ดูเหมือนยังไม่จบง่าย ๆ สำหรับดราม่าระหว่างนักพากย์ Bayonetta ‘เฮลเลนา เทย์เลอร์’ (Hellena Taylor) ที่หลังจากเธอได้ประกาศให้แฟน ๆ แบนไม่ซื้อเกมภาค 3 ที่เธอจะไม่ได้รับหน้าที่พากย์เสียงอีกแล้ว เพราะว่าไม่พอใจค่าแรงจำนวน 4,000 เหรียญสหรัฐ ที่ทางค่าย PlatinumGames เสนอให้

แต่หลังจากนั้นก็มีการระบุว่าสิ่งที่เธอพูดออกมาไม่ถูกต้องทั้งหมด เพราะมีรายงานจาก Bloomberg และ VGC รายงานว่า เทย์เลอร์ได้รับเงินจำนวน 15,000 เหรียญจากการทำงาน 5 ครั้งในการพากย์เสียง อย่างไรก็ตามล่าสุด เทอร์เลอร์ได้ออกมาพูดผ่าน Twitter ของเธออีกครั้งที่เป็นการปกป้องชื่อเสียงของเธอ เพราะมีคนกล่าวหาว่าเป็นคนโกหก หรือเป็นพวกอยากรวยทางลัด

โดยเธอได้โพสต์ระบุว่า ข้อเสนอแรกที่ค่ายเกมให้มานั้นต่ำเกินไป ที่มีจำนวนเงินรวมทั้งหมดในการทำงานเพียง 10,000 เหรียญ นอกจากนี้ยังระบุว่าอย่าลืมว่า แฟรนไชส์เกม Bayonetta ทำรายได้ 450 ล้านเหรียญ หลังจากนั้นเธอได้เขียนข้อความเป็นภาษาญี่ปุ่น เพื่อติดต่อกับ ฮิเดกิ คามิยะ (Hideki Kamiya) ผู้ให้กำเนิดเกม Bayonetta เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้

และ คามิยะ ได้ตอบกลับมาว่ายังคงเห็นคุณค่าของเธอและอยากให้มีส่วนร่วมในการทำภาค 3 เพราะแฟน ๆ ยังคงอยากได้ยินเสียงเธอในภาคนี้ ตามมาด้วยเสนอเพิ่มอีก 5,000 เหรียญ แต่ในที่สุดเธอได้ปฏิเสธที่จะให้เสียงเกม หลังจากนั้นฉันก็ไม่ได้รับการติดต่อจากค่ายเกมอีกเป็นเวลา 11 เดือน และข่าวที่ระบุว่าเธอได้เงินจำนวน 4,000 เหรียญ จำนวน 5 ครั้ง เป็นเรื่องไม่จริง รวมทั้งข่าวที่บอกว่าเธอเรียกเงิน 250,000 เหรียญ ก็เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมา เธอเพียงแค่ต้องการเรียกร้องรายได้ให้สอดคล้องกับค่าครองชีพเท่านั้น

อีกข้อมูลที่ได้ถูกปล่อยผ่าน Twitter ระบุว่า ในการพากย์เสียง Bayonetta ภาคแรกเธอรับค่าจ้างเพียง 3,000 ปอนด์ และได้เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยในการให้เสียงภาค 2

อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตเล็กน้อยสำหรับการให้ข่าวครั้งนี้ เพราะมีแฟน ๆ เกมที่จับผิดว่าที่เธอบอกว่าซีรีส์สาวแว่นทำรายได้ 450 ล้านเหรียญนั้นไม่จริง เพราะหากนับยอดขายเกม 2 ภาครวมกันซีรีส์ Bayonetta ทำรายได้ให้ค่ายเกมแค่ 185 ล้านเหรียญเท่านั้น และหลายคนยังคงจี้จุดเดิมว่า การออกมาพูดครั้งที่แล้วของเทย์เลอร์ พูดถึงแต่จำนวนเงิน 4,000 เหรียญ เพิ่งจะมาคายเรื่องเงินกว่า 10,000 เหรียญในครั้งนี้เอง

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส