หลังจากเพิ่งเปิดตัว เคน เป็นหนึ่งในตัวละครหลักใน สตรีท ไฟท์เตอร์ 5 เกมต่อสู้ระดับตำนานทีจะกลับมาอีกครั้งบน PS4 และ PC มาดูกันว่าทางค่าย แคปคอม ได้เปิดตัวละครไหนออกมาแล้วบ้าง ที่มีทั้งเก่าและใหม่ ไปดูกันว่ามีตัวอะไรบ้างที่จะได้เล่นกัน(ในอนาคตจะมีอีกหลายตัว) ส่วนใครที่อยากเล่นอดใจรออีกนิด เพราะประมาณต้นปีหน้าน่าจะได้เล่นกันแล้ว

street-fighter-5-t2

1 ริว แน่นอนว่าต้องมีหนึ่งในตัวละครหลักที่อยู่ตั้งแต่ภาคแรก มาในครั้งนี้รูปร่างหน้าตาเหมือนต้นฉบับเดิมที่คอเกมคุ้นเคย ส่วนท่าไม้ตายยังคงเดิม เรียกว่าคลาสสิกกันไปเลยสำหรับตำนานที่เป็นสัญลักษณ์ของวงการเกมต่อสู้ไปแล้ว

ken_art_thumb2 เคน แน่นอนว่ามีริวก็ต้องมีเคน ตัวละครคู่หูกันมาตั้งแต่ภาคแรก แต่ที่มาแปลกคือหน้าตาที่ดูดุดํนมากขึ้น เสื้อผ้าก็เปลี่ยนไปใส่เสื้อสีดำที่ดูเข้มขึ้นไปอีก ท่าไม้ตายก็ปรับใหม่ให้ต่อคอมโบได้หลากหลายขึ้น

street-fighter 55

3 เบอร์ดี้ หนุ่มร่างยักษ์จากอังกฤษ ที่ใครจะเชื่อว่ามันอยู่ในซีรีย์มาตั้งแต่ภาคแรก แต่มาโด่งดังตอนภาค ซีโร่ ด้วยอาวุธหลักที่เป็นโซ่บวกกับท่าไม่ตายที่รุนแรง ทำให้มันติดมาเป็นตัวละครในภาค 5 อีกรอบ

street-fighter-1152x648

4 แคมมี่ สายลับสาวจาก อังกฤษเช่นกัน ที่เป็นหนึ่งในตัวละครสาวที่มีคนนิยมมากที่สุดไม่แพ้ชุนลี โดยเธอปรากฏตัว ครั้งแรกใน ซูเปอร์ สตรีท ไฟท์เตอร์ 2 ด้วยท่าไม้ตายที่เน้นความรวดเร็วและพุ่งชนจึงเป็นตัวที่ประมาทไม่ได้

street-fighter b

5 เอ็ม ไบสิน บอสใหญ่ที่โผล่ในภาค 2 ที่เป็นตำนานเพราะมีทั้งความรวดเร็วและยังอัดแรงอีก แต่ยังแถมดรมม่าเล็กๆที่ในเวอร์ชั่นญี่ปุ่นใช้ชื่อ เวกก้า แต่อเมริกา ใช้ เอ็ม ไบสัน เพราะกลัวเรื่องการฟ้องร้อง เพราะนักมวยในเกมที่ใช้ชื่อไบสัน มีความคล้ายกับ ไมค์ ไททัน จึงต้องสลับชื่อเพื่อเลี่ยง

street-fighter-5-charlie-nash

6 Nash ทหารหนุ่มเพื่อนของ Guile ที่ถูก ไบสัน ฆ่าตายจนเกิดการล้างแค้นในภาค 2 โดยเขาเป็นตัวละครเล่นได้ในภาค ซีโร่ ด้วยท่าไม้ตายที่คล้ายกับ Guile มาก ส่วนในภาคนี้เขากลับมาในร่างครึ่งคนครึ่งสัตว์ประหลาดแนวเดียวกับ แฟรงเกนสไตน์

street-fighter ch

7 ชุนลี ตำรวจสาวชาวจีนที่ออกล้างแค้นให้กับพ่อ ที่เป็นหนึ่งในตำนานของภาค 2 และเป็นหนึ่งในตัวละครหลักแทบทุกภาค ส่วนใจภาค 5 ถือว่าแบบแนวริว คือเน้นความคลาสสิกที่รูปร่างหน้าตาและท่าไม้ตายเหมือนเดิม แต่เพิ่มความเร็วและดุดันมากขึ้น แต่ยังคงลีลาที่สวยงามของมวยจีน

ที่มา : IGN