mazie (เมซี่) คือนักร้องสาวชาวบัลติมอร์วัย 23 ปี ที่มีแนวดนตรีสไตล์ไซเคเดลิกป๊อปที่เป็นเอกลักษณ์ เธอได้รับความสนใจจากทั่วโลกอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ก่อนหน้านี้เธอปล่อยซิงเกิลทะเล้นทะลึ่งอย่าง “girls just wanna have sex” และซิงเกิลที่เป็นไวรัลฮิตอย่าง “dumb dumb” ที่มียอดสตรีมมากกว่า 60 ล้านครั้ง ถูกเล่นบน TikTok 1 ล้านครั้ง และเพลงนี้ประกอบในภาพยนต์บน Netflix เรื่อง ‘Do’ ล่าสุดเธอได้ปล่อยซิงเกิล “it’s not me (it’s u)” ที่เขียนและโปรดิวซ์โดย Elie Rizk (Bella Poarch, Remi Wolf, Keshi) ที่มีผลงานยอดขายระดับแพลตตินัม และยังเป็นเพื่อนบ้านในวัยเด็กของ mazie ซึ่งบทเพลงนี้ได้เปิดเผยด้านที่นุ่มนวลและสะท้อนโลกส่วนตัวของ mazie ออกมา

Beartai Buzz ได้มีโอกาสพูดคุยกับ mazie ในโอกาสที่ ‘blotter baby’ อัลบั้มชุดใหม่ของเธอ ได้ออกมาให้เราฟังกันในวันนี้ (24 กุมภาพันธ์) เรามาทำความรู้จักกับศิลปินหญิงผู้เปี่ยมไปด้วยความตั้งใจที่จะนำพาดนตรีไซเคเดลิกมาสู่ความป๊อป รวมทั้งนำเสนอตัวตนผ่านผลงานอย่างจริงใจคนนี้กันเถอะ

mazie
blotter baby

ก่อนอื่นเลย เราขอแสดงความยินดีกับคุณด้วยสำหรับงานเพลงอัลบั้มใหม่ ‘blotter baby’ เราอยากจะเห็นคุณสำรวจซาวด์และสไตล์ใหม่ ๆ ในอัลบั้มนี้มาก ๆ เราอยากรู้ว่าอัลบั้มนี้มีแนวทางอย่างไร และอะไรที่ทำให้อัลบั้มนี้แตกต่างจากงานก่อนหน้าของคุณ

mazie : อืม มันแตกต่างจากงานอื่น ๆ ที่ฉันเคยทำงานมามาก เพราะมันใช้เวลาเป็นปี ซึ่งฉันไม่เคยใช้เวลาถึงปีในการทำอัลบั้มมาก่อนเลย และมันก็เป็นงานที่ฉันได้ทดลองอะไรมากมาย ได้แต่งเพลงที่เป็นอะคูสติกซะเยอะ ฉันแค่อยากลองใช้ซาวด์และสไตล์ต่าง ๆ ที่หลากหลาย มันเยอะมากและมันก็เป็นกระบวนการที่ยาวนานมากด้วย

อัลบั้มนี้น่าจะเป็นงานที่มีความเป็นส่วนตัวที่สุดและซื่อสัตย์ที่สุดของคุณเลยใช่ไหม อะไรคือแรงบันดาลใจเบื้องหลังอัลบั้มนี้ และอะไรคือข้อความสำคัญที่คุณต้องการสื่อถึงผู้ฟังของคุณ ?

mazie : ฉันคิดว่าสิ่งที่เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดคือฉันกำลังพยายามนำป๊อปไซคีเดลิกนิวเวฟเข้าสู่ดนตรีกระแสหลัก  มันเหมือนกับว่าอัลบั้มนี้เป็นความพยายามที่ดีที่สุดของฉันจนถึงตอนนี้ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ให้กับดนตรีไซคีเดลิกนิวเวฟให้มันมีความป๊อปและเข้าถึงได้ง่าย

อยากรู้ว่าอะไรเป็นแรงบันดาลใจให้คุณสำรวจดนตรีไซเคเดลิกในเพลงของคุณ และอะไรทำให้ไซคีเดลิกในแบบของคุณมีความแตกต่างจากศิลปินคนอื่น

mazie : มันเริ่มจากการที่ฉันแค่ทดลองดนตรีไซคีเดลิกและฟังเพลงเยอะ ๆ แล้วก็แบบ ว้าว มันเปลี่ยนความสัมพันธ์ของฉันกับดนตรีและสิ่งที่ฉันชอบเกี่ยวกับดนตรีไปเลยจริง ๆ และฉันก็แค่นำสิ่งนั้นไปที่สตูดิโอและใส่มันไปในการแต่งเพลงของฉัน และกระบวนการของฉันก็เป็นแบบนั้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ขอกลับไปที่จุดเริ่มต้นของคุณหน่อย อยากรู้ว่าคุณเริ่มต้นทำเพลงได้อย่างไร เริ่มรู้ว่าดนตรีเป็นสิ่งที่หลงใหลตั้งแต่เมื่อไหร่

mazie : ฉันรู้สึกเหมือนดนตรีอยู่ในชีวิตของฉันมาโดยตลอด ฉันไม่มีความทรงจำจริง ๆ ว่ามีตอนไหนบ้างที่ดนตรีไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตฉัน โดยเฉพาะการร้องเพลง ฉันร้องเพลงตลอดเวลาตอนเป็นเด็กน้อย และฉันคิดว่าฉันได้แรงบันดาลใจมาจากคุณย่าที่เล่นดนตรีเก่งและร้องเพลงเพราะมากด้วย ฉันร้องเพลงโอเปร่าตอนอายุ 10 ขวบ และบันทึกเสียงตอนอายุ 15 ปี ดังนั้นฉันจึงจำช่วงชีวิตที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับดนตรีไม่ได้เลยจริง ๆ

เรามาพูดถึงซิงเกิลฮิตของคุณกัน “girls just wanna have sex” มันเป็นงานเพลงที่น่าสนใจมาก ๆ เลย มันแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจทั้งในตัวตนและมิติทางเพศ อยากรู้ว่าอะไรเป็นแรงบันดาลใจให้คุณเขียนเพลงนี้และคุณอยากจะสื่อสารอะไรไปที่ผู้ฟังของคุณ

mazie : ฉันคิดว่ามันยากสำหรับผู้หญิงที่จะมีความมั่นใจในเรื่องเพศและชีวิตทางเพศของพวกเขา และสำหรับฉัน ฉันแค่ตื่นเต้นที่จะได้อยู่ในโลกที่ปราศจากการตีตราและเรื่องพวกนี้ไม่ได้ถูกมองว่าบ้าหรือแปลกประหลาดอะไร และใช่ ฉันเข้ามาในสตูดิโอวันนั้นด้วยความรู้สึกบ้า ๆ ฉันเดาว่าเพราะฉันรู้ว่าเรากำลังจะทำเพลงนี้กัน (หัวเราะ) ใช่ ฉันแค่อยากจะให้คนเลิกตีตราในเรื่องเซ็กส์ของผู้หญิง

แล้วประสบการณ์ของคุณในฐานะศิลปินเควียร์มีอิทธิพลต่อดนตรีของคุณอย่างไร และส่งผลต่อวิธีการที่คุณใช้ในการแต่งเพลงอย่างไร

mazie : ฉันคิดว่ามันคือสิ่งที่ปรากฏในการแต่งเพลงของฉัน เพราะมันคือตัวตนของฉัน ความเป็นเควียร์ของฉันและการแสดงออกแบบนั้นเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เพราะนั่นคือตัวตนของฉันโดยธรรมชาติ หลายครั้งที่ฉันรู้สึกว่าฉันไม่ได้ออกนอกลู่นอกทางที่จะแสดงมันออกมา ฉันรู้สึกเหมือนฉันใช้ชีวิตแบบนั้นในทุก ๆ วัน แต่แน่นอนว่าในเพลงอย่าง  “girls just wanna have sex” มันอาจดูโจ่งแจ้งไปหน่อย ซึ่งฉันก็รู้สึกหนักใจนิดหน่อยเกี่ยวกับเรื่องนี้นะ

สำหรับซิงเกิล “it’s not me (it’s u)” เพลงนี้คุณพาเราไปสัมผัสกับด้านที่ดูนุ่มนวลของคุณและคุณก็เคยบอกว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่ตรงไปตรงมาที่สุดของคุณ อยากรู้ว่าอะไรคือแรงบันดาลใจและประสบการณ์ส่วนตัวเบื้องหลังซิงเกิลนี้

mazie : มันเป็นความเสียใจอย่างมากที่ต้องผ่านการอกหัก มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากจริง ๆ และฉันใช้เวลานานมากในการเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะมันยากต่อการสำรวจ ฉันคิดว่าการตกหลุมรักเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก แต่มันก็เป็นประสบการณ์หนึ่งของมนุษย์เรา ดังนั้นฉันจึงรักเพลงนี้มาก มันเป็นส่วนตัวมาก ๆ เลยล่ะ

เพลงนี้คุณได้ร่วมงานกับ เอลี เจย์ ริซค์ (Elie Jay Rizk) ด้วย ช่วยเล่าเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณกับ เอลี เจย์ ริซค์ และการทำงานร่วมกันในเพลงนี้หน่อย

mazie : ฉันโชคดีมากที่ได้พบกับเอลีในตอนที่ฉันอายุ 15 ปี เพราะเขาเป็นเพื่อนบ้านของฉัน ซึ่งฉันคิดว่าเป็นสิ่งที่บ้าบอที่สุดเท่าที่เคยมีมา เราเพิ่งทำงานร่วมกันในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา และฉันก็โชคดีพอที่ได้เป็นเพื่อนบ้านกับคนที่ฉันคิดว่าเป็นอัจฉริยะ เราสามารถพัฒนาโปรเจกต์นี้ไปด้วยกัน มันเป็นการทดลองจริง ๆ ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา และฉันโชคดีมากที่มีเขาเป็นเพื่อนและเราได้มาร่วมงานกัน

อะไรคือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่คุณเคยเผชิญในฐานะศิลปินหน้าใหม่ และคุณเอาชนะมันได้อย่างไร

mazie : ฉันคิดว่ามันคือการจัดการกับกระแสที่ขึ้น ๆ ลง ๆ และหมุนเวียนเปลี่ยนไปของวงการเพลงและก็เรื่องความสนใจของคน คุณรู้ไหมว่ามันไม่เป็นไปไม่ได้เลย มันยากที่จะก้มหน้าและจดจ่อกับงานศิลปะในเวลาที่คุณถังแตก ในเวลาที่ไม่มีใครมองเห็นคุณ ดังนั้นฉันคิดว่าสิ่งที่ต้องทำคือการเพิ่มพลังใจให้ตัวเองเป็น 2 เท่าและลงทุนลงแรงให้กับตัวเองและให้กับความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งนี่เป็นเหมือนความท้าทายในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

แล้วอะไรคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในการได้ทำเพลงสำหรับคุณ

ฉันคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่งานของฉันเป็นไวรัลเมื่อปีที่แล้ว คุณรู้ไหมว่าเราทำงานกันอย่างไร้จุดหมายโดยแทบไม่มีใครมองเห็นผลงานของฉันเลย และนั่นก็เหมือนกับการได้รับการยืนยันในคุณค่าของผลงานที่ท่วมท้นที่สุดที่คุณจะได้รับคือเมื่องานของคุณนั้นมันเป็นไวรัลที่แพร่หลายออกไป ดังนั้นมันจึงเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับฉันและโปรดิวเซอร์และทีมงานของฉันที่เหมือนได้ทำงานฟรีตลอด 3 ปีที่ผ่านมาเพื่อที่จะได้เป็นแบบ โอ้  ! โอเค มันคุ้มค่ากับบางสิ่งที่เราได้ทุ่มเททำลงไปแล้ว

เราคิดว่าในเมืองไทยมีคนรอฟังเพลงของคุณอยู่เยอะและชอบเพลงของคุณมาก คุณมีข้อความอะไรส่งถึงแฟน ๆ ชาวไทยไหม

mazie : แน่นอนค่ะ ! ฉันรู้สึกขอบคุณแฟน ๆ ชาวไทยของฉันมาก ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราเชื่อมต่อกันทั่วโลกได้เพราะเพลงของฉัน ฉันคิดว่านั่นเป็นความรู้สึกที่เหนือจริงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ฉันรู้สึกขอบคุณมาก ฉันรักพวกคุณทุกคน และฉันหวังว่าจะได้พบคุณเมื่อฉันไปทัวร์ที่นั่นในสักวันหนึ่ง และฉันแทบจะรอไม่ไหวเลยที่จะได้ทำสิ่งนั้น.

ฟังอัลบั้ม ‘blotter baby’ ของ mazie กันแบบเต็ม ๆ ได้แล้ววันนี้

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส