realme แบรนด์สมาร์ตโฟนจากประเทศจีนที่แยกออกจาก OPPO เมื่อปี 2018 ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนระดับกลางซีรีส์ C85 ได้แก่ C85 Pro และ C85 5G ซึ่งทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 7,000 mAh, หน้าจอที่มีความสว่างมาก ซึ่งรองรับรีเฟรชเรตสูงสุด 144 Hz และซอฟต์แวร์ realme UI 6.0 ที่มาพร้อมฟีเจอร์ AI มากมาย ในราคาที่ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย

realme C85 Pro นั้น ได้รับการติดตั้งแผงหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (1,080 x 2,344 พิกเซล) ซึ่งรองรับรีเฟรชเรต 120 Hz (แสดงการเคลื่อนไหวของภาพอย่างนุ่มนวลที่ 120 เฟรมต่อวินาที) และความสว่างสูงสุด 4,000 Nits ในขณะที่ realme C85 5G นั้น ได้รับการติดตั้งแผงหน้าจอ LCD ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด HD+ และรองรับรีเฟรชเรตในระดับสูงถึง 144 Hz (แสดงการเคลื่อนไหวของภาพที่ 144 เฟรมต่อวินาที)

ด้านการประมวลผลนั้น realme C85 Pro ได้ใช้ศักยภาพจากชิปเซต Qualcomm Snapdragon 685 ที่ได้รับการผลิตด้วยเทคโนโลยี 6 นาโนเมตร และติดตั้งแกน CPU (Central Processing Unit: หน่วยประมวลผลกลาง) จำนวน 8 คอร์ ได้แก่ Cortex-A73 จำนวน 4 คอร์ ความเร็วสูงสุด 2.80 GHz (สำหรับประมวลผลงานทั่วไป) และ Cortex-A53 จำนวน 4 คอร์ ความเร็วสูงสุด 1.90 GHz (สำหรับประมวลผลแบบประหยัดพลังงาน) แต่รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE
ในขณะที่ realme C85 5G นั้น ได้ใช้ศักยภาพจากชิปเซต MediaTek Dimensity 6300 ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 6 นาโนเมตร และติดตั้งแกน CPU จำนวน 8 คอร์ ได้แก่ Cortex-A76 จำนวน 2 คอร์ ความเร็วสูงสุด 2.40 GHz และ Cortex-A55 จำนวน 6 คอร์ ความเร็วสูงสุด 2.0 GHz

สมาร์ตโฟนทั้ง 2 รุ่น ทำงานร่วมกับแรมที่มีความจุสูงสุด 8 GB ที่สามารถเสริมแรมเสมือน (Virtual RAM) ได้สูงสุด 24 GB และสตอเรจ ความจุสูงสุด 256 GB บนซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบด้วยซอฟต์แวร์ realme UI 6.0 ซึ่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหล และรองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่องในอนาคต
ด้านระบบถ่ายภาพนั้น ได้รับการติดตั้งกล้องหลัก ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และกล้องเซลฟี ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
ฮาร์ดแวร์ที่น่าประทับใจนี้ได้รับการจ่ายพลังงานด้วยแบตเตอรี่ที่มีความจุสูงถึง 7,000 mAh รองรับการชาร์จไฟเร็ว 75 W ซึ่งได้รับการติดตั้งภายใต้บอดีที่มาพร้อมมาตรฐาน IP69 ซึ่งช่วยป้องกันตัวเครื่องจากฝุ่นรอบทิศทาง และน้ำแรงดันสูงที่อุณหภูมิสูงสุด 80 องศาเซลเซียส

อีกสิ่งที่ต่างกัน คือ realme C85 Pro มาพร้อมบอดีที่มีความบาง 8.09 มม. และหนัก 205 กรัม รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 5, Bluetooth 5.0, GPS, NFC และพอร์ต USB-C
ในขณะที่ raelme C85 5G นั้น มีบอดีที่บางกว่าเล็กน้อย อยู่ที่ 8.38 มม., หนัก 215 กรัม และรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3


realme ได้จำหน่ายสมาร์ตโฟนซีรีส์ C85 ในประเทศเวียดนาม โดยมีสีตัวเครื่องให้เลือก 2 เวอร์ชัน ได้แก่ Parrot Purple และ Peacock Green พร้อมราคาดังนี้
realme C85 Pro
- แรม 8 GB + สตอเรจ 128 GB : 6,490,000 ดงเวียดนาม หรือประมาณ 8,000 บาท
- แรม 8 GB + สตอเรจ 256 GB : 7,090,000 ดงเวียดนาม หรือประมาณ 8,700 บาท
realme C85 5G
- แรม 8 GB + สตอเรจ 256 GB : 7,690,000 ดงเวียดนาม หรือประมาณ 9,500 บาท
ทั้งนี้ต้องติดตามว่า realme จะขยายการจำหน่ายสมาร์ตโฟนซีรีส์ C85 ไปยังประเทศอื่น ๆ ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อไร
