บริษัท เอซุสเทค (คอมพิวเตอร์) ประเทศไทย จำกัด เปิดรอบพรีวิวให้นักข่าวสายไอทีได้เข้าไปร่วมทดสอบประสิทธิภาพของมือถือรุ่นกลางอย่าง ZenFone 3 MAX ทั้ง 2 รุ่นคือ 5.2 และ 5.5 ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนั้นเจ๋งสุด ๆ ในด้านของประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ที่อัดมาให้แบบจุใจ พร้อมความสามารถอย่าง Finger Scan Touch และระบบช่วยเหลือต่าง ๆ มากมายที่จะทำให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดทั้งในด้าน Entertainment และในด้าน Business

ซึ่ง ZenFone 3 Max Series นี้ได้ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าคนไทยที่เน้นการใช้ชีวิตนอกบ้านเป็นส่วนใหญ่หรือกลุ่มคนที่รักการถ่ายรูปหรือชอบท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ รวมไปถึงเหล่านักข่าวที่เริ่มหันมาใช้งาน Smartphone ในการทำงานมากขึ้นกว่าเดิมทั้งการอัดเสียง ถ่ายวิดีโอหรือแม้แต่การใช้อ่าน Script ซึ่ง Zenfone 3 Max ก็สามารถตอบโจทย์ได้อย่างเต็มที่ในด้านการใช้งานได้ตลอดทั้งวันโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาแบตฯ เสริม และไม่พลาดโอกาสหรือช็อตสำคัญ ๆ ต่าง ๆ ด้วย Feature การถ่ายภาพ Low Light ที่ทำให้ภาพออกมาชัดเจนยิ่งกว่าเดิม รวมไปถึงเทคโนโลยี Tritech Autofocus ที่ใช้การโฟกัสด้วยเลเซอร์ Phase Detection และ Autofocus แบบต่อเนื่อง ส่งผลให้ใช้ความเร็วในการ Focus เพียง 0.03 วินาทีเท่านั้น

ด้านแบตเตอรี่ที่เป็นจุดเด่นของ ZenFone 3 Max นี้มีการทดสอบด้านการใช้งานแล้วว่า แบตเตอรี่ 4100mAh สามารถอยู่ได้นานถึง 38 วันในโหมด Standby สามารถพูดคุยต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 17 ชั่วโมงผ่าน 3G และใช้งานเล่นเว็บ / เล่นเกมได้นานถึง 19 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับเกมที่เล่น) และฟังเพลงต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 72 ชั่วโมง (3 วัน) เลยทีเดียว และที่สำคัญ สามารถนำมือถือเครื่องนี้ไปชาร์จให้มือถือเครื่องอื่น ๆ ได้อีกต่างหาก

ไม่ต้องพก Power bank แล้ว

และทาง Asus ก็ยังได้ออกแบบแอปต่าง ๆ มาเพื่อรองรับการใช้งานสำหรับหลาย ๆ คนไม่ว่าจะเป็น Theme Mode ที่จะให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนธีมมือถือได้ดั่งใจ เพิ่ม/ลด/เปลี่ยน Font เครื่องได้อย่างอิสระเต็มที่ หรือ Kid Mode ที่จะ lock ให้สามารถเข้าได้เฉพาะแอปที่เราตั้งค่าไว้เท่านั้น และมือถือนั้นจะไม่มีการ lock เครื่องเมื่อกด Password ติด ๆ กันผิดหลาย ๆ รอบอีกด้วย รวมไปถึงแอปอย่าง ASUS Service เพื่อให้ลูกค้าสามารถสอบถามรายละเอียดข้อสงสัยและการบริการผ่านแอปนี้ได้อีกด้วย

สรุปสเปคของทั้ง 2 รุ่นดังนี้

ZenFone 3 Max 5.2

  • กระจก 2.5D Arc Glass ตัวเครื่องแบบโลหะโดยใช้สถาปัตยกรรม Zen
  • หน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด HD 720P
  • แบตเตอรี่ 4130mAh
  • กล้องหน้า 5 ล้าน กล้องหลัง 13 ล้าน f/2.2
  • ตัวกล้องมีระบบ PixelMaster Camera Modes สามารถถ่าย Super Resolution Mode 52 ล้านพิกเซลได้ มาพร้อม Advanced backlight HDR/ Panorama Selfie / Beautification Mode / Manual Mode / Low Light Mode
  • CPU MTK 6737 Quad 1.25Ghz
  • Ram 2GB Rom 16GB ใส่เมมได้แบบ Hybrid Slot
  • ระบบ Dual Sim รองรับ 2G/3G/4G
  • OS Android 6.0 with ZenUI 3.0
  • ระบบ Finger Print Scan
  • มี 4 สีคือ สีดำ, สีเงิน, สีทอง, สีชมพู
  • ราคา 5,990 บาท

ZenFone 3 Max 5.5

  • กระจก 2.5D Arc Glass ตัวเครื่องแบบโลหะโดยใช้สถาปัตยกรรม Zen
  • หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด FullHD 1080P
  • แบตเตอรี่ 4100mAh
  • กล้องหน้า 8 ล้าน f/2.2 กล้องหลัง 16 ล้าน f/2.0
  • ตัวกล้องมีระบบ PixelMaster Camera Modes สามารถถ่าย Super Resolution Mode 64 ล้านพิกเซลได้ มาพร้อม Advanced backlight HDR/ Panorama Selfie / Beautification Mode / Manual Mode / Low Light Mode
  • CPU Qualcomm Snapdragon 430 Octa-core 64 bit
  • Ram 3GB Rom 32GB ใส่เมมได้แบบ Hybrid Slot
  • ระบบ Dual Sim รองรับ 2G/3G/4G
  • OS Android 6.0 with ZenUI 3.0
  • ระบบ Finger Print Scan
  • มี 4 สีคือ สีดำ, สีเงิน, สีทอง, สีชมพู
  • ราคา 7,990 บาท

ใครกำลังหามือถือระดับกลาง – ระดับล่างก็ลองหาซื้อมาใช้งานกันได้กับ ZenFone 3 Max ตัวนี้เลยจ้า วางขายแล้วตามร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศไทยครับ