เรื่องล่าสุดที่หงจินเป่ากำกับ ต้องย้อนกลับไปนู่นเลย หวงเฟยหง ภาค 5 ปี 1997 เว้นว่างไปถึง 19 ปี แล้วพี่หมูหินก็กลับมานั่งเก้าอี้ผู้กำกับอีกครั้ง และยังควบหน้าที่กำกับคิวบู๊ที่เขาถนัดและรับบทนำเองด้วยเป็นตาเฒ่าติง ทหารเก่าที่หนีความวุ่นวายจากปักกิ่งมาปักรกรากในเมืองซุ่ย ชายแดนจีน-รัสเซีย ในวัย 65 ปีเฒ่าติงกำลังเผชิญกับอาการหลง ๆ ลืม ๆ แต่ก็ยังมี เชอร์รี่ เด็กหญิงข้างบ้านแวะเวียนมาหาเป็นเพื่อนแก้เหงา แล้วเรื่องวุ่นวายก็เริ่มขึ้นเมื่อพ่อของเชอร์รี่เป็นผีพนันแล้วไปพัวพันกับแก๊งมาเฟียเจ้าถิ่น ทำให้โดนตามล่า แก๊งมาเฟียจึงตามมาถึงบ้านตาเฒ่าติงเพื่อจะจับเชอร์รี่ไปเป็นตัวประกันเพื่อเรียกให้พ่อเธอออกมา เฒ่าติงจึงต้องงัดวิชากังฟูเก่าออกโรงมาป้องกันเด็กหญิง

the-bodyguard-2016-sammo-hung-007

พล็อตเรื่องน่าสนใจดี ให้ความแปลกใหม่หลาย ๆ อย่าง ไปดำเนินเรื่องในเมืองชายแดนจีนให้ทิวทัศน์ที่แปลกตา ดูห่างไกลความเจริญมีวัฒนธรรมผสมระหว่างจีนและรัสเซีย มีบางช่วงก็ต้องข้ามไปถ่ายทำในรัสเซียด้วย และเปลี่ยนอารมณ์หนังแอ็คชั่นฮ่องกงจับพระเอกหนุ่มหล่อมาดูพระเอกของเรื่องที่เป็นคนแก่บ้าง พอรุ่นใหญ่ในวงการอย่างหงจินเป่ากลับมา บรรดาเพื่อนฝูงในวงการก็เลยมาสมทบกันเพียบ ขนาดผู้กำกับใหญ่อย่าง ฉีเคอะ ยังยอมมาเล่นเป็นตัวประกอบให้เลย งานนี้เป็นวาระรวมรุ่นศิษย์เก่า Peking Opera School Hong Kong โรงเรียนที่เคยสร้าง 3 ซูเปอร์สตาร์ทั้ง เฉินหลง ,หงจินเป่า , หยวนเปียว มาแล้ว และยังมีศิษย์คนอื่น ๆ มาสมทบอีกเพียบ ขาดไปแค่เฉินหลง ที่ต้องปฎิเสธไปเพราะยังวุ่นวายกับลูกชายที่โดนคดียาเสพติดอยู่ หลิว เต๋อหัว ในฐานะผู้อำนวยการสร้างเรื่องนี้เลยต้องลงมารับบทของเฉินหลงแทน พี่หลิวในวัย 55 ดูหล่อเกินวัยมาก

12734188_545698538936766_2095725186870028633_n

หนังเป็นส่วนผสมของหนังดราม่าอบอุ่นปู่-หลานและแอ็คชั่นกังฟู บทภาพยนตร์สร้างสรรค์ตัวละครของเฒ่าติงมาน่าสนใจ เป็นเสือซ่อนเล็บรักสงบหลีกเลี่ยงการเผชิญปัญหามาตลอด หนังเล่าเรื่องปมในใจมาใช้เป็นเหตุสมทบเรื่องความผูกพันกับเด็กหญิงข้างบ้านได้ดูมีเหตุผล แต่ช่วงเวลาที่จะตอกย้ำเรื่องความผูกพันของเฒ่าติงและเชอร์รี่ยังน้อยไป ฉากดราม่าที่พยายามบิลท์คนดูทั้งภาพย้อนอดีตและเพลงประกอบเลยพาอารมณ์ร่วมไปไม่ถึง พอครึ่งหลังหนังก็เปลี่ยนโทนเป็นแอ็คชั่นแล้วเปลี่ยนไปค่อนข้างไกลจนรู้สึกโดด เพราะฉากแอ็คชั่นค่อนข้างแรงและโหด มันไม่ใช่ฉากต่อสู้ที่ประกอบในหนังดราม่าเลย แต่มันเป็นฉากต่อสู้ที่จริงจังมาก ฟันแทงกันเลือดสาด เฒ่าติงสู้แบบ 1 ต่อ 10 แล้วไม่ใช่สู้แบบสั่งสอนแต่เล่นแบบเอาตาย ใช้ท่าหักกระดูกล้วน ๆ ใส่ซีจีภาพกระดูกหักมาประกอบซึ่งดูไม่ค่อยชัดหรอกและมันเชยแล้ว ที่ติดใจก็คือ หงจินเป่า เป็นผู้ออกแบบฉากต่อสู้ให้หนัง ยิปมัน 1 และ 2 แต่ทำไมใน ยิปมัน ฉากต่อสู้มันดูลื่นไหลกว่านี้ แต่พอทำให้หนังตัวเองกลับสะดุดไม่ต่อเนื่องตัดต่อไปมาไวมาก เดี๋ยวหัก เดี๋ยวหัก คู่ต่อสู้ก็ล้วนแต่ระดับลูกกระจ๊อกที่วิ่งเข้ามาให้ทุบเล่น ไม่มีระดับตัวร้ายโหด ๆ ยาก ๆ ให้ชวนลุ้นเลย

ส่วนที่น่าชื่นชมก็คือตัวหงจินเป่าในวัย 64 ยังคงดูฟิตและทะมัดทะแมงอยู่มาก ยังคงเอกลักษณ์ของดาราแอ็คชั่นกังฟูร่างอ้วนหนึ่งเดียวในวงการ หนังขมวดจบแบบสรุปทุกอย่างให้ลงเอยแบบง่ายดาย แล้วพยายามดึงอารมณ์กลับเข้าโหมดดราม่าอีกครั้งแต่ความรู้สึกคนดูตามมาไม่ทันหรอกนะ เมื่อตะกี้ยังตีกันเลือดสาดอยู่เลย อารมณ์หนังเลยออกมาแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ เหมือนห่วงหน้าพะวงหลังว่าจะเอาแนวไหนดี สุดท้ายก็เลยดราม่าไม่สุด แอ็คชั่นก็ไม่ถึง

sammo

สรุป The Bodyguard ให้อารมณ์เดิม ๆ ของหนังแอ็คชั่นฮ่องกงยุครุ่งเรืองได้ เหมาะสำหรับแฟนหนังฮ่องกงที่คิดถึงซูเปอร์สตาร์เหล่านี้ หงจินเป่าคงพะบู๊ให้เราดูได้อีกไม่กี่เรื่องแล้ว หนังทำรายได้ค่อนข้างดีในจีน หลังจากเปิดฉายไปเมื่อเดือนเมษายน ขึ้นอันดับ 1 ในสัปดาห์แรกที่ออกฉาย และอยู่ในอันดับ 7 ของหนังจีนที่ออกฉายในปีนี้ด้วยตัวเลข 49 ล้านเหรียญ

 

Play video