[รีวิว] A Classic Horror Story: รวมรสหนังสยองขวัญลัทธิคลั่ง ทั้งเชิดชูผสมยั่วล้อ

Release Date

14/07/2021

ความยาว

96 นาที

[รีวิว] A Classic Horror Story: รวมรสหนังสยองขวัญลัทธิคลั่ง ทั้งเชิดชูผสมยั่วล้อ
Our score
7.5

a classic horror story

จุดเด่น

  1. บรรยากาศของหนังที่ดี และการคัดเลือกตัวละครกับนักแสดงที่ลงตัว น่าดึงดูด บทมีความยั่วล้อบรรดาหนังต่าง ๆ หลายเรื่องคอหนังน่าจะสนุก

จุดสังเกต

  1. วิธีการเฉลยของหนัง คนที่ชอบก็น่าจะชอบไปเลย คนที่ไม่ชอบก็จะรู้สึกหนังไม่ดีได้เหมือนกัน แต่ที่แน่นอนคือหนังขาดความอิ่มความสะใจไปหน่อยทั้งที่ปูมาดีทั้งเรื่อง
  • บท

    8.5

  • โปรดักชัน

    8.5

  • การแสดง

    9.0

  • ความสนุกตามแนวหนัง

    8.0

  • ความคุ้มค่าการรับชม

    7.5

เรื่องย่อ: นักเดินทางแปลกหน้า 5 คน, อุบัติเหตุทางรถยนต์, บ้านร้างกลางป่า, เพลงกล่อมเด็กพื้นบ้านที่เนื้อหาชวนหลอกหลอน, ลัทธิประหลาด เหล่านี้ล้วนเป็นภาพจำของหนังสยองขวัญเก่า ๆ ไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยเรื่องเข้าไปแล้ว ทว่าปริศนาอันดำมืดของเรื่องเล่าสยองขวัญแบบคลาสสิกนี้ก็ยังมีเสน่ห์ยั่วยวนให้ผู้ชมค้นหาคำตอบอยู่เสมอ

เน็ตฟลิกซ์ออริจินัลขาดแคลนหนังสยองขวัญดี ๆ

ไปเห็นข้อความข้างต้นมาจากที่หนึ่งในอินเทอร์เน็ต ซึ่งว่าไปก็เห็นจริงตามนั้น และมันไม่ใช่แค่ความเห็นด้วยแต่เป็นความรู้สึกมวลรวมต่อประสบการณ์รับชมเน็ตฟลิกซ์เสียด้วยซ้ำ ว่ากันตามตรงเวลาดูหนังสยองของเน็ตฟลิกซ์ ก็จะรู้สึกมันพร่อง ๆ ไม่ตรงไหนก็ตรงหนึ่งอยู่เสมอ แม้แต่ซีรีส์ดังสุดอย่าง ‘Stranger Things’ ก็เช่นกันแม้ไม่มากนัก

สำหรับเรื่องนี้เป็นคอนเทนต์จากฝั่งอิตาลี ที่มีกลิ่นแรงบันดาลใจแรงจากหนังสยองขวัญหลายต่อหลายเรื่อง โดยเฉพาะหนังฝั่งยุโรปที่ชอบเล่นเรื่องวัฒนธรรมประหลาดในหมู่บ้านห่างไกล อย่างนึกใกล้สุดก็เรื่อง ‘Midsommar’ (2019) ของ อารี แอสเตอร์ (Ari Aster) เอามาผสมผสานหนังสยองเกรดบีกระท่อมร้างกลางป่า อย่าง ‘The Evil Dead’ (1981) ของ แซม ไรมี (Sam Raimi) ซึ่งดูจะชัดเจนสุด

A Classic Horror Story

หนังเล่าเรื่องของนักเดินทาง 4 คน ที่เช่ารถบ้านของหนุ่มเนิร์ดหนังคนหนึ่ง เหตุผลของการเดินทางนั้นบ้างเพื่อกลับบ้าน บ้างเพื่อไปร่วมงานแต่งงาน โดยแต่ละคนก็ซ่อนบาปบางอย่างของตนเองไว้ ตามสูตรหนังสยองที่มักต้องตราบาปของตัวละครเพื่อสั่งสอนว่าคนเหล่านี้ต้องเผชิญความชั่วร้ายด้วยเหตุบาปอันใด ในที่นี้ก็เช่น การประสงค์ทำแท้งลูกที่กำลังจะเกิด หรือเคยฆ่าคนตายมา เป็นต้น

A Classic Horror Story

แต่ระหว่างทางอันยาวไกลนั้นอยู่ ๆ ทั้งหมดก็ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้ากับต้นไม้ข้างทาง ทว่าเมื่อทุกคนฟื้นในเช้าวันรุ่งขึ้น จากข้างถนนไม่กี่เมตร กลายเป็นว่ารถพวกเขาไปโผล่อยู่กลางป่าขนาดใหญ่ ตรงหน้าบ้านทรงโบราณหลังหนึ่ง ที่ด้านในมีกรอบใส่รูปภาพคนสวมหน้ากากลัทธิแปลก ๆ อยู่หลายสิบรูป ซึ่งต้องบอกว่าหนังเซ็ตฉากและสถานการณ์ได้ลึกลับน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว

หลังจากนั้นเรื่องราวทั้งลึกลับและชวนขวัญผวาก็เริ่มขึ้น เมื่อตัวละครสำรวจป่ารอบ ๆ และพบพิธีกรรมบางอย่างอันน่าสยดสยอง และครั้นยามค่ำคืนมาเยือนก็มีเสียงไซเรนแผดดังพร้อมแสงสปอตไลต์สีแดงทั่วบริเวณ รวมถึงร่างปริศนาตามแนวป่าที่มีจิตมุ่งร้าย อันที่คนดูจะต้องร่วมสถานการณ์เอาตัวรอดไปพร้อมตัวละครในแต่ละค่ำคืนที่พ้นผ่านไป

A Classic Horror Story

จุดดีของหนัง คืองานออกแบบศิลป์ต่าง ๆ ที่ลงตัว ดูพอดี ทำให้เชื่อได้ว่าเรื่องราวเหล่านี้อาจมีอยู่จริงได้ ไม่ถึงกับเมายาแฟนตาซีแบบใน ‘Midsommar’ และยังคลุมโทนมืด ๆ ได้ดีแบบไม่รกรุงรัง ใครเคยดูหนังเน็ตฟลิกซ์อีกเรื่องอย่าง ‘The Ritual’ ที่ใช้ป่าแถบสแกนดิเนเวียเป็นฉากหลัง หนังจะให้อารมณ์ประมาณนั้นแต่ดูสะอาดตากว่า

อีกจุดคือ การสร้างนิทานความเชื่อพื้นบ้านนั้น เอามาใช้ได้น่าขนลุกและน่าติดตาม มันมีทั้งความคลุมเครือไร้เหตุผลแต่สั่นประสาท การออกแบบตัวละครต่าง ๆ ทั้งฝั่งปีศาจ และตัวละครเหยื่อทำมาได้ดี มีคาแรกเตอร์แตกต่างไม่ทับกันเลย นอกจากนี้ตัวดารานำอย่าง มาทิลดา แอนนา อิงกริด ลุตซ์ (Matilda Anna Ingrid Lutz) ก็มีเสน่ห์ชวนมองมาก ทั้งการแสดงสีหน้าความกลัวความอ่อนแอเจ็บปวดของเธอ ก็ยังดูตรึงสายตา ดึงดูดให้เอาใจช่วยได้มาก

A Classic Horror Story
A Classic Horror Story

ต้องยอมรับว่าหนังสร้างพลอตได้น่าสนใจเลย แม้บางจุดจะทำให้พอเดาบางอย่างได้ แต่ในตัวพลอตใหญ่นั้นก็ถือว่าทำได้ดี น่าสนใจ ในส่วนค่อนเรื่องหลังนั้นมีความพยายามฉีกขนบของหนัง (ในเชิงล้อเลียนยั่วล้อและสรรเสริญ) อย่างที่ ‘The Cabin in the Woods’ เคยทำกับหนังอย่าง ‘The Evil Dead’ มาแล้ว แต่ในเรื่องนี้เป็นขนบหนังสยองขวัญลัทธิโบราณแทน ตรงนี้ก็ต้องชื่นชมในความสร้างสรรค์ในการนำเสนอ

หนังจึงทั้งมีความสดและไม่สด มีทั้งความสยองและไม่สยอง มีทั้งเหตุผลและไม่มีเหตุผลผสมปนเปกันไป แล้วแต่ผู้สร้างอยากจะหยิบเน้นอะไรมาใช้ เป็นการพูดยาก ว่าหนังดีหรือไม่ดีโดยไม่พูดถึงฉากจบ เพราะหนังฝากทั้งหมดทั้งมวลไว้กับการไขปริศนาลึกลับต่าง ๆ ดังนั้นใครที่ชอบวิธีการจบแบบนี้ก็อาจจะบอกว่าหนังดี ใครไม่ชอบก็คงบอกว่าหนังพอดูได้ เพราะในแง่หนึ่งโปรดักชันของหนังนั้นทำได้ไม่แย่เลย

A Classic Horror Story

ถ้าถามส่วนตัวคือรับได้กับวิธีจบ แม้จะไม่ใหม่มากเราเห็นทั้งหนังเกรดเอและเกรดบีต่างใช้วิธีจบแบบนี้มาแล้วทั้งนั้น แต่ที่หนังขาดไปอย่างน่าติติง คือความอิ่ม ความสะใจของผู้ชม ที่หนังอุตส่าห์ปูมาดีขนาดนี้ แต่กลับสรุปจบได้บ้าคลั่งน้อยกว่าที่ควรเป็นไปมาก (หรืออยากเก็บไว้ทำภาค 2 ก็ไม่แน่ใจนัก)

แต่ถ้าถามว่าหนังเรื่องนี้ช่วยลบคำครหาว่า เน็ตฟลิกซ์ออริจินัลขาดแคลนหนังสยองขวัญดี ๆ ได้ไหม ก็คงบอกว่ายังไม่ช่วย เหมือนน้ำตาลช้อนเดียวไม่ได้เปลี่ยนน้ำทะเลได้ฉันใดก็ฉันนั้น แต่นาน ๆ เจอน้ำตาลรสชาติดีกว่ามาตรฐานน้ำทะเล เราก็อยากแนะนำให้ชิมอยู่เหมือนกัน

a classic horror story

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส