าเป็นซีรีส์ในสไตล์ย้อนไปยุค 80s ทั้งเนื้อหา โทนภาพ เพลงประกอบ งานกราฟิก ซึ่งพี่น้องดัฟเฟอร์ ผู้กำกับของซีรีส์ก็ยอมรับว่าเขาหลงรักกลิ่นอายของหนังในยุค 80s มาก มีหนังในยุคนั้นหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวกับสัตว์ประหลาดลึกลับ และอสุรกายล้วนเป็นแรงบันดาลใจให้เขาทำ Stranger Things ออกมา

และหนึ่งในแรงบันดาลใจนั้นก็อาจจะมี “เพนนีไวซ์” ปีศาจตัวตลกจาก “IT” นิยายเรื่องดัง ที่ภาค 2 เพิ่งลงโรงบ้านเราอยู่ขณะนี้ เพราะผู้ชมจับเหตุการณ์บางช่วงบางตอนใน Stranger Things ซีซัน 2 ได้ว่าผู้เขียนบทพยายามที่จะโยงเรื่องราวให้เกี่ยวพันกับ IT อยู่ ผ่านตัวละคร บ็อบ นิวบี้ ที่รับบทโดย ฌอน แอสติน ที่เริ่มปรากฏตัวมาในซีซัน 2 ในฐานะคนรักของ จอยซ์ บายเออร์ บทบาทของ ฌอน ค่อย ๆ ทำให้เขากลายเป็นตัวละครที่คนดูรักได้ในเวลาอันสั้น ด้วยทัศนคติคิดบวก บุคลิกที่มีความร่าเริงสดใส แล้วที่สำคัญบ็อบยังมีความจริงใจกับวิลล์ เปรียบเสมือนลูกของเขาเอง แล้วบ็อบนี่่ล่ะที่ทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมโยง Stranger Things เข้ากับ IT

บ็อบ นิวบี จุดเชื่อมโยงหลักของ Stranger Things กับ IT

บ็อบ นิวบี จุดเชื่อมโยงหลักของ Stranger Things กับ IT

ในช่วงต้นของซีซัน 2 วิลล์เผยให้เห็นว่าเขายังมีอาการประสาทหลอนเป็นอาการต่อเนื่องหลังจากเหตุการณ์รุนแรงที่เขาเผชิญในตอนท้ายซีซัน 1 แถมยังโดนอันธพาลที่โรงเรียนกลั่นแกล้งอีกด้วย ก็ได้บ็อบนี่ล่ะที่ทำหน้าที่แทนพ่อจริง มาคอยพูดคุยให้กำลังใจวิลล์ โดยหยิบยกเรื่องราวของเขาเองในสมัยเด็กมาเล่าให้ฟังเป็นการแชร์ประสบการณ์ว่าไม่ใช่แต่วิลล์ที่จะเจอแต่เรื่องแบบนี้ บ็อบเล่าว่าตอนเด็กเขาไปเที่ยวงานเทศกาลที่จัดแถวบ้าน แล้วก็เจอตัวตลกที่น่ากลัวมากชื่อ มิสเตอร์บาลโด ด้วยความกลัวทำให้ภาพของมิสเตอร์บาลโดตามหลอกหลอนอยู่ในจิตใจเขามาตลอด ทำให้เขาต้องหาทางหยุดภาพหลอนนี้ให้ได้

Play video

และตัวตนมิสเตอร์บาลโด ที่บ็อบอ้างถึงเนี่ยล่ะ ทำให้เกิดจุดสังเกตได้ว่า แท้จริงแล้วผู้สร้างพยายามอิงถึง เพนนีไวซ์ ใน”IT” อยู่หรือไม่ ลองวิเคราะห์เจาะลึกลงไปถึงความเป็นไปได้ เหตุการณ์ใน Stranger Things เกิดในปี 1983 พิจารณาจากอายุของบ็อบแล้ว เรื่องราวในวัยเด็กของเขาก็ต้องเกิดในช่วงปี 50s ซึ่งก็ตรงกับเหตุการณ์ที่ “แก๊งขี้แพ้” เผชิญกับเพนนีไวซ์ นั้นก็เกิดในปี 1958 ก็ยิ่งมีความเป็นไปได้ว่า มิสเตอร์บาลโด ที่บ็อบเจอ แท้จริงแล้วก็คือ เพนนีไวซ์ นั่นเอง

แมตต์ และ รอสส์ พี่น้องดัฟเฟอร์ ผู้กำกับ Stranger Things

แมตต์ และ รอสส์ พี่น้องดัฟเฟอร์ ผู้กำกับ Stranger Things

ยังมีสมมติฐานอื่นอีกที่เชื่อมโยง Stranger Things กับ IT มีเหตุการณ์ตอนหนึ่ง บ็อบ ได้ยื่นข้อเสนอกับจอยซ์ว่าอยากให้เธอย้ายไปอยู่ที่ “รัฐเมน” กับเขา ถึงตรงนี้แฟน ๆ ของ IT ก็ต้องร้อ อ๋อ! เพราะเหตุการณ์ใน IT นั้นเกิดที่เมืองเดอร์รี รัฐเมน นั่นเอง ก็เป็นอีกข้อยืนยันว่าพื้นเพเดิมของบ็อบนั้นก็มาจาก”เมน” เมืองที่ตัวตลกน่ากลัวหลอกหลอนบ็อบเมื่อสมัยยังเป็นเด็ก ถึงตรงนี้ยิ่งสร้างความคลางแคลงให้กับแฟน ๆ Stranger Things ว่าทั้งหมดนี้คือความตั้งใจของพี่น้องดัฟเฟอร์ใช่หรือไม่ ที่พยายามโยงเรื่องราวเข้ากับ IT ถึงตรงนี้ แมตต์ ดัฟเฟอร์ หนึ่งใน 2 พี่น้องก็เลยออกมายอมรับว่า IT ของสตีเฟน คิง มีอิทธิพลต่อตัวเขามากจริง

“IT เป็นหนังที่น่ากลัวที่สุดเรื่องหนึ่งที่ผมเคยดูมา ผมไม่เคยดูหนังของสตีเฟน คิง มาก่อนเลยในชีวิต เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเลย และมันกลายเป็นประสบกาณ์จดจำฝังลึกสำหรับผม มันกระทบจิตใจผมแรงมากถึงขั้นว่านอนไม่หลับไปอย่างน้อย 2 อาทิตย์ได้ ผมก็เลยเอาประสบการณ์นี้มาใส่ในเรื่องราวของบ็อบ มันไม่ได้ตรงกับเรื่องราวของผมเป๊ะ แต่มันก็เป็นฝันร้ายฝังใจทำนองนั้นแหละ”

ไม่เพียงแค่ IT เท่านั้นที่ถูกสอดแทรกเข้ามาในเรื่องราวของ Stranger Things แต่ชื่อของสตีเฟน คิง ก็ยังถูกเอ่ยถึงในซีซัน 1 ตอนที่ 6 ด้วย จอยซ์ กับ ฮอปเปอร์ ไปที่บ้านของ เบ็คกี้ อีฟส์ เพราะได้เบาะแสว่าเทอร์รี อีฟส์ น้องสาวของเธออาจจะเกี่ยวพันกับโครงการลึกลับของห้องแล็บฮอว์กกินส์ และเป็นจุดกำเนิดของเอเลฟเวน ที่ทำให้เธอเกิดมาพร้อมกับพลิงพิเศษ แต่เบ็คกี้กลับมองเป็นเรื่องปกติ แล้วก็ถามกลับมาที่จอยซ์กับฮอปเปอร์ว่า “พวกคุณเคยอ่านนิยายสตีเฟน คิง กันบ้างมั้ยเนี่ย”

Play video

เป็นอันยืนยันว่าผู้สร้างจงใจให้ Stranger Things เกี่ยวโยงกับ IT เสมือนอยู่ร่วมจักรวาลเดียวกัน และทำไปด้วยความเคารพให้เกียรติผลงานของสตีเฟน คิง ที่เป็นแรงบันดาลใจหลักในการสร้างซีรีส์สุดฮิต Stranger Things ขึ้นมา คอยติดตามชมกันต่อไปว่าใน Stranger Things ซีซัน 4 พี่น้องดัฟเฟอร์จะใส่จุดเชื่อมโยงอะไรกับIT อีกหรือไม่

 

อ้างอิง