ปัจจุบันเทรนด์เรื่องพลังงานไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เราสามารถพบเห็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือ EV ได้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงจุดชาร์จตามบ้านหรือห้างสรรพสินค้าเป็นเรื่องปกติ เรียกได้ว่าทุกวันนี้ค่อนข้างที่จะครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้มีความมั่นใจในการเดินทางมากขึ้น

‘SHARGE’ หรือบริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้นำด้านการสร้าง EV Charging Ecosystem เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน เปิดโรดแมป 5 ปี ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ ‘NIGHT,DAY, ON-THE-GO’ จับมือภาคอสังหาริมทรัพย์ ค่ายรถยนต์ ศูนย์การค้าและธุรกิจพลังงาน สร้าง Ecosystem ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทั้งกลุ่มชาร์จตามบ้าน (NIGHT) – ชาร์จที่จุดหมายปลายทาง (DAY) – ชาร์จตามสถานี (ON-THE-GO)

นายพีระภัทร ศิริจันทโรภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด

นายพีระภัทร ศิริจันทโรภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า “ภายใน 5 ปีการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งมาจากปัจจัยที่เป็นเทรนด์ของโลกและความกังวลเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัจจัยสำคัญที่จะสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากรถยนสันดาปมาสู่รถ EV คือการมีสาธารณูปโภคพื้นฐานรองรับเพียงพอต่อการใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าถึงหัวชาร์จได้อย่างทั่วถึง”

‘SHARGE’ จึงเข้ามาเป็นผู้ให้บริการด้านการชาร์จรถ EV อย่างครบวงจร ทั้งในรูปแบบของการจำหน่ายอุปกรณ์ชาร์จสำหรับติดตั้งตามที่อยู่อาศัยและห้างสรรพสินค้า ไปจนถึงการพัฒนาสถานีชาร์จ (EV Charging Station) ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าหมายว่าจะติดตั้งเครื่องชาร์จให้ได้ 16,000 เครื่อง และสร้างยอดขาย 3,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี ผ่านกลยุทธ์ ‘LIFESTYLE CHARGING ECOSYSTEM: NIGHT, DAY, ON-THE-GO’ 

NIGHT, DAY, ON-THE-GO ประกอบไปด้วย กลุ่มผู้ใช้บริการชาร์จที่บ้าน (Night) คิดเป็นสัดส่วน 80% ของผู้ใช้รถ EV ทั้งหมด, กลุ่มใช้บริการชาร์จที่จุดหมายปลายทาง (Day) เช่น ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษาและสำนักงาน มีสัดส่วน 15% และกลุ่มผู้ใช้บริการชาร์จตามสถานีชาร์จหรือปั้มน้ำมันระหว่างการเดินทาง คิดเป็น 5% ของจำนวนผู้บริโภคทั้งหมด ซึ่งในส่วนนี้ ‘SHARGE’ มุ่งหวังจะพัฒนามากขึ้นในปี 2021 

เครดิตรูปภาพจาก SHARGE

นอกจากนี้ผู้ใช้บริการยังสามารถใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน ‘SHARGE’ เพื่อความสะดวกแก่ผู้ใช้รถ EV ในการค้นหาและจองสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้า ไปจนถึงจ่ายค่าไฟฟ้าผ่านแอปพลิเคชันได้ด้วย จะเห็นได้ว่าทางเลือกของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในยุคนี้มีค่อนข้างมาก และตอบโจทย์การใช้งานทั้งในด้านความสะดวก ความพร้อม ตลอดจนความปลอดภัยมากขึ้นกว่าแต่ก่อน 

“การเตรียมการด้านโครงสร้างพื้นฐาน (Ecosystem) เพื่อส่งเสริมการใช้รถ EV เป็นสิ่งสำคัญและเร่งด่วนที่ภาครัฐและเอกชนจำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาคในอนาคตอันใกล้” นายพีระภัทร กล่าวปิดท้าย

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส