ตารางงานที่วุ่นวาย รายการสิ่งที่ต้องทำที่ยาวเหยียด หรือแม้กระทั่งการวิ่งวุ่นจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งอาจทำให้คุณมีความสุขจากความรู้สึกเหมือนเป็นคนสำคัญ ที่เป็นที่ต้องการตัว และมีอะไรต้องทำอยู่ตลอดเวลา แต่มันดีแล้วจริงๆหรือที่เป็นแบบนี้?

บางครั้งความวุ่นวายและตารางงานที่ยุ่งยาก ก่อให้เกิดความเครียดสะสม และ ความกังวล โดยที่เราไม่รู้ตัว คุณอาจคิดว่าการวิ่งวุ่นของคุณนั้นทำให้คุณเป็นคนสำคัญบางครั้งมันอาจเป็นความจริง แต่สิ่งที่เป็นความจริงยิ่งกว่าคือผลกระทบที่เกิดกับร่างกายของคุณโดยตรงต่างหาก คุณอาจบอกว่าแต่ฉันก็ดูแลตัวเอง กินอาหารที่มีประโยชน์ และ ออกกำลังกายเป็นประจำนะ เราไม่เถียงว่านั่นเป็นสิ่งที่ดี และควรทำ แต่เรามีอีกหนึ่งวิธีที่สามารถลดภาระให้ร่างกายของคุณได้โดยการ ‘ไม่ต้องทำอะไรเลย’ หรือที่ชาวดัตช์เรียกว่า ‘Niksen’

ฟังเหมือนเป็นเรื่องง่ายนะกับการที่ไม่ต้องทำอะไรเลยแต่เอาจริงๆ มันยากกว่าที่คิด เพราะเรามีอะไรที่ต้องทำอยู่ตลอดแม้แต่ตอนนอนก็ตาม Doreen Dodgen-Magee นักจิตวิทยาที่ศึกษาเกี่ยวกับความเบื่อหน่าย กล่าวว่าสภาวะการไม่ทำอะไรเลยหรือ ‘Niksen’ เปรียบเสมือนการสตาร์ทรถทิ้งไว้แต่ไม่ขับไปไหน เป็นการอยู่เฉยๆแบบไม่ต้องทำอะไรเลยทั้งนั้น หลายๆคนรู้จัก Niksen ในชื่อของความขี้เกียจ แต่คุณรู้ไหมความขี้เกียจนี้จำเป็นต่อการดำรงค์ชีวิตของมนุษย์มากทีเดียว

ด้วยวัฒนธรรมของเราที่ถูกสอนกันมาว่าความขี้เกียจนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดี การทำตัวให้มีอะไรทำหรือวุ่นวายตลอดเวลาเป็นสิ่งที่มีค่ามากกว่า เป็นคำสอนที่ทำให้เราต้องกดดัน และถูกกระตุ้นด้วยความเครียดให้ออกไปหาอะไรทำตลอดเวลา และยิ่งเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้นทำให้เราไม่สามารถปล่อยวางภาระต่างๆ และโอบกอดความสุขของความสงบได้จริงๆ เสียที

แต่ในความเป็นจริงแล้วความขี้เกียจ หรือการนั่งเฉยๆ นั้นให้ประโยชน์มากกว่าที่เราคิด การนั่งปล่อยใจว่างๆโดยไม่ต้องคิดถึงภาระต่างๆ จะช่วยเสริมสร้างจินตนาการ และ ช่วยให้คุณรู้จักตัวเองมากขึ้น ที่สำคัญมันเหมือนการพักสมองและนั่นจะทำให้คุณมีทักษะการแก้ปัญหาได้ดีขึ้นอีกด้วย ถึงแม้การนั่งเฉยๆ ปล่อยใจว่างๆ อาจยากสำหรับคุณในตอบแรกๆ แต่เชื่อเถอะว่าหากคุณได้ลองทำตัวขี้เกียจบ้างในบางครั้ง (เน้นว่าบางครั้ง) มันอาจทำให้คุณพบกับความสุข และความสงบของจิตใจภายให้สังคมที่กดดันได้ไม่ยากเลยทีเดียว

อ้างอิง