เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว! OPPO Reno5 Pro 5G กับสโลแกน Picture Life Together ที่ชูความเป็นสมาร์ตโฟน 5G ที่ถ่าย Video Portrait สวยที่สุด ผ่านทาง Facebook OPPOThai เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

หน้าจอและการดีไซน์

มาเริ่มกันที่ความพรีเมี่ยม สวยงามสะดุดตาของสมาร์ตโฟนเจ้าเครื่องนี้ โดยเฉพาะน้ำหนักที่มาเพียง 173 กรัมเท่านั้น และขนาดที่บางเพียงแค่ 7.6 มิลลิเมตรเท่านั้น ความเบานี้ทำให้เรารู้สึกถือไม่เมื่อยมือ ถือได้นาน ถ่ายรูปสบาย ซึ่งตอบโจทย์สมาร์ตโฟน 5G ในยุค 2020 เป็นอย่างยิ่ง

ในส่วนของการดีไซน์หน้าจอที่มาพร้อมหน้าจอไร้ขอบ 3D Borderless Sense Screen Super AMOLED ยิ่งให้ความรู้สึกบาง และพรีเมียมมาก ๆ และขนาดหน้าจอ 6.5 นิ้ว พร้อมกับความลื่นไหลระดับ 90Hz Refresh Rate เรียกได้ว่าเล่นเกมได้อย่างสบายบรื๋อ

เรื่องของสีสัน OPPO Reno5 Pro 5G เปิดตัวรูปแบบสีที่มีความเป็นศิลปะชิ้นเอก ได้แก่สี Starry Black และสี Galactic Silver และด้วยความพิเศษของ Galactic Silver ฝาหลังของมันจะสามารถสะท้อนสีได้มากถึง 1,000 สี เป็นเทคนิคของการดีไซน์ที่ชื่อว่า Diamond Spectrum Process

กล้อง

เรื่องกล้องขึ้นชื่อว่าถ่ายสวยมากๆ ผลจากความพยายามพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจำนวนกล้องหลังให้มาถึง 4 ตัว ประกอบด้วย

  • กล้องหลัก ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล
  • กล้อง Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
  • กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
  • กล้อง Mono ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล

ส่วนกล้องหน้าก็ไม่ธรรมดาให้ความละเอียดมาถึง 32 ล้านพิกเซล เซลฟีอย่างไงก็ดูดี

นอกจากเลนส์ระดับคุณภาพแล้วเนี่ย ยังมีการถ่ายวีดีโอสวย ๆ ไม่ว่าจะถ่ายคลิป ถ่าย Vlog ทุกอย่างง่ายน่าทึ่งมาก ๆ โดยใช้การประมวนผล AI Highlight Video ถือว่าเป็นฟีเจอร์แรกในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนที่ใช้ Algorithm AI ช่วยตรวจวัดปรับแสงอัตโนมัติ ในทุก ๆ สถานการณ์

โหมดที่ 1 Ultra Night Video ฟีเจอร์นี้จะเปิดใช้งานเพื่อช่วยปรับคุณภาพแสงของวีดีโอ ซึ่งจะทำให้มีความสว่าง คมชัดเป็นธรรมชาติ แม้ถ่ายในเวลากลางคืน เรียกได้ว่าปราบเซียนสุด ๆ

Live HDR

และอีก 1 โหมด การถ่ายย้อนแสงที่เรียกว่า Live HDR การปรับแสงจากการถ่ายย้อนแสงนั้นจะทำให้ตัวแบบและฉากหลังสมดุล สีสันสวยอย่างธรรมชาติ นอกจากนี้ตัว AI ยังปรับให้ตัวบุคคลดูเด่นขึ้นมาอีกด้วย

Dual-view Video

อีกหนึ่งโหมดสำคัญนั้นคือ Dual-view Video จะช่วยให้ถ่ายวิดีโอจากกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อม ๆ กัน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับมุมมองให้เห็นเราด้วยและมุมมองที่เรากำลังมองอยู่ด้วย เพื่อช่วยในการถ่ายเก็บโมเมนต์สำคัญ ๆ ในการถ่ายวิดีโอ

เข้าสู่เรื่อง AI Color Portrait ฟีเจอร์นี้จะเป็นการเปลี่ยนฉากหลังให้เป็นขาวดำ คงเฉพาะซึ่งนางแบบหรือตัวบุคคลที่กำลังเป็นแบบถ่ายทำอยู่

Monochrome Video

มากไปกว่านั้นยังมีโหมด Monochrome Video โหมดนี้จะเป็นการเลือกไฮไลน์ดูดสี แดง, เขียว, และ น้ำเงิน

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ OPPO Reno5 Pro 5G สามารถถ่ายภาพจากกล้องหลังความละเอียดคมชัดสูงสุดถึง 108 ล้านพิกเซล ความคมชัดนี้จะอยู่ในระดับ Retina Level ภาพจะมีความคมชัดละเอียดมากแม้นำภาพมา Crop ก็ยังมีความละเอียดมากอยู่ดี

Night Flare Portrait

ฟีเจอร์ Night Flare Portrait จะช่วยละลายพื้นหลังในตอนกลางคืนจะสวยโดดเด่น

AI Scene Enhancement

นอกจากนี้ยังมีตัว AI Scene Enhancement ด้วยที่ทำให้สีของภาพถ่ายมีความสวยคมชัดสมดุลมาก ๆ

Image-clear Engine

โหมดสุดท้าย Image-clear Engine ช่วยให้ภาพถ่ายขณะวัตถุเคลื่อนไหว แบบช็อตต่อช็อต ทำให้ภาพคมชัดและไม่เบลอ

Soloop

พร้อมเปิดตัวแอป Soloop ที่จะช่วยคุณตัดต่อวิดีโอได้ง่ายขึ้นและเป็นมืออาชีพ

สเปก

OPPO Reno5 Pro 5G ถือว่าเป็นตัวท็อปสุดของซีรีส์ Reno5 5G เลยก็ว่าได้ เฉพาะนั้นจึงใช้ชิปตัวท็อปอย่าง MediaTek Dimensity 1000+ ที่ถือว่าเป็น 5G รุ่นเรือธงที่ผสาน SOC บนชิปขนาด 7nm เรียกได้ว่าเป็นชิปที่ให้ประสิทธิภาพสูงแต่ใช้พลังงานน้อยมาก รวมถึงรองรับทั้ง 5G และ Wi-Fi ในเวลาเดียวกันเพื่อเติมเต็มในการดาวน์โหลดให้มากขึ้นกว่าเดิม

รวมไปถึงเทคโนโลยีการชาร์จไว 65W SuperVOOC 2.0 เพียงการชาร์จ 5 นาที สามารถยืดเวลาการดูวิดีโอ 4K ได้อีก 4 ชั่วโมง หรือเพียงใช้เวลาแค่ 30 นาที แบตเต็ม 100% และเป็นสมาร์ตโฟนที่ชาร์จไวสุด ๆ พร้อมขนาดความจุแบตเตอรี่ขนาด 4350 mAh

นอกจากนี้ก็ยังจัดเต็มเรื่องของความจุที่ให้ RAM 12GB และ ROM 256GB พร้อมให้ประสบการณ์ลื่นไหลทุกการใช้งาน

เรื่องของระบบปฏิบัติการ ColorOS 11.1 ซึ่งก็รักษาคุณสมบัติ Android 11 ได้เป็นอย่างดีด้วย ซึ่งช่วยในประสิทธิภาพมากขึ้นและมีอิสระในการออกแบบ ปรับแต่งความเป็นตัวคุณให้ไม่ซ้ำใคร และยังเสริมความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวอีกด้วย

ราคา

OPPO Reno5 Pro 5G เปิดตัวด้วยราคา 19,990.- พร้อมรับฟรีบัตร E-VIP ประกันหน้าจอแตกนาน 1 ปีมูลค่า 9,000 บาท และหูฟัง OPPO Enco Free มูลค่า 3,999 บาท รวมมูลค่ากว่า 12,999.- เริ่มจําหน่ายตั้งแต่วันที่ 12 – 21 กุมภาพันธ์ 2020 ที่แบรนด์ชอปทั่วประเทศและตัวแทนจําหน่ายที่ร่วมรายการ หรือซื้อร่วมกับแพ็กเกจจะได้รับส่วนลดสูงสุด 8,000.-

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส