เหลืออีก 2 เดือนก่อนจะหมดปี 2020 ปีที่สาหัสสากรรจ์สำหรับวงการภาพยนตร์โดยเฉพาะผู้จัดจำหน่ายและโรงภาพยนตร์ซึ่งแทบจะล้มหายตายจากไปเลย เพราะจนถึงขณะนี้ก็ 8 เดือนเข้าไปแล้วที่ไม่สามารถเปิดฉายหนังฟอร์มยักษ์เพื่อเรียกเงินเป็นกอบเป็นกำเข้าไปรันธุรกิจต่อได้เหมือนปกติ

และกับรายงานล่าสุดก็น่าจะยิ่งทำให้โรงภาพยนตร์ท้อแท้มากขึ้นไปอีกเมื่อ Disney ขอถอดหนังที่เป็นหนังเดิมของ Fox อย่าง Free Guy ของนักแสดง Ryan Reynolds และ Death on the Nile หนังนักสืบภาคต่อจากนิยายของ Agatha Christie ของนักแสดงและผู้กำกับ Kenneth Branagh ออกจากกำหนดฉายเดือนธันวาคมของสหรัฐฯ ไปแล้วเรียบร้อย และยังไม่ได้กำหนดวันฉายใหม่แต่คาดว่าจะเป็นช่วงปีหน้า

Free Guy ที่มีการปล่อยตัวอย่างใหม่ออกมาเมื่อ 2 เดือนก่อนเพื่อย้ำให้คอหนังไม่ลืมว่าจะเข้าฉายช่วงปลายปีนี้ (่ก่อนจะเลื่อนอีกรอบ) เล่าเรื่องราวของนายธนาคารที่ชื่อ Guy เขาอาศัยอยู่ในโลกสมมติของเกม Open World เกมหนึ่ง Guy ใช้ชีวิตอย่างซ้ำซากไปตามบทบาทของตัวละครของเขาในเกม จนวันดีคืนดีเขาเกิดมีสำนึกรู้คิดขึ้นมาว่า “ฉันมันเป็นแค่ตัวละครในเกมเหรอเนี่ย!” (ตามศัพท์ภาษาหนังเรียก Break the 4th Wall อย่างในหนังแอนิเมชันเรื่อง Wreck the Ralph) และเกิดอยากจะเป็นฮีโรต่อสู้กับเหล่าตัวละครวายร้ายในเกมขึ้นมา และกำหนดเนื้อเรื่องได้เองขึ้นอย่างที่ไม่ต้องเดินตามคำสั่งใครอีกต่อไป

หนังจะสมทบด้วยนักแสดงสาว Jodie Comer ที่โด่งดังมาจากซีรีส์หลายเรื่อง และ Taika Waititi ผู้กำกับหนัง Thor: Raganarok (2017) และ Jojo Rabbit (2019) และยังมี Joe Keery จากซีรีส์ Stranger Things ทั้ง 3 ซีซัน ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะผู้กำกับของ Free Guy ก็คือ Shawn Levy หนึ่งในผู้สร้างสรรค์ซีรีส์เรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นนั่นเอง และยังเป็นผู้กำกับหนังฮิตอย่างไตรภาค The Night at the Museum (2006-2014) ด้วย

Ryan Reynolds ใน Free Guy

ส่วนหนังภาคต่อของนักสืบ Hercule Poirot จากนวนิยายชื่อดังของ Agatha Christie ฉบับสร้างใหม่ล่าสุด เล่นเองกำกับเองโดย Kenneth Branagh หนัง “ฆาตกรรมแม่น้ำไนล์” เรื่องราวจะต่อจากตอนจบภาคแรก Murder on the Orient Express (2017) ที่ Poirot ได้รับเชิญไปแก้ไขคดีฆาตกรรมกลางเรือสำราญหรูล่องแม่น้ำไนล์ หลังจากที่เขาและคนดูได้อึ้งตะลึงงันไปกับคดีฆาตกรรมบนรถไฟข้ามประเทศในภาคแรก เขาบอกว่า ไม่อาจชี้ผิดชี้ถูกได้ซึ่งกับภาคนี้ดูจะต้องพูดประโยคเดิมอีกครั้ง

สมทบด้วย Wonder Woman อย่าง Gal Gadot, Armie Hammer จาก Call Me By Your Name (2017), นักแสดงเข้าชิง 4 รางวัลออสการ์ Annette Bening จาก The Kids Are All Right (2010) , Rose Leslie จากซีรีส์ Game of Thrones, Emma Mackey จากซีรีส์ Sex Education, Russell Brand จาก Arthur (2011) และ Tom Bateman จากภาคแรกกลับมารับบท Bouc เพื่อนของ Poirot และหนังก็ได้มือเขียนบท Michael Green จากภาคแรกและหนังฮิตอย่าง Logan (2017) และ Blade Runner 2049 (2017) อีกด้วย

Gal Gadot

เดิมหนังมีกำหนดฉายในสหรัฐฯ เดือนตุลาคม ก่อนจะเลื่อนมาเป็นช่วงเดือนธันวาคม (และก็เลื่อนต่อไปอีกรอบเรียบร้อย) นี่เป็นหนังเรื่องท้าย ๆ ที่อนุมัติสร้างโดยสตูกิโอ 20th Century Fox ก่อนจะถูก Disney ควบรวมกิจการ เดิมที่นักวิเคราะห์มองว่า Disney กะฉายทิ้งแบบไม่ค่อยแคร์ความสำเร็จ แต่การเลื่อนรอบนี้น่าจะทำให้เห็นว่า Disney ไม่ได้คิดแบบนั้น และถ้าหนังเกิดฮิตเป็นรอบที่สองเช่นเดียวกับภาคแรก แฟน ๆ อาจจะมีลุ้นว่าจะได้เห็นภาค 3 เพราะฉบับหนังเวอร์ชันก่อนมีตอน Evil Under the Sun (1982) เป็นหนังปิดไตรภาค

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส