ไบรอัน อาร์มสตรอง (Brian Armstrong) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Coinbase ยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการกระดานเทรดคริปโทฯ ประกาศตั้งเป้าหมายชัดเจน มุ่งมั่นเป็นแอปพลิเคชันด้านบริการทางการเงินอันดับ 1 ของโลก ภายในระยะเวลา 5-10 ปีข้างหน้า ท่ามกลางกระแสการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว

แม้ปัจจุบัน Coinbase มีมูลค่าบริษัทประมาณ 52,000 ล้านเหรียญ โดยมีธุรกิจหลักที่มุ่งเน้นด้านการเทรดคริปโทฯ และระบบการชำระเงิน แต่เป้าหมายใหญ่ในอนาคตคือการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มค้าปลีกรายย่อย ธุรกิจขนาดกลางและเล็ก รวมถึงกลุ่มนักพัฒนาโปรแกรม เพื่อรองรับการนำสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น หลักทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์ และตราสารหนี้ เข้ามาสู่ระบบบล็อกเชนมากขึ้น

นอกจากนี้ Coinbase ยังเตรียมขยายแพลตฟอร์มให้รองรับบริการทางการเงินอื่น ๆ ที่ไม่ใช่กระดานเทรด เช่น การชำระเงินผ่าน Stablecoin และบริการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล (Custody) โดยปัจจุบันมีลูกค้าสถาบันชื่อดังอย่าง BlackRock, Stripe และ PayPal รวมกว่า 200 ราย แสดงความสนใจในการนำคริปโทฯ มาใช้ในบริการต่าง ๆ ของตนเอง

เนื่องจากกฎระเบียบจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ เช่น OCC, FED และ FDIC ที่เริ่มผ่อนคลายข้อจำกัดในการให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลของธนาคาร ส่งผลให้สถาบันการเงินแบบดั้งเดิมต่างเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่โลกของคริปโทฯ มากขึ้น เช่น Bank of America ที่มีแผนจะเปิดตัว Stablecoin ของตัวเองหากกฎระเบียบชัดเจนขึ้น

สำหรับรายได้หลักของ Coinbase ล่าสุดมาจากกลุ่มธุรกิจ Stablecoin ซึ่งมีการเติบโตสูงถึง 50% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดย Coinbase เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Stablecoin ชื่อดังอย่าง USDC และยังคงมีเป้าหมายชัดเจนที่จะแข่งขันกับ Tether (USDT) เพื่อขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลก

อาร์มสตรอง เชื่อมั่นว่าในอนาคตธนาคารหลายแห่งจะหันมาใช้โครงสร้างพื้นฐานทางการเงินจาก Coinbase โดยเฉพาะในการออก Stablecoin เพื่อให้เกิดการทำธุรกรรมที่เชื่อมโยงระหว่างสถาบันการเงินต่าง ๆ ได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น