Jessica Chastain เป็นอีกหนึ่งนักแสดงหญิงมากฝีมือแถวหน้าของยุคนี้ พิจารณาจากการมีชื่อเข้าชิงออสการ์มาแล้วถึง 2 ครั้งจาก The Help (2011) และ Zero Dark Thirty (2012) รวมถึงชนะรางวัลลูกโลกทองคำจากเรื่องหลังมาแล้ว นอกจากนั้นเธอก็ยังได้นำแสดงในหนังฟอร์มดี อย่าง Interstellar (2014) The Martian (2015) และ It Chapter Two (2019) แต่หนึ่งในการเลือกเล่นหนังที่ผิดพลาดของเธอ ก็คือการมารับบทเป็นวายร้ายเอเลี่ยนผมขาวในภาคปิดท้ายที่เห่ยที่สุดของ X-Men อย่างภาค Dark Phoenix (2019) ที่กลายเป็นความล้มเหลวในทุก ๆ ทาง และหนังเองก็ไม่เปิดโอกาสให้เธอแสดงฝีมืออะไรนอกจากเดินหน้าตายไปมา

Jessica Chastain ใน Interstellar (2014)

Jessica Chastain ใน Interstellar (2014)

Jessica Chastain ในผลงานเรื่องล่าสุด It Chapter Two (2019)

Jessica Chastain ในผลงานเรื่องล่าสุด It Chapter Two (2019)

Jessica Chastain ล้มเหลวในทุกทางกับ X-Men Dark Phoenix (2019)

Jessica Chastain ล้มเหลวในทุกทางกับ X-Men: Dark Phoenix (2019)

จึงไม่แปลกที่การที่เธอจะตกปากรับคำกลับมาเล่นหนังของ Marvel อีกครั้ง (แม้ว่าครั้งแรกจะอยู่ภายใต้การดูแลของค่าย Fox ไม่ใช่ Marvel Studios) จะต้องตั้งสติคิดให้ดีกว่ารอบเดิม ซึ่งบทที่มีการเสนอให้เธอมารับเล่นก็คือบทคุณหมอ “คริสทีน พาล์มเมอร์” เพื่อนสนิทของหมอแปลกด็อกเตอร์เสตรนจ์ ที่นักแสดง Rachel McAdams แสดงเอาไว้และเธอถอนตัวไปจากภาค 2 ในทีแรกนั้นมีรายงานว่า บทคุณหมอคริสทีนจะถูกตัดออกไปตามนักแสดงที่ไม่กลับมา และพุ่งเป้าไปที่จอมเวทย์คลี บทคนรักคนใหม่ของเสตรนจ์ที่จะถูกแนะนำในภาคนี้ และมีข่าวลือว่า Marvel ต้องการนักแสดงหญิงแถวหน้าของวงการมารับบทนี้

ยังแอบเชียร์ให้นักแสดงคนสวย Rachel McAdams กลับมา

Rachel McAdams ใน Doctor Strange (2016)

C. Robert Cargill ผู้เขียนบทหนังทั้งสองภาคได้ให้ข้อมูลเพิ่มว่า “มีนักแสดงชั้นนำมากมายที่อยากเล่นหนัง Marvel ซึ่งนั้นหมายถึงการเล่นเป็นซูเปอร์ฮีโรมากกว่าตัวประกอบธรรมดา ๆ Scott Derrickson (ผู้กำกับภาคแรกที่ถอนตัวจากการกำกับภาค 2 ไปอย่างกะทันหัน และได้ Sam Raimi ผู้กำกับ Spider-Man ไตรภาคแรกสุดมาเข้าชื่อรอเข้าเทียบท่าอยู่) ได้เอาบทคริสทีนไปเสนอเธอ แม้ว่าเธอจะตอบว่าบทคริสทีนไม่ได้เลวร้าย แต่เธอฝึกเต้นบัลเล่ต์มา ดังนั้นเธอจึงอยากเล่นหนัง Marvel เพราะอยากจะใส่ “ผ้าคลุม” (หมายถึงอยากเล่นเป็นซูเปอร์ฮีโร) ผมว่านั่นเป็นการตอบปฏิเสธที่เท่มากเลย” 

ก็ต้องมาติดตามกันต่อว่า ทางฝั่งทีมผู้สร้างและผู้เขียนบท Doctor Strange in the Multiverse of Madness จะยอมปรับบทให้กับ Chastain ได้เล่นเป็นซูเปอร์ฮีโรเพื่อจะยังยอมเล่นอยู่ในหนังเรื่องนี้หรือไม่ ในตอนนี้การถ่ายทำยังไม่ได้เริ่มต้นเนื่องจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ทำให้ชะลอการเดินเครื่องออกไป โดยสถานะล่าสุดยังอยู่ระหว่างรอ Sam Raimi ตัดสินใจกำกับ ซึ่งเขาเป็นตัวเลือกเดียวที่ Marvel Studios เสนองานให้

ผู้กำกับ Sam Raimi ตอนกำกับ Spider-Man ภาคแรก

ผู้กำกับ Sam Raimi ตอนกำกับ Spider-Man ภาคแรก

ในภาค in the Multiverse of Madness ยังจะได้ Elizabeth Olsen ในบท “แวนดา” มาสมทบ หลังจากซีรีส์ WandaVision จะออกฉายในปี 2020 นี้ด้วย นอกจากนี้หนังน่าจะได้ “บารอนมอร์โด” ตัวละครที่รับบทโดย Chiwetel Ejiofor พี่เลี้ยงของเสตรนจ์ในภาคแรก ซึ่งในตอนจบภาคแรกทิ้งเชื้อไว้ให้เป็นตัวร้ายในภาคต่อไปกลับมา รวมถึงจอมเวทย์ “หว่อง” ที่รับบทโดย Benedict Wong ก็คาดว่าจะกลับมาด้วย แต่ก็ยังมีข่าวลือว่าตัวละคร “อเมริกา ชาร์เวส” หรือมิสอเมริกา และนักเวทย์ “บราเธอร์สวูดู” ยังอาจถูกแนะนำตัวครั้งแรกในเรื่องนี้

หนังมีกำหนดฉายในสหรัฐฯ 7 พฤษภาคม 2021

อ้างอิง

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส