Apple กำลังเผชิญกับการปรับเปลี่ยนบุคลากรครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ มีทั้งผู้บริหารระดับสูงและวิศวกรคนสำคัญทยอยลาออก โดยการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีผลมาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างครั้งใหญ่ของบริษัท หลังจากที่มีรายงานว่า ‘ทิม คุก’ (Tim Cook) จะลงจากตำแหน่ง CEO ในต้นปีหน้าตามอายุเกษียณ

ข่าวลือนี้ถูกพูดถึงและนำเสนออย่างเป็นวงกว้างเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แม้ว่าจะยังไม่ได้ออกจากตำแหน่งในตอนนี้ แต่ก็คาดว่าจะส่งผลต่อการตัดสินใจในการอยู่ต่อของพนักงานหลายคน 

ไม่ใช่เพียงแค่การตัดสินใจลาออกหลังจากการปรับเปลี่ยนโครงสร้างในเชิงการบริหารเท่านั้น แต่ยังมีพนักงานตัวท็อปที่ถือเป็นมือซ้ายมือขวาคนสำคัญของคุกที่เตรียมลงจากตำแหน่ง เนื่องจากถึงเวลาเกษียณ ทำให้ Apple โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง เรียกได้ว่าประสบปัญหาทุกด้าน ตั้งแต่บุคลากรลามไปยังการดำเนินงานต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องอาศัยบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและทักษะเฉพาะ ทั้งยังมีการแย่งชิงตัวบุคลากรของบริษัทคู่แข่ง ซึ่งเป็นตลาดที่เดือดที่สุดในช่วงนี้

ทั้งหมดนี้รวมกันเป็นช่วงเวลาที่วุ่นวายที่สุดช่วงหนึ่งในวาระการดำรงตำแหน่งของคุก แม้ว่าตัวซีอีโอเองไม่น่าจะลาออกในทันที แต่บริษัทจะต้องสร้างบุคลากรขึ้นใหม่และหาวิธีที่จะประสบความสำเร็จในยุค AI

โดยพนักงานคนสำคัญที่ได้ชื่อว่าเป็นมันสมองของ Apple ที่ได้ทยอยเกษียณและลาออก ซึ่งถือว่าเป็นการปรับโครงสร้างภายในครั้งใหญ่ มีดังนี้

จอห์นนี ซรูจิ (Johny Srouji) รองประธานอาวุโสฝ่ายเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ หนึ่งในผู้บริหารที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดของ Apple เขาคือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของชิปที่ Apple พัฒนาขึ้นเอง เพิ่งแจ้งกับคุกว่าเขากำลังพิจารณาอย่างจริงจังที่จะลาออกเร็ว ๆ นี้ และได้แจ้งกับเพื่อนร่วมงานว่า เขามีความตั้งใจจะไปร่วมงานกับบริษัทอื่นหากเขาตัดสินใจลาออกในที่สุด ข้อมูลโดย Bloomberg จากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2025

อลัน ดาย (Alan Dye) รองประธานฝ่าย Human Interface Design และ Chief Design Officer ของ Apple กำลังจะออกจากบริษัทหลังทำงานมาเกือบ 20 ปี ซึ่งดายถือเป็นบุคคลสำคัญที่ดูแลภาพลักษณ์และภาษาการออกแบบ (Design Language) ของผลิตภัณฑ์ Apple มาตั้งแต่ปี 2019 ผลงานที่โดดเด่นของเขาคือการออกแบบ iOS 26 โดยเขาจะเริ่มงานใหม่ที่ Meta ในวันที่ 31 ธันวาคม 2025

จอห์น จิอันนานเดรีย (John Giannandrea) หัวหน้าฝ่าย AI ของ Apple เกษียณก่อนกำหนดเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าเป็นการสังเวยให้กับการสะดุดหลายครั้งในด้าน Generative AI แพลตฟอร์ม Apple Intelligence ของบริษัท ที่ต้องประสบกับความล่าช้าและคุณสมบัติที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ส่วนด้านการปรับปรุงครั้งใหญ่ของ Siri ผู้ช่วยสั่งงานด้วยเสียงที่ได้รับการกล่าวขานว่าดีเยี่ยม ก็ล่าช้าไปประมาณหนึ่งปีครึ่ง

นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์ยังต้องพึ่งพาความร่วมมือกับ Google ของ Alphabet Inc. อย่างหนักเพื่อเติมเต็มช่องว่างด้านความสามารถของตน โดยล่าสุดได้ดึง อะมาร์ สุบรามันยา (Amar Subramanya) ผู้บริหารระดับสูงจาก Microsoft ซึ่งเป็นอดีตลูกหม้อ Google และมีผลงานการคุมงานวิศวกรรมของ Gemini Assistant ที่เป็นที่ประจักษ์เข้ามารับไม้ต่อ

เจฟฟ์ วิลเลียมส์ (Jeff Williams) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) ของ Apple ในยุคสมัยของทิม คุก ซึ่งก่อนหน้านี้เขาถูกเก็งมาตลอดว่ามีโอกาสเป็น CEO คนถัดไปเนื่องจากคุก ก็เป็น COO มาก่อน

แต่แล้ววิลเลียมส์ก็ได้ประกาศเกษียณเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน 2025 หลังจากทำงานมา 25 ปี พร้อมส่งต่อตำแหน่ง COO ให้ ซาบิห์ ข่าน (Sabih Khan) โดยตัวเขายังคงรับผิดชอบงาน Apple บางส่วนต่อ ซึ่งรวมทั้งงานออกแบบผลิตภัณฑ์ Apple Watch และฟีเจอร์สุขภาพด้วย

แคทเธอรีน อดัมส์ (Katherine Adams) ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาทั่วไปและรองประธานอาวุโสฝ่ายกฎหมายและความปลอดภัยทั่วโลกของ Apple รายงานตรงต่อทิม คุก จะเกษียณในช่วงปลายปี 2026 ผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งต่อจากเธอคือ เจนนิเฟอร์ นิวสเตด (Jennifer Newstead) ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย (Chief Legal Officer) ของ Meta มาก่อน และจะเข้าร่วมกับ Apple ในเดือนมกราคม 2026 โดยจะเข้ารับตำแหน่งที่ปรึกษาทั่วไปของ Apple อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มีนาคม 2026

การโยกย้ายไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่และเกิดขึ้นได้เสมอ ยิ่งในยุคที่โลกของเทคโนโลยีกำลังแข่งขันกันทุกวัน บุคลากรด้าน AI ก็กำลังหลั่งไหลไปยังบริษัทคู่แข่งทางเทคโนโลยี โดยมี Meta Platforms Inc., OpenAI และสตาร์ตอัปหลายแห่งเข้ามาดึงตัววิศวกรของ Apple ไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งเรื่องนี้คุกคามความพยายามของบริษัทในการไล่ตามทัน AI ซึ่งเป็นด้านที่ Apple ยังคงประสบปัญหาในการสร้างผลงานที่โดดเด่น

แม้ว่าคุกจะยืนยันว่า Apple กำลังทำงานเกี่ยวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งคาดว่าจะรวมถึง iPhone และ iPad แบบพับได้, แว่นตาอัจฉริยะ และหุ่นยนต์ แต่ Apple ก็ไม่ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ประสบความสำเร็จในหมวดหมู่ใหม่มาเป็นเวลาถึงทศวรรษแล้ว สิ่งนี้ทำให้ Apple เสี่ยงต่อการถูกคู่แข่งที่เร็วและมีความพร้อมมากกว่าในการพัฒนาอุปกรณ์ยุคถัดไปที่เน้น AI เข้ามาดึงตัวพนักงานไป

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การเกษียณของคุกนั้น ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แม้จะมีรายงานจากสื่อบางสำนักว่าตัวเขากำลังเตรียมเกษียณอย่างเป็นทางการ และอาจประกาศก่อนงาน WWDC ในปี 2026 ในขณะที่บางสื่อกลับรายงานว่ายังไม่มีสัญญาณภายในที่ระบุว่าคุกจะออกจากตำแหน่งในช่วงเดือนนั้น แต่ภายหลังการลงจากตำแหน่งของคุก ก็ถูกคาดการณ์ว่ายุคที่ CEO โดดเด่นกำลังจะหมดไป ในอนาคต Apple น่าจะปรับการบริหารเป็นแบบรวมศูนย์ต่างจากยุคก่อน ๆ ที่จะยึดความสามารถที่โดดเด่นของ CEO ในการเป็นแม่ทัพนำองค์กรเป็นหลัก