เชื่อว่าผู้อ่านหลายต่อหลายท่านคงคุ้นชื่อของ “พาต้า” ในนามของห้างสรรพสินค้าที่อยู่คู่กับประเทศไทยและกรุงเทพมหานครมานานเกือบ ๆ 50 ปี นอกจากการเป็นห้างอันเก่าแก่ที่เริ่มจากย่านอินทรา (ประตูน้ำ) จนมาถึงยุคสูงเด่นเป็นสง่าในย่านปิ่นเกล้า ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านข่าวคราวต่าง ๆ มาหลายยุคหลายสมัย แต่ก็ยังคงตั้งตระหง่านอยู่เช่นเดิม ไม่เปลี่ยนไปไหน

นอกจากตัวของห้างที่หลายท่านคุ้นเคยกันบ้าง ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่อยู่คู่กับห้างมาตั้งแต่ปีแรก ๆ ของการเปิดทำการสาขาปิ่นเกล้า (ที่ตั้งปัจจุบัน) นั่นก็คือ “สวนสัตว์พาต้า” สวนสัตว์เอกชนแห่งแรกของไทยที่ตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าของตัวห้าง อันเป็นที่อยู่ของ “บัวน้อย” กอริลลาดาวเด่นประจำสวนสัตว์แห่งนี้ พร้อมด้วยสัตว์ต่าง ๆ อีกมากมาย

สำหรับสวนสัตว์พาต้าแห่งนี้ ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2526 และได้จดทะเบียนกับทางกระทรวงพาณิชย์เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2527 ในช่วงแรกเริ่มของสวนสัตว์พาต้านั้น เปิดให้ลูกค้าของห้างและผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมได้ฟรี ภายหลังจึงเริ่มเก็บค่าเข้าชม โดยแบ่งเป็น 2 อัตรา คือ ผู้ใหญ่ 10 บาท และเด็ก 5 บาท

โดยในวันนี้ (3 มีนาคม 2566) สวนสัตว์พาต้าได้กลับมาเปิดให้เข้าชมอีกครั้งแบบเต็มรูปแบบ หลังจากที่ใช้เวลาประมาณ 1 ปี กับการปรับปรุงพื้นที่ส่วนจัดแสดงและบริเวณภายในสวนสัตว์ ให้มีความเหมาะสมและเป็นปัจจุบัน โดยเฉพาะส่วนจัดแสดงชั้น 6 ที่มีการตกแต่งใหม่ ติดตั้งเครื่องปรับอากาศใหม่ พร้อมทั้งส่วนจัดแสดงโซนใหม่อย่าง “Pata Exotic Studio” รวมสัตว์แปลก ๆ ให้ได้ชม ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการนำน้อง ๆ ไปเลี้ยงที่บ้าน จะได้เข้าใจในพฤติกรรมและการอยู่อาศัยในเบื้องต้น ถือเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ

ก่อนจะเข้าชมนั้น ก็ต้องเข้าตัวอาคารก่อน ต้องบอกว่าในช่วงนี้เป็นช่วงของการปรับปรุงพื้นที่ภายในของห้างพาต้าทั้งหมด การเข้าไปยังส่วนของสวนสัตว์นั้น ให้สังเกตป้ายบอกทางแบบในภาพนี้ เมื่อไปถึงจุดดังกล่าวแล้ว จะพบกับลิฟต์โดยสาร ซึ่งนำพาไปชั้น 5 ชั้นจำหน่ายบัตรเข้าชม

เมื่อถึงชั้น 5 ก็ซื้อบัตรเข้าชมที่จุดจำหน่ายตรงนี้ได้เลย แต่บอกก่อนว่า การซื้อบัตรเข้าชมนั้น ยังรับชำระด้วยเงินสดอยู่ โปรดเตรียมเงินสดมาให้พร้อม…

สำหรับอัตราค่าเข้าชมมีดังนี้

ชาวไทยชาวต่างชาติ
ผู้ใหญ่80 บาท200 บาท
เด็ก50 บาท120 บาท

เมื่อซื้อบัตรเข้าชมแล้ว ก็เดินขึ้นไปยังชั้น 6 ซึ่งเป็นที่ตั้งของส่วนจัดแสดงส่วนแรกของสวนสัตว์พาต้าได้เลย

ภายในพื้นที่ชั้น 6

พื้นที่ชั้น 6 นี้ เป็นส่วนจัดแสดงสัตว์เลื้อยคลาน, สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ, สัตว์เลือดเย็น และสัตว์ที่ออกหากินตอนกลางคืน รวมไปถึงซากสัตว์ต่าง ๆ ที่มีการสตัฟฟ์ไว้

งูหลามทอง สัตว์ที่ทำให้สวนสัตว์พาต้าขึ้นชื่อในด้านของการเป็นแหล่งเพาะพันธุ์และขยายพันธุ์สัตว์

นอกเหนือจากการจัดแสดงสัตว์ต่าง ๆ ในชั้นนี้ ยังมีพื้นที่ให้น้อง ๆ หรือผู้ที่สนใจ สามารถรังสรรค์งานศิลปะได้

รวมไปถึงห้องแสดงขนาดย่อม ๆ ที่พร้อมเปิดทำการแสดงให้ผู้ที่เข้าชมได้รับชม โดยจะจัดแสดงทุก ๆ วันเสาร์, วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ มี 2 รอบเวลา คือ 11.00 น. และ 14.00 น.

ภายในพื้นที่ชั้น 7

หลังจากเดินชมจนทั่วชั้น 6 แล้วนั้น ก็เดินขึ้นบันไดมายังชั้น 7 ต่อเลย สำหรับชั้นนี้ เป็นส่วนจัดแสดงของสัตว์ปีก และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อาทิ นกแก้ว, นกกระตั้ว, นกเงือก, ลิงชนิดต่าง ๆ , ชะนี, อุรังอุตัง

เราสามารถซื้อผักเพื่อป้อนให้เหล่าสัตว์ต่าง ๆ ที่จัดแสดงภายในชั้นนี้ได้ แต่ว่าป้อนได้เฉพาะแพะ, แกะ, หมู, ม้า และลิง เท่านั้น

และแน่นอนที่สุด สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับสวนสัตว์พาต้าแห่งนี้ นั่นคือ… ดาวเด่นประจำสวนสัตว์พาต้า กอริลลา (หรือที่ชอบเรียกกันติดปากว่าคิงคองนั่นแหละครับ) ที่เหลืออยู่เพียงตัวเดียวในประเทศไทย “บัวน้อย” หรือ “ป้าน้อย” หรือ “ป้าบัวน้อย” แล้วแต่จะเรียกขานกัน (แต่จริง ๆ แล้ว กอริลลาบัวน้อยมีชื่อเรียกตั้งแต่แรกว่า “บวานา (Bwana)”) โดยบัวน้อยถูกจัดให้อยู่ภายในห้องเลี้ยงเฉพาะที่มีกระจกมากั้นไว้ระหว่างเจ้าบัวน้อยกับผู้ที่เข้าชม โดยการจัดให้มีกระจกล้อมรอบนั้น เป็นการป้องกันไม่ให้ผู้เช้าชมป้อนอาหาร, ลดเสียงรบกวนจากภายนอก และป้องกันไม่ให้บัวน้อยติดเชื้อต่าง ๆ จากผู้เข้าชม รวมไปถึงเป็นการรักษาสภาพอุณหภูมิภายในห้องเลี้ยงและจัดการระบบถ่ายเทอากาศอีกด้วย

หลังจากที่เดินชมสัตว์ต่าง ๆ จนอิ่มหนำสำราญใจแล้ว หากอยากอิ่มท้องด้วย ก็สามารถเลือกซื้อของว่างพร้อมเครื่องดื่มต่าง ๆ ได้ที่จุดจำหน่ายด้านข้างคอกแพะ นอกจากได้พักผ่อนแล้ว ยังได้มองเห็นวิวทิวทัศน์ที่อยู่รอบ ๆ ห้างพาต้าได้อีกด้วย

ก่อนกลับ อย่าลืมแวะชมและเลือกซื้อของที่ระลึกจากสวนสัตว์พาต้า เช่น เสื้อยืด, ตุ๊กตา, สมุดโน้ต และอีกมากมาย

อย่างที่ทราบกันดีว่า ในช่วงหลายต่อหลายปีที่ผ่านมา สวนสัตว์พาต้ามักถูกโจมตีหรือสร้างกระแสข่าวไปในทางดราม่า ถึงกรณีของการเลี้ยงดูอนุบาลสัตว์ต่าง ๆ ที่อยู่ภายในสวนสัตว์ โดยเฉพาะ “บัวน้อย” กอริลลาเพียงตัวเดียวในไทย ถึงขั้นที่ว่ามีการปล่อยข่าวออกมาว่าจะขายให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาตินั้น จากสายตาของผู้เขียนเองที่ได้เดินดูตามจุดต่าง ๆ ภายในสวนสัตว์ ตลอดไปจนถึงได้เห็นช่วงจังหวะที่เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ได้นำอาหารต่าง ๆ มาให้สัตว์ภายในสวนสัตว์ ผู้เขียนได้มองว่าเป็นไปตามขั้นตอนและมาตรฐานต่าง ๆ แบบเดียวกับที่สวนสัตว์ทั่ว ๆ ไปควรกระทำ รวมถึงได้เห็นช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่นำผัก ผลไม้ และนมกล่อง อันเป็นเมนูโปรดของเจ้าบัวน้อยมาให้ได้ทาน

ช่วงวินาทีที่เจ้าบัวน้อยกำลังดื่มนมกล่อง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเมนูโปรดของบัวน้อยที่เจ้าหน้าที่สวนสัตว์พาต้านำมาให้ทาน

ซึ่งผู้เขียนได้เห็นพร้อมกับช่างภาพท่านอื่น ๆ ที่ได้เดินทางมาทำข่าวที่สวนสัตว์พาต้า ต่างเห็นพ้องต้องกันว่าการเลี้ยงดูเจ้าบัวน้อยนั้นดูเหมาะสมดี ไม่ได้มีการปล่อยปละละเลยหรือทิ้งไว้โดยลำพังและขาดการเอาใจใส่เหมือนดั่งที่เคยมีข้อครหาหรือประเด็นดราม่าออกมาในช่วงหลายต่อหลายปีที่ผ่านมา และตรงกับที่ทางสวนสัตว์ได้มีการโพสต์ลงเฟซบุ๊กเพจสวนสัตว์พาต้า ชี้แจงทั้งในประเด็นการเลี้ยงดูเจ้าบัวน้อย และการซื้อขายเพื่อปล่อยสู่ธรรมชาติในช่วงปั้นปลายชีวิตของเจ้าบัวน้อย โดยได้โพสต์ไว้ในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2565

สำหรับวันทำการและช่วงเวลาในการเข้าชมสวนสัตว์พาต้านั้น สามารถเข้าชมได้ทุกวัน โดยเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 17.00 น. เฉพาะวันเสาร์, วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ มีการจัดแสดงโชว์ชุดพิเศษ จัดแสดง 2 รอบ รอบเวลา 11.00 น. และ 14.00 น. โดยจำกัดจำนวนผู้เข้าชมการแสดงในแต่ละรอบ รอบละ 200 ท่าน และต้องรับบัตรคิวก่อนเข้าชมการแสดงด้วย

ถือได้ว่าเป็นสวนสัตว์ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครเพียงไม่กี่ที่เท่านั้นที่ยังเปิดดำเนินการมาจนถึงปัจจุบัน และยังคอยต้อนรับผู้เข้าชมทุกท่านจากทุก ๆ ที่ ที่พร้อมมาเยี่ยมชมชีวิตสัวต์หลากหลายสายพันธุ์ที่จัดแสดงภายในสวนสัตว์แห่งนี้ หวังว่าการกลับมาของสวนสัตว์พาต้าในครั้งนี้ ทำให้ทุก ๆ ท่าน ทั้งผู้เข้าชม และเหล่าพนักงานต่างล้วนมีความสุข ที่ได้มายังที่แห่งนี้

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส