[รีวิว]Black Water : Abyss มุกเดิม ๆ ยังใช้ได้ผลอยู่
Our score
6.9

Genre : Action, Drama, Horror

Run Time : 1h 38min

Director: Andrew Traucki

Writers: John Ridley, Sarah Smith

Stars: Jessica McNamee, Luke Mitchell, Amali Golden

[รีวิว]Black Water : Abyss มุกเดิม ๆ ยังใช้ได้ผลอยู่
Our score
6.9

[รีวิว]Black Water : Abyss มุกเดิม ๆ ยังใช้ได้ผลอยู่

จุดเด่น

  1. อยากลุ้นได้ลุ้น อยากสะดุ้งได้สะดุ้ง ไอ้เข้มาไม่บ่อย แต่โผล่มาแล้วได้ผล
  2. สร้างบรรยากาศลุ้นระทึกได้โดยไม่ต้องมีฉากอี๋แหยะ
  3. เดินตามสูตรสำเร็จ แต่ก็ยังทำให้หนังดูสนุก ชวนติดตาม

จุดสังเกต

  1. ถ้าใส่ภูมิหลังของตัวละครสักนิด จะได้ร่วมลุ้นกว่านี้
  2. พลอตเรื่องใกล้เคียง 47 Meter Down : Uncaged เกินไป
  • ตรรกะ ความสมบูรณ์ของบท

    7.0

  • คุณภาพงานสร้าง

    6.5

  • คุณภาพนักแสดง

    6.0

  • ความบันเทิงตามแนวหนัง

    8.0

  • คุ้มเวลา ค่าตั๋ว

    7.0

สนับสนุนข้อมูลโดย Major Cineplex

ลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าเคยมีหนังไอ้เข้สัญชาติออสเตรเลียเรื่อง Black Water ออกมาเมื่อปี 2007 ก็จำคร่าว ๆ ได้ว่าเป็นหนังไอ้เข้ที่ได้ลุ้นพอตัวเหมือนกัน เล่นกับสูตรสำเร็จ กลุ่มคนติดกับบนต้นไม้ในป่าโกงกาง มีฝูงไอ้เข้ว่ายวนรองับเหยื่อ ทิ้งช่วงห่างมา 13 ปี ผู้กำกับ แอนดรูว์ ทรัคกิ กลับมาสานต่อภาค 2 แบบฉายเดี่ยว ไม่มี เดวิด เนอร์ลิช คู่หูที่เคยร่วมกำกับภาคแรก

Black Water : Abyss

ตามฟอร์มหนังทุนต่ำที่มักจะไม่ใช้บริการดารามีชื่อ รอบนี้ใช้นักแสดงนำ 5 คน ไม่คุ้นหน้าเลยสักคนเดียว วางพลอตเรื่องง่าย ๆ เป็นกลุ่มเพื่อน 5 คน ที่ไปร่วมผจญภัยกันสำรวจถ้ำลึกลับในป่า เพราะ แคช หนึ่งในกลุ่มเพื่อนทำงานเป็นทีมกู้ภัยแล้วไปเจอถ้ำนี้เข้าขณะที่ตามหานักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่หลงทาง แล้ววาดฝันสวยหรูว่าจะเปิดถ้ำนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันซีน ( ได้ด้วยเหรอ) สมาชิกที่เหลือ 4 คนเป็น 2 คู่ผัวเมีย เอริก- เจน กับ วิกเตอร์-โยลันดา ด้วยความยาวมาตรฐานของหนังสยองขวัญที่ 1 ชั่วโมง 38 นาที หนังเลยไม่มีเวลาให้แม้แต่จะแนะนำภูมิหลังของตัวละครทั้งหมด

หลังแนะนำตัวละครไม่นานทั้ง 5 ก็โรยตัวมาอยู่ในถ้ำแล้ว ก็มุดตามซอกตามหลืบจนมาเจอโถงใหญ่ พื้นที่ตรงกลางเป็นแอ่งน้ำใหญ่ มีพื้นที่แคบ ๆ ตามผนังถ้ำพอให้ยืนพักกันได้บ้าง ไม่นานจากนั้นน้ำป่าก็ไหลหลากเข้ามาในถ้ำ ปิดทางที่ทั้ง 5 เข้ามา เหตุเพราะข้างนอกเกิดพายุฝน และนี่คือจุดเริ่มต้นเหตุระทึกเมื่อไอ้เข้โหดดุปรากฏตัวขึ้น จากนั้นก็เข้าสูตรสำเร็จหนังระทึกขวัญ เหยื่อติดกับอยู่ในสถานที่ปิดตาย และสถานการณ์บีบคั้นขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อระดับน้ำค่อย ๆ สูงขึ้น นั่นเท่ากับจุดจบของทั้ง 5 ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามา

Black Water : Abyss

ต้องบอกว่า Black Water : Abyss ไม่ได้มีความแปลกใหม่ใด ๆ เลย จะว่าไปพลอตเรื่องก็เหมือนกับ 47 Meters Down: Uncaged เมื่อปีที่แล้วอย่างมาก เหตุการณ์เกิดในถ้ำเหมือนกัน บรรดาเหยื่อติดกับเหมือนกัน ต่างกันแค่เปลี่ยนจากฉลามมาเป็นจระเข้เท่านั้น แต่ถ้าพิจารณาในด้านหนังสยองขวัญลุ้นระทึก หนังก็ตอบโจทย์ได้อย่างดีเยี่ยม เรียกว่าถ้าเป็นข้อสอบสูตรสำเร็จของหนังสยองขวัญก็ถือว่าเป็นรายที่ทำคะแนนได้ดีเลย องค์ประกอบต่าง ๆ ที่ถูกกำหนดขึ้นมานั้นล้วนเอื้อประโยชน์ให้กับอารมณ์หนัง โดยเฉพาะบรรยากาศแวดล้อมที่เป็นถ้ำเงียบ ๆ น้ำมืด ๆ ดำ ๆ ตามชื่อเรื่องที่แค่เห็นก็ดูน่ากลัวแล้ว ทัศนวิสัยถูกบีบบังคับให้มองเห็นแค่วงแสงสว่างแคบ ๆ จากไฟฉาย เราก็มองตามแสงไฟโดยไม่รู้ว่าไอ้เข้จะโผล่มาให้สะดุ้งเอาตอนไหน

แน่นอนว่าบทหนังต้องใส่สถานการณ์บีบคั้นเข้ามาเรื่อย ๆ ตัวละครรายหนึ่งจะต้องมีปัญหาสุขภาพ ปัญหาผิดใจกันระหว่างเพื่อนในกลุ่ม หนังโยนความหวังมาให้ ด้วยการพบช่องทางรอดออกสู่โลกภายนอกครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ไปเรื่อย ๆ ทำให้หนังเดินหน้าไปอย่างน่าติดตาม แต่ละคนค่อย ๆ กลายเป็นเหยื่อของไอ้เข้ ก็ต้องลุ้นกันละว่า สุดท้ายแล้วบทหนังจะเลือกให้มีใครรอดหรือไม่

คู่พระเอก-นางเอกของเรื่อง ลุค มิตเชลล์ และ เจสซิกา แมกนามีดีฟ

ด้วยความที่เป็นหนังทุนต่ำ ทำให้งบทางด้านซีจีย่อมจำกัด ไอ้เข้ก็เลยไม่ได้โผล่มาให้เห็นเต็มตัวชัด ๆ นัก ส่วนใหญ่ก็เห็นแค่หัวกับหลังว่ายไปว่ายมาในน้ำนั่นแหละ มี 2 – 3 ครั้งได้ที่พุ่งออกมาจากผืนน้ำเงียบ ๆ เข้าใส่เหยื่อ อันนี้ได้ผลโคตร ๆ ครับ ดูหนังแบบนี้ต้องได้สะดุ้งแล้วก็เป็นการสะดุ้งได้สุดตัวเลย ก็ต้องชื่นชมว่าหนังไม่ได้โชว์ไอ้เข้แบบพร่ำเพรื่อ มาน้อยแต่มาแล้วได้ผลจริง ดนตรีประกอบก็มีไม่มากนัก เพราะส่วนใหญ่จะปล่อยให้ลุ้นกันเงียบ ๆ ทำให้บรรยากาศโดยรวมกดดันอย่างมาก

จะว่าไปไอ้ความรู้สึกว่าน่ากลัวนี่ ก็น่ากลัวด้วยบรรยากาศรายรอบของหนังที่ร่วมกันบิลด์เข้ามา หาใช่ความน่ากลัวจากตัวไอ้เข้ ซึ่งความที่เราต่างรับรู้ถึงความดุร้ายของไอ้เข้ก็เป็นความรู้สึกสามัญพื้นฐานให้เราสร้างความกลัวขึ้นมาเองได้แล้ว แต่ไอ้เข้ในหนังนั่นเราแทบไม่ได้เห็นตัวมันเต็ม ๆ ชัด ๆ เลย จะว่ามันน่ากลัวเพราะภาพลักษณ์ก็ไม่ได้ เพราะนอกจากหนังจะไม่ปูพื้นฐานของตัวละครให้เรารู้จักแล้ว ไอ้เข้ตัวร้ายของเรื่องนั้น เราก็แทบไม่ได้รู้จักด้วยว่ามันมีกิตติศัพท์ความดุร้ายมาก่อนหรือไม่ มาอยู่ในถ้ำนี้ได้อย่างไร มันใหญ่กว่าปกติไหม เอาเป็นว่าดูจนจบแล้วยังไม่รู้ว่ามันมีกี่ตัวเลยด้วยซ้ำ

Black Water : Abyss


หนังไม่เน้นขายฉากอี๋แหยะ ไม่มีศพน่าเกลียดให้เห็น มีให้เห็นแค่ฉากเหยื่อดิ้นทุรนทุรายอยู่ในน้ำเท่านั้น แล้วน้ำก็เป็นสีแดง มีความพยายามโชว์แผลที่ถูกไอ้เข้กัด แต่ตรงนี้ต้องหักคะแนน แผลดูไม่สมจริงและไม่ชวนหวาดเสียวเท่าที่ควรนัก

โดยรวมแล้วคุณภาพของ Black Water : Abyss ยังห่างจากภาคแรก แล้วก็ไม่ใช่หนังที่น่าจดจำนัก ดูแล้วก็ลืม ๆ ไปได้ แต่สำหรับคอหนังสยองขวัญนี่คือหนังทุนต่ำที่ตอบโจทย์ได้ดี ได้ลุ้น ได้สะดุ้ง ได้กรี๊ดดัง ๆ แน่นอน ถ้าใครคิดถึงบรรยากาศการได้ดูหนังสยองขวัญในโรงที่ห่างหายไปนานตั้งแต่ก่อนโควิด-19 Black Water : Abyss คือหนังที่เราจะพาคอหนังกลับไปเจอกับบรรยากาศเดิม ๆ ที่ได้ร่วมลุ้นระทึกกันไปยาว ๆ ตลอด 1 ชั่วโมงครึ่ง

https://www.youtube.com/watch?v=iUNuD_dTUTM