[รีวิวซีรีส์] KINGDOM ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด – การเมืองซอมบี้ยุคโชซอน..สยองจนหยุดไม่อยู่
Our score
9.0

Netflix Kingdom

จุดเด่น

  1. ซีรีส์เล่าเรื่องได้ระทึกมาก
  2. ซอมบี้ดูน่ากลัวจริงไม่จกตา
  3. มีแฝงประเด็นการเมืองให้ได้ติดตามกันเรื่อยๆ
  4. นักแสดงเล่นดีกันทุกคน

จุดสังเกต

  1. ซีซันแรกสั้นมาก
  2. ทิ้งทายไว้ค้างคาแทบรอซีซัน 2 ไม่ไหว
  3. ซีรีส์โหดจริง มีภาพสยดสยองเยอะมาก
  • ตรรกะ ความสมบูรณ์ของบท

    9.0

  • ความสมบูรณ์ของงานสร้าง

    9.0

  • ความน่ากลัว ความระทึกแบบหนังซอมบี้

    9.0

  • ความน่าติดตามในแต่ละตอน

    9.0

  • ความคุ้มค่าเวลาในการชม

    9.0

  • ควบคุมงานสร้างโดย ลีซังแบ็ค
  • เหมาะสำหรับ คอหนังหรือซีรีส์แนวซอมบี้ เอาชีวิตรอด
  • สตรีมมิง 6 ตอนทาง Netflix (คลิกเพื่อชมซีรีส์ได้ทันที)

Play video

เมื่อบ้านเมืองระส่ำระสายด้วยโรคระบาดที่ทำให้คนกลายเป็นผีดิบ องค์รัชทายาท (จูจีฮุน) ต้องลี้ภัยจากเกมอำนาจของ โจฮาคโจ (ริวซองรยอง) อำมาตย์ชั่วที่อาศัยร่างกระหายเลือดของกษัตริย์เพื่อรอวันให้ลูกสาวคลอดบุตรชายมาสืบบัลลังก์ จนได้พบกับโซปี (แบดูนา) แพทย์สาวที่เพิ่งหนีตายจากกองทัพผีดิบและพวกเขาก็กลายเป็นความหวังเดียวของแผ่นดินก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป

ต้นธารของ Kingdom มาจาก The Kingdom of the Gods คอมิคซีรีส์ออนไลน์ดังที่โดดเด่นด้วยการเอา ซอมบี้ ไปอยู่ในยุคโชซอนและยังผูกปมเรื่องให้มีกลิ่นอายความเป็นหนังทริลเลอร์การเมืองนิดๆให้ชวนติดตามได้อย่างลงตัวซึ่งบทของซีรีส์ก็รังสรรค์โดย คิมอึนฮี ผู้เขียนเรื่องในคอมิคต้นฉบับเอง ซึ่งก็ทำให้เรื่องราวถูกเล่าได้อย่างรัดกุม รอบด้าน ที่ผมชื่นชอบเป็นพิเศษเห็นจะเป็นเรื่องราวในส่วนของการเมืองในราชสำนักที่ทำให้เห็นผลร้ายของการฉ้อราชบังหลวงที่ทำให้ราษฎรต้องลำบากในยามวิกฤติ ในขณะที่อภิสิทธิชนก็ต้องการคงอำนาจตนเองไว้ให้นานที่สุด ซึ่งถือเป็นธีมคลาสสิกที่สามารถชูรสและเพิ่มความโดดเด่นให้ซีรีส์ได้อย่างยอดเยี่ยม แถมยังคงสารที่หนังหรือซีรีส์ซอมบี้ดังๆได้กล่าวมาตลอดนั่นคือ พอถึงจุดๆหนึี่ง คนจะน่ากลัวกว่าซอมบี้หลายเท่านัก

ด้าน คิมซองฮุน ผู้กำกับที่เคยทำ A Hard Days ปี 2014 ที่เคยได้ฉายในสาย Director Fortnight ที่เทศกาลหนังเมืองคานส์มาแล้ว ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะซีรีส์แทบไม่มีช่วงไหนที่น่าเบื่อเลย คิมซองฮุน สามารถกำกับการแสดงในภาพรวมให้เร้าอารมณ์ผู้ชมให้รู้สึกถึงความหวาดกลัวทั้งผีดิบและความอำมหิตของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งงานภาพก็ถือว่าผู้กำกับไม่เสียชื่อที่เคยทำหนังขวัญใจนักวิจารณ์มาก่อนเพราะงานวิช่วลของซีรีส์คือใช้ภาษาภาพยนตร์มาบอกเล่าและสื่อความหมายในหลายๆฉากได้อย่างมีประสิทธิภาพจริงๆ

ส่วนนักแสดงต้องบอกว่านี่คือดรีมทีมที่แท้จริง ด้าน จูจีฮุน หรือ เจ้าชายเย็นชา แห่ง Princess Hours (2006) ก็รับบท องค์รัชทายาทได้เท่โคตรๆทั้งบู๊ฟันดาบ หรือขี่ม้าได้อย่างสง่างามแถมยังถ่ายทอดความเมตตาขององค์ชายที่ถูกหักหลังได้น่าเอาใจช่วยมากๆ ส่วน ริวซองรยอง นี่ถ้าเป็นเมืองไทยน่าจะโดนทุเรียนไปหลายลูกเลย ฮ่าาาา  คนอะไรจะร้ายได้ขนาดนั้น และปิดท้ายที่ แบดูนา ที่แม้เรื่องนี้เธอจะไม่ได้โชว์ความเซ็กซี่เหมือน Sense8 หรือหนัง Cloud Atlas แต่เสน่ห์ด้านการแสดงของเธอยังมาเต็มในฐานะหมอสาวที่พยายามหาทางคิดค้นยารักษาโรคระบาด ที่เชื่อว่าจบ 6 ตอนนี้แล้วหลายคนคงแทบลงแดงรอดูซีซัน 2 ต่อไม่ไหวแน่นอน