ขึ้นชื่อว่าการท่องเที่ยวในเมืองไทยแล้ว มีหนังสือ มีเว็บ หรือแม้แต่แอปรีวิวที่เที่ยวที่กินมากมายครับ ส่วนใหญ่ก็คงจุดแข็งในเรื่องของความครบครันของที่เที่ยวหลัก ๆ ที่มักถูกกล่าวถึงในลักษณะ “..ถ้าไม่ได้มาที่นี่ ก็เหมือนกับมาไม่ถึง…” และเชื่อว่าหลายคนเวลาไปเที่ยวต่างที่ต่างถิ่นก็คงมีอารมณ์แบบนี้ทั้งนั้น ซึ่งยิ่งเป็นช่วงหยุดเทศกาลยาว ๆ ที่ทุกคนแย่งกันกินแย่งกันเที่ยวแล้ว บางทีก็จะสงสัยขึ้นมาว่ามันมีที่เที่ยวไหนหรือร้านไหนที่เด็ดดวงแต่ถูกมองข้ามไปจากสายตามวลมิตรประชาสายเที่ยวเหล่านี้บ้างไหม

เบื่อกันมั้ยกับที่เที่ยวที่กิน ที่คนแน่น ๆ?

วันนี้จึงมีไกด์บุ๊กทางเลือกสำหรับการท่องเที่ยวมาแนะนำครับ คือเมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีพื้นที่ความรับผิดชอบกระจายอยู่ทั่วประเทศ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาคารหรือย่านเก่า ๆ ที่มีของดีซ่อนอยู่ทั้งนั้น ก็ได้ออกหนังสือมาหนึ่งเล่มชื่อ เที่ยวเพลินเดินตลาดทรัพย์สินฯ เป็นการแนะนำสถานที่เที่ยวที่กิน ที่อยู่ในพื้นที่สำนักงานทรัพย์สินฯ โดยเน้น ๆ ไปที่ ตลาด ซึ่งพูดขึ้นแล้วก็ได้กลิ่นของความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ขึ้นมาเลย คือได้อารมณ์แบบคนท้องที่ที่คัดสรรของดีแบบเจ้าถิ่นมาแล้ว ไม่ใช่ร้านยอดฮิตที่มีลูกค้าจากกรุงเทพกับต่างถิ่นเต็มร้าน แต่คนในพื้นที่ขอเซย์โน อะไรแบบนั้นครับ

ซึ่งนอกจากจะแนะนำข้อมูลและประวัติของพื้นที่ตลาดนั้น ๆ แล้ว จุดเด่นก็คงเป็นสารพันร้านรวงหลากแนวทั้งคาวหวาน ทั้งเหมาะนั่งทานและซื้อฝากกลับบ้าน ตรงนี้มีจุดดีอยู่ที่ผู้จัดทำไม่ได้กูเกิ้ลข้อมูลมาจัดเรียงเอาแบบทั่วไป แต่เลือกเดินไปสำรวจในตลาดจริง ๆ ชิมมาจริง พูดคุยกับเจ้าของมาจริง จนแน่ใจว่านี่เป็นร้านที่มีสูตรมีความเป็นมาสืบทอดกันรุ่นต่อรุ่น ซึ่งยืนยันถึงคุณภาพต้นตำรับแบบไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ

ในหนังสือได้แบ่งหมวดตามเขตของสำนักงานทรัพย์สินมาถึง 7 เขต ครอบคลุมตลาดใน 10 จังหวัดตั้งแต่เหนือจรดใต้กันเลยทีเดียว ถ้าจะนั่งอ่านแล้วรีวิวอย่างเดียวก็จะอย่างไรอยู่ เราเลยออกไปเยือนของจริงโดยใช้หนังสือเล่มนี้นำทางดูครับว่าของเขาดีจริงไหม สถานที่ที่เลือกนั้นก็เป็นเมืองเก่าที่ไม่ใกล้ไม่ไกลกรุงเทพนัก นั่นก็คือ จังหวัดเพชรบุรี นั่นเองครับ สถานที่ที่เราไปวันนี้คือ ตลาดสดริมน้ำ

ตลาดสดริมน้ำ นั้น ในหนังสือบอกเป็นตลาดเก่าที่มีความสำคัญ คือเป็นสถานที่กำเนิดของเจ้าจอมเมืองเพชรในสมัยรัชกาลที่ 5 ถึง 6 ท่านด้วยกัน ปัจจุบันเป็นที่รวมของอาหารสดอาหารคาวหวานท้องถิ่นเมืองเพชรหลายร้านทีเดียว เสียดายว่าแผนที่ในหนังสือนั้นให้มาเพียงคร่าว ๆ เท่านั้น จึงต้องอาศัยแอปนำทางซึ่งก็ค้นหาไม่ยากครับ พิมพ์ว่า ตลาดริมน้ำ เพชรบุรี ก็ขึ้นมาแล้วครับ

เมื่อลองมาเดินดู ก็ให้บรรยากาศแบบคนพื้นที่จริง ๆ ครับ ยิ่งติดริมแม่น้ำเพชรบุรีก็ได้เห็นวิถีชีวิตคนเมืองเพชรแบบเดิม ๆ ด้วย เนื่องจากเป็นเวลาเที่ยงวันพอดี ร้านแรกที่มุ่งไปคิดจะทานให้ได้ก็คือ ร้านขนมจีนทอดมันแม่แดง ด้วยสรรพคุณบรรยายไว้น่าลิ้มลองว่า เป็นอาหารโบราณที่คนเพชรโปรดปราน และคนต่างถิ่นมักไม่เคยทานกัน และร้านนี้ก็ทำทั้งเส้นทั้งทอดมันเองหมดด้วยสูตรที่สืบทอดมากว่า 40 ปีด้วย เนื่องจากร้านไม่มีโต๊ะนั่งทานก็รับเป็นใส่ถ้วยมายืนทานครับ ส่วนรสชาตินี่ก็อร่อยหวานอมเปรี้ยวเข้ากันแบบไม่น่าเชื่อครับ อร่อยจนต้องเบิ้ลจริง ๆ

จบของคาวก็ลองอาหารกึ่งขนมใกล้ ๆ กันกับร้าน ข้าวแช่แม่อร ร้านนี้มีป้ายบอกทางตั้งแต่ด้านหน้าตลาดเลยทีเดียว มีโต๊ะให้นั่งทานหลายตัว แต่อาจเพราะมาช่วงเที่ยงพอดี ก็เรียกว่านั่งกันเต็มทุกโต๊ะแล้ว แต่ยืนรอไม่นานก็ได้ทานแล้วครับ ข้าวแช่เจ้านี้รับประกันด้วยวัตถุดิบที่ปลอดภัยจากสารเคมีโดยเฉพาะดอกมะลิที่นำมาใส่ในน้ำอบนั้น แม่ค้าปลูกเองเลยทีเดียว รสชาติก็ครบเครื่องตามสูตรข้าวแช่ที่บอกว่าเป็นสูตรดั้งเดิมของคนเพชรที่สืบต่อมาจากคุณยายนู่นเลยครับ

ก่อนกลับบ้านก็ต้องหาของฝากติดไม้ติดมือสักหน่อย ใกล้ ๆ กับร้านขนมจีนทอดมันเราก็เจอ ร้านเพชรสมาน ที่เปิดขายขนมหวาน โดยเฉพาะขนมหม้อแกงที่ถ้ามาเมืองเพชรยังไงก็ต้องติดเป็นของฝากกลับบ้าน ร้านนี้มีมาตั้งแต่ปี 2518 นู่น โดยวัตถุดิบก็คัดมาอย่างดีทั้งน้ำตาลโตนดหัวใจสำคัญของขนมหวานเมืองเพชร และที่สำคัญคือสดใหม่ทุกวัน ถ้าวันไหนขายไม่หมดแม่ค้าก็จะเอาไปแจกไม่นำมาขายใหม่ครับ อันนี้เท่าที่ชิมค่อนข้างชอบกว่าร้านดังนะครับ เพราะหวานพอดีไม่แหลมเลี่ยน

หลังจากลองตามหนังสือ เที่ยวเพลินเดินตลาดทรัพย์สินฯ มา ก็ต้องบอกว่าเปิดโลกให้ได้ลิ้มลองของดีที่ซ่อนอยู่จริิง ๆ ครับ แถมได้ชิลบรรยากาศใกล้ชิดสไตล์คนพื้นที่แบบที่บอกได้จริง ๆ ว่า รู้สึกว่ามาถึงเมืองนั้นแล้วจริง ๆ

หนังสือเล่มนี้ไม่มีวางขายเพราะสำนักงานทรัพย์สินฯตั้งใจทำออกมาให้ประชาชนทั่วไปฟรี ๆ คนที่สนใจสามารถติดต่อขอรับหนังสือได้ที่สำนักงานทรัพย์สินฯใกล้บ้าน หรือไม่สะดวกก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดในรูปแบบ E-book ได้ที่ ลิ้งค์นี้ เลยครับ