[รีวิว] Dragon Rider มหัศจรรย์มังกรสุดขอบฟ้า – แอนิเมชันมังกรเมากาวจนบันเทิงไม่น้อย

Release Date

13/10/2020

Dragon Rider อัศจรรย์มังกรสุดขอบฟ้า /ค่าย M Pictures/ความยาว 92 นาที

ผู้กำกับ โทเมอร์ เอชเชด / นักพากย์ เฟรดดี ไฮมอร์, แพทริก สจ๊วร์ต, เฟลิซิตี โจนส์

[รีวิว] Dragon Rider มหัศจรรย์มังกรสุดขอบฟ้า – แอนิเมชันมังกรเมากาวจนบันเทิงไม่น้อย
Our score
7.6

[รีวิว] Dragon Rider มหัศจรรย์มังกรสุดขอบฟ้า – แอนิเมชันมังกรเมากาวจนบันเทิงไม่น้อย

จุดเด่น

  1. เนื้อเรื่องสร้างสรรค์ เล่าเรื่องได้ไม่น่าเบื่อ
  2. มีความกาว มีความบันเทิงแบบการ์ตูน Dreamwork
  3. เสียงพากย์ทำได้ดี

จุดสังเกต

  • ความสมเหตุสมผลของบทภาพยนตร์

    7.5

  • คุณภาพงานสร้าง

    7.6

  • คุณภาพเสียงพากย์

    7.9

  • ความสนุกตามแนวหนัง

    7.5

  • ความคุ้มค่าตั๋ว

    7.5

สนับสนุนข้อมูลโดย Major Cineplex

หลัง Disney ถอยทัพทยอยเอาหนังแอนิเมชันของตัวเองลงสตรีมมิง Disney+ โรงหนังก็ดูจะร้างไร้หนังการ์ตูนสำหรับคุณหนู ๆ ไปโดยปริยาย แต่สำหรับเมืองไทยก็นับเป็นโชคดีที่โรงหนังยังเปิดทำการอยู่และแม้จะไ้ร้แอนิเมชันพะยี่ห้อปราสาทอัศจรรย์ เจ้ายักษ์ก็ยังมีแอนิเมชันทางเลือกอย่างสัปดาห์นี้กับ Dragon Rider แอนิเมชันเยอรมันนีจาก Constantine Film ที่ขอโดดมาเล่นในตลาดการ์ตูนสำหรับเด็กบ้าง ที่มีดีเกินหน้าตัวอย่างหนังเยอะเลยโดยหนังเล่าถึงมังกรเกล็ดเงินนาม ไฟร์เดรก (โทมัส โบรดี แซงสเตอร์) ที่ปมด้อยว่าตัวเองไม่สามารถพ่นไฟได้เหมือนมังกรตัวอื่น วันดีคืนดีมนุษย์เริ่มบุกรุกถิ่นที่อยู่ของมังกร เขากับ ซอร์เรล (เฟลิซิตี โจนส์) บราวน์นีป่าจอมแก่นจึงแอบเดินทางเพื่อไปหาดินแดนสวรรค์สำหรับมังกรในตำนาน และระหว่างทางก็ได้ เบน (เฟรดดี ไฮมอร์) โจรข้างถนนที่ตู่ว่าตัวเองเป็นอัศวินมังกรมาร่วมทาง แต่อุปสรรคสำคัญของพวกเขาคือ เนเทิลแบรนด์​ (แพทริก สจวร์ต) หุ่นยนต์มังกรจอมโหดที่แอบตามไฟร์เดรกไปยังดินแดนสวรรค์เพื่อหวังจับมังกรกินเป็นอาหาร

โทเมอร์ เอชเชด ชิมลางขยับมาทำหนังแอนิเมชันขนาดยาวเรื่องแรกได้อย่างน่าสนใจ แม้ผมเองก็เป็นคนหนึ่งเหมือนกันที่เห็นตัวอย่างหนังแล้วออกอาการยี้และเดจาวูว่ามันช่างคล้าย How to train your dragon ซะเหลือเกิน ทั้งที่จริงตัวหนังมีความออริจินัลหลายอย่างทั้งการเล่าเรื่องมังกรในยุคปัจจุบันที่วิพากษ์การรุกรานธรรมชาติของมนุษย์ หรือการเอาตำนานมายั่วล้อเล่นสนุกกับเทคโนโลยีแบบเต็มเหนี่ยว

แม้เราจะไม่ได้ทำใจว่าจะต้องเห็นหุ่นยนต์มังกรที่เล่นแอปหาคู่แก้หิวเนื้อมังกร หรือการใช้ให้ลูกสมุนวิดีโอคอลและใช้จีพีเอสตามรอยพวกพระเอกก็ตามแต่พอปรับจูนกับหนังได้ก็พบว่ามันให้ความบันเทิงไม่น้อยเลย อีกทั้งมันยังกล้าที่จะล้อตัวเองด้วยฉากเปิดตัวหนัง How to tame your dragon เหมือนรู้ทันคนดูว่าจะต้องเปรียบเทียบหนังกับแอนิเมชันเรื่องดังแน่ ๆ ก็เป็นอีสเตอร์เอ้กที่น่าสนใจซึ่งหนังก็แอบหยอดลูกเล่นแบบนี้ไปจนจบเรื่องเลย

ว่าถึงคุณภาพแอนิเมชันก็พบว่า 80% ของมันทำได้ตามมาตรฐานแอนิเมชันระดับโลกไม่น้อยคือดูไม่ก๊องแก๊งแน่ ๆ ล่ะแต่ก็มีหลุดบางช็อตที่เหมือนยังไม่สมบูรณ์อยู่บ้างแต่ภาพรวมนับว่าน่าพอใจ เสียงพากย์อังกฤษทำได้ดีเลยโดยเฉพาะบรรดาดาราที่มาพากย์ตัวละครสำคัญทั้ง เฟลิซิตี โจนส์ จาก Star Wars Rogue One ในบทซอร์เรลตัวบราวน์นีจอมเซี้ยวก็ฟังแล้วรู้สึกได้ถึงเอเนอร์จีในเสียงพากย์

เฟรดดี ไฮมอร์ จากซีรีส์ Good Doctor ก็ให้เสียงเบนได้ดีโดยเฉพาะพาร์ตดราม่า โทมัส โบรดี แซงสเตอร์ ที่พากย์เป็น ไฟร์เดรกก็ทำให้ตัวละครน่าสนใจ แต่ที่เด็ดสุดน่าจะเป็น แพทริก สจวร์ต หรือแม็กนีโตใน X-Menที่พากย์เป็นเนเทิลแบรนด์ตัวร้ายสุดติงต๊องได้มีสีสันมากจนพูดได้เลยว่าด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ ของหนังทำให้ Dragon Rider เป็นแอนิเมชันที่พาลูกหลานไปดูได้แบบพ่อแม่ก็เอ็นจอยไม่น้อยเลยล่ะ

WHAT THE FACT รีวิว Dragon Rider
กดที่ภาพเพื่อเช็กรอบฉายและซื้อบัตรชมภาพยนตร์

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส