หลังจากมีรายงานข่าวว่าสหรัฐฯ ได้เคลื่อนหมู่เรือบรรทุกเครื่องบินเข้าสู่ทะเลจีน หลังเครื่องบินรบของจีนหลายลำได้บินเข้าประชิดน่านฟ้าของไต้หวัน (แต่ยังไม่เข้าไปในเกาะไต้หวัน) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ก็ได้ออกมากล่าวว่า ได้รับทราบความพยายามข่มขู่ไต้หวันของจีนแล้ว และเรียกร้องให้จีนหยุดใช้ปฏิบัติการทางทหารเพื่อกดดันไต้หวัน พร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุนและต้องการกระชับความสัมพันธ์กับไต้หวันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โฆษกยังได้กล่าวกับรัฐบาลจีนว่า ต้องการให้ปักกิ่งยุติการกดดันไต้หวันด้วยทหาร การทูต และเศรษฐกิจ รวมถึงยังขอขอให้เคารพคณะผู้แทนของไต้หวันที่ได้รับเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย

(ภาพแผนที่จาก Reuters)

ไต้หวันเปิดเผยว่า เครื่องบินรบของจีนหลายลำได้ล่วงล้ำน่านฟ้าในเขตป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวันเป็นวันที่ 2 (23-24 มกราคม) โดยนักวิเคราะห์มองว่าจีนกำลังทดสอบ Joe Biden ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ที่มีต่อนโยบายไต้หวัน หลังจากทำเนียบขาวเพิ่งจะเชิญตัวแทนไต้หวันเข้าร่วมพิธีสาบานตนเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา และก็เป็นไปตามคาดว่ารัฐบาลของ Biden นั้นจะไม่ได้ลดท่าทีแข็งกร้าวที่มีต่อจีน และนี่อาจจะเป็นนโยบายไม่กี่นโยบายที่ Biden ไม่ได้กลับลำจากสมัยรัฐบาล Trump เพราะในยุคของ Trump นั้นก็พยายามกระชับสัมพันธ์กับไต้หวันเพื่อคานอำนาจกับจีนมาโดยตลอด

ก่อนหน้านี้ จีนได้ส่งเครื่องบินทหารบินเหนือน่านน้ำระหว่างปลายสุดทางใต้ของไต้หวัน แต่เป็นแค่เครื่องบินลาดตระเวน แต่ปฏิบัติการเมื่อวัน 24 มกราคมนั้น มีจำนวนเครื่องบินเข้าร่วมมากถึง 15 ลำ โดยแบ่งเป็นเครื่องบินขับไล่ 12 ลำ เครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำ 2 ลำ และเครื่องบินลาดตระเวนอีก 1 ลำ กระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยว่า กองทัพอากาศไต้หวันได้ส่งคำเตือนผ่านระบบวิทยุไปยังเครื่องบินของจีน และใช้ระบบอาวุธนำวิถีป้องกันภัยทางอากาศติดตามเครื่องบินของจีนเพื่อให้บินออกจากเขตน่านฟ้านั้น

ทางด้านจีนก็ไม่น้อยหน้า รายงานล่าสุดเผยว่า ทางการจีนได้ประกาศใช้กฎหมายอนุญาตให้หน่วยยามชายฝั่งสามารถยิงเรือต่างชาติได้เป็นครั้งแรก โดยหน่วยงานด้านกฎหมายของจีนได้ระบุว่า ต่อไปนี้ยามชายฝั่งสามารถใช้ทุกวิธีหากจำเป็นต้องตอบโต้ศัตรูที่ล่วงล้ำน่านน้ำเข้าเมา รวมทั้งการใช้อาวุธประจำเรือ หรืออาวุธที่ปล่อยจากอากาศในการจัดการกับเรือข้าศึกโดยกฎหมายจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนยังกล่าวว่า กฎหมายนี้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติของสากล นอกจากนี้ อำนาจทางกฎหมายดังกล่าวยังครอบคลุมถึงพื้นที่พิพาทที่จีนอ้างสิทธิ์การทับซ้อนกับประเทศอื่น ๆ อีกด้วย ไปจนถึงให้สามารถทำลายสิ่งก่อสร้างของประเทศอื่นที่รุกล้ำน่านน้ำของจีน

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส