ในช่วงของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลายคนอาจมองหาวิธีการรักษาเบื้องต้นหรือวิธีป้องกันไม่ให้เชื้อส่งผลกับร่างกายของเรา ดังนั้นก็อาจมีหลายคนที่เคยสงสัยว่า แล้ววิธีการกินอาหารเสริมอย่างพวกวิตามินซี ธาตุเหล็กหรือกินอาหารเสริมอื่น ๆ จะช่วยป้องกันหรือรักษาโควิดได้หรือไม่?

ก่อนอื่น เรามาดูกันก่อนว่าแร่ธาตุแต่ละตัวมีหน้าที่การทำงานอย่างไร

  • วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ได้รับการส่งเสริมให้เป็นตัวการสำคัญในการเสริมสร้างการทำงานของภูมิคุ้มกันที่ดีต่อสุขภาพ
  • ส่วน Zinc หรือธาตุเหล็กอาจมีฤทธิ์ต้านไวรัส ไม่ว่าจะโดยการปรับปรุงการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน ที่ต่อต้านการติดเชื้อไวรัสหรือไว้เพื่อลดความสามารถของไวรัสในการเพิ่มจำนวน

ซึ่งหากอิงจากการวิจัยของ Harvard มีหลักฐานบางอย่างเช่นกันที่ชี้ให้เห็นว่าการรวมวิตามินซีและ Zinc เข้าด้วยกันอาจจะจำกัดระยะเวลาและความรุนแรงของอาการหวัดได้ด้วย ส่วนกรณีของวิตามินดีและเมลาโทนิน แม้ว่าจะมีหลักฐานว่าวิตามินดีและเมลาโทนินอาจมีผลดีต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน แต่ผลต้านไวรัสที่เฉพาะเจาะจงก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ออกมาได้อยู่ดี

การวิจัยยังระบุอีกด้วยว่าควรจะทานวิตามินซีอย่างพอเหมาะ ซึ่งแนะนำที่ 1,000-2,000 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อช่วยเรื่องเสริมภูมิคุ้มกัน ไม่เป็นหวัดง่าย แต่ถ้าทานเยอะเกินไปอาจทำให้ท้องเสียหรือท้องไส้ปั่นป่วนได้และที่สำคัญคือตัววิตามินจะถูกละลายออกมาเป็นน้ำ ถ้าทานเยอะเกินไปก็จะไหลออกมาเป็นปัสสาวะอยู่ดี ไม่ได้ถูกดูดซึมเข้าร่างกายแต่อย่างใด

ส่วนกรณีของฟ้าทะลายโจรที่หลายคนเชื่อว่าสามารถรักษาหรือป้องกันไวรัสโคโรนาได้ ความจริงแล้วยังไม่ได้มีงานวิจัยที่ชี้ออกมาแน่ชัดว่าฟ้าทะลายโจรจะช่วยป้องกันโควิด-19 ได้ โดยเบื้องต้น คืออาจใช้เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันเท่านั้น และยังคงต้องปฏิบัติร่วมกับมาตรการป้องกันอื่น ๆ อยู่ดี

ซึ่งทางโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรก็ได้ออกมาย้ำชัดอีกครั้งถึงกรณีของการนำฟ้าทะลายโจรไปทานเพื่อป้องกันหรือรักษาโรคโควิด-19 โดยทางภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้ชี้แจงออกเป็น 4 ประเด็น ดังนี้

ประเด็นแรกคือฟ้าทะลายโจรสามารถรักษาโควิด-19 ได้จริงหรือไม่ ซึ่งภญ.สุภาภรณ์ตอบคำถามถึงประเด็นนี้ว่าจริง ๆ แล้วคงไม่มียาหรือวัคซีนตัวใดที่จะพูดได้อย่างเต็มปากว่าจะสามารถรักษาโควิดได้จริง แต่จากการวิจัยก็พบว่าฟ้าทะลายโจรมีความสามารถในการยับยั้งกระบวนการติดเชื้อไวรัสของเซลล์ปอดได้ จึงมีโอกาสได้รับการพัฒนาต่อไป

ประเด็นที่สองคือฟ้าทะลายโจรป้องกันโควิด-19 ได้หรือไม่ ซึ่งปัจจุบันยังคงไม่มีหลักฐานทางวิชาการที่แน่นอนสำหรับประเด็นนี้ แต่ที่แน่ ๆ คือฟ้าทะลายโจรสามารถสร้างภูมิคุ้มกันและช่วยป้องกันหวัดได้ โดยมีงานวิจัยที่สนับสนุนมากพอสมควรที่บอกว่าฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน

ประเด็นที่สามคือถ้าใช้ฟ้าทะลายโจร แล้วจะไม่ต้องฉีดวัคซีนใช่หรือไม่ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าการฉีดวัคซีนเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่จำเพาะสำหรับเชื้อโควิดโดยตรง (ถึงแม้จะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100%) ดังนั้น การทานฟ้าทะลายโจรจึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน พร้อมชี้ว่าการฉัดวัคซีนย่อมได้ผลมากกว่า

ประเด็นที่สี่ประเด็นสุดท้าย ฟ้าทะลายโจรที่เป็นสารสกัดมีฤทธิ์ดีและปลอดภัยกว่าผงบดหยาบใช่หรือไม่ ตรงส่วนนี้ ภญ.สุภาภรณ์ได้ให้คำตอบไว้ว่าไม่จริงเสมอไป เพราะขึ้นอยู่กับมาตรฐานการผลิตและโรคที่นำไปใช้ โดยปกติแล้วแนะนำให้ใช้ที่ 1500-3000 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้งหลังอาหารและก่อนนอน หรือใช้สารสกัดแอนโดรกราโฟไลด์ที่ประมาณ 60-120 มิลลิกรัมต่อวันในการบรรเทาอาการเจ็บคอและหวัด

โดยสรุปแล้ว ณ ปัจจุบันยังคงไม่มียาหรือวัคซีนตัวใดที่จะตอบได้อย่างเต็มปากว่าสามารถรักษาหรือป้องกันโควิด-19 ได้จริงแบบ 100% ส่วนการกินอาหารเสริมก็เพียงเพื่อช่วยเรื่องการเสริมภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น มีสุขภาพแข็งแรง ไม่ต้องไปโรงพยาบาลเพื่อเสี่ยงกับโรคภัยต่าง ๆ และที่สำคัญคือไม่ควรทานในปริมาณที่มากเกินไปจนเกิดผลเสียต่อร่างกาย

อ้างอิง1 อ้างอิง2 อ้างอิง3

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส