[รีวิว] Romance Doll: รักยิ่งใหญ่จากภรรยาช่างทำตุ๊กตายางคนหนึ่ง

Release Date

31/07/2020

ผู้กำกับ

ทานาดะ ยูกิ

ความยาว

123 นาที

[รีวิว] Romance Doll: รักยิ่งใหญ่จากภรรยาช่างทำตุ๊กตายางคนหนึ่ง
Our score
8.6

Romance Doll

จุดเด่น

  1. การแสดงของอาโออิและทากาฮาชิสามารถตรึงผู้ชมได้เสมอ ในขณะที่บทและโพรดักชันก็เพิ่มความงามและละมุนอย่างเนิ่บนิ่งอิ่มใจแต่จุกอกสไตล์ญี่ปุ่นได้ดีเช่นกัน ทำให้ฉากสนทนาง่าย ๆ ธรรมดาคือความงามที่น่าจดจำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จุดสังเกต

  1. หนังเกี่ยวข้องกับอาชีพช่างปั้นตุ๊กตายางหรือของเล่นสำหรับผู้ใหญ่ก็อาจทำให้บางคนเลี่ยงไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งก็น่าเสียดายเพราะพื้นฐานหนังจริง ๆ คือหนังความสัมพันธ์คู่ชีวิตที่ดีเรื่องหนึ่ง
  • บท

    8.5

  • โพรดักชัน

    9.0

  • นักแสดง

    9.0

  • ความสนุก

    8.0

  • ความคุ้มค่าการรับชม

    8.5

ทานาดะ ยูกิ ผู้กำกับสาวที่ถนัดสายดราม่าอบอุ่นหัวใจกลับมาร่วมงานกับนักแสดงสาวขวัญใจมหาชนอย่าง อาโออิ ยู อีกครั้งหลังจากเคยร่วมงานใน One Million Yen Girl เมื่อปี 2008 โดยครั้งนี้ได้นำเสนอเรื่องราวความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวที่มีเรื่องของอาชีพนักสร้างตุ๊กตายางเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งพลอตถือว่าแปลกตาดีสำหรับสายหนังโรแมนติกญี่ปุ่นโดยทั่วไป

เรื่องราวว่าด้วยชายหนุ่มนาม เท็ตสึโอะ (ทากาฮาชิ อิสเซย์) ผู้ที่เพิ่งเรียนจบวิทยาลัยศิลปะและบังเอิญได้มาทำงานที่โรงงานปั้นตุ๊กตายางโดยต้องเป็นลูกมือให้รุ่นเก๋าอย่างลุงคินจิ เรียนรู้ทั้งการเป็นช่างปั้นตุ๊กตายางในฐานะศิลปินและการใช้ชีวิตไปในตัว วันหนึ่งในการหาทางปั้นหน้าอกผู้หญิงให้สมจริงที่สุดเขาจึงได้พบกับ โซโนโกะ (อาโออิ ยู) นางแบบที่มาเป็นตัวอย่างหน้าอกให้ และการพบกันแค่ครั้งนั้นก็ทำให้เท็ตสึโอะตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้ทันที เนื้อเรื่องช่วงนี้ผ่านไปไวจนทั้งคู่แต่งงานกัน ซึ่งผู้ชมอาจยังไม่ทันอินในความรักของ 2 ตัวละคร แต่มองในแง่หนึ่งนั่นก็เพราะหัวใจของการเล่าเรื่องมันอยู่หลังจากนี้ทำให้ผู้สร้างอาจยอมแลกช่วงปูพื้นและให้เวลากับส่วนหลังมากขึ้นนั่นเอง

การพบกันครั้งแรกที่แสนประดักประเดิดนำมาสู่ความรักที่ชวนเอาใจช่วย

จริง ๆ แล้วหนังก็หยอดสิ่งที่ชวนให้เราอยากรู้ไว้แต่ต้นเหมือนกันด้วยฉากการร่วมรักของคู่รักตัวนำที่จบลงด้วยการที่เท็ตสึโอะบอกว่านี่คือจุดจบความสัมพันธ์ของทั้งคู่ และหลังจากหนังพาเราเริ่มต้นการพบพานจวบจนการผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ทั้งการทำงานในฐานะศิลปินและอาชีพเสื่อมเกียรติของเท็ตสึโอะ การปิดบังเรื่องอาชีพที่แท้จริงต่อโซโนโกะ ไปจนถึงดราม่าความสัมพันธ์ที่ห่างเหินจากความบ้างานของเท็ตสึโอะ จนนำมาซึ่งการโกหกของทั้งสองสามีภรรยาที่กลายมาเป็นบทเรียนแสนสะเทือนใจ และวกกลับมาบรรจบที่ฉากร่วมรักตอนต้น ก็คลี่คลายความหมายใหม่ของคำว่าจุดจบในความสัมพันธ์ได้อย่างซาบซึ้งและชวนเศร้าอยู่ไม่น้อย แต่ต่างจากเดิมคือมีความอุ่นก่อขึ้นในหัวใจผู้ชมด้วย ซึ่งต้องชมฝีมือการเล่าของผู้กำกับทานาดะด้วย

รู้มั้ยฉันหวังให้เราเป็นคู่แต่งงานแบบไหน ไม่ใช่คู่ที่สดใสมีความสุขหรอก แต่ฉันอยากให้เราเป็นคู่ที่ซื่อสัตย์ต่อกัน – โซโนโกะ

หนังฉาบหน้าด้วยอาชีพช่างทำตุ๊กตายางแต่ก็ไม่ใช่หนังแนวอาชีพอย่างที่ญี่ปุ่นถนัด และในขณะเดียวกันสโลแกนของหนังที่ว่า ตุ๊กตายางอาจไม่ใช่เรื่องของตัณหาแต่มีเรื่องราวเบื้องหลังคือความรักยิ่งใหญ่ ก็เน้นย้ำว่าหนังเรื่องนี้พูดเรื่องความสัมพันธ์ของคู่รักญี่ปุ่นเป็นหลัก ก็อาจทั้งถูกใจและไม่ถูกใจคอหนังรักญี่ปุ่นได้เช่นกัน เพราะหนังมีการเดินเรื่องแบบอิ่มอุ่น เอื่อย ๆ ไม่โฉ่งฉ่างชวนดูนัก แต่ข้อดีคือมันได้ความละมุนนุ่มลึกในแบบหนังญี่ปุ่นจริง ๆ กลับมา ฉากการสนทนาเงียบ ๆ หลาย ๆ ฉากที่ซ่อนพลังความคิดอย่างคมคายอาจถูกโฉลกนักดูหนังบางกลุ่ม แต่ก็เป็นของจืดเกินไปสำหรับคอหนังอีกกลุ่ม

ผมจะตั้งชื่อผลงานชิ้นนี้ว่าโซโนโกะครับ
ถึงจะผ่านอุปสรรคจนปางตาย แต่ในปีต่อไปซากุระก็จะออกดอกใหม่อีกครั้งเสมอ

แต่อย่างไรก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสุดท้ายการแสดงของ อาโออิ และ ทากาฮาชิ ที่เป็นคู่นำก็ดึงดูดสายตาและความสนใจของเราได้แทบทุกครั้งทีเดียว และใน บทสรุป ความรู้สึกต่อหนังทั้งเรื่องไม่ว่าใครจะว่าอย่างไร มองเป็นหนังเกี่ยวกับเรื่องอนาจารอย่างเซ็กส์ทอย หรือเป็นหนังรักที่ทำซ้ำจนเชย แต่นี่คือหนังรักที่อาศัยความเนิ่บนิ่งค่อย ๆ กัดกินหัวใจผู้ชมด้วยเรื่องการให้ความสำคัญต่อคนข้าง ๆ ได้ดีมาก ๆ เรื่องหนึ่งทีเดียว

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส