ทีมงาน beartai ได้รับเชิญจากทาง GWM ให้ทดลองขับ All New Haval H6 PHEV รถปลั๊กอินไฮบริดที่ชาร์จไฟวิ่งได้ไกลเกือบ 201 km (ตามมาตรฐาน NEDC ) อย่างที่เราคุ้นเคยมันคือรุ่นที่ต่อยอดจาก HAVAL H6 HEV เพียงแต่เพิ่มแบตเตอรี่ลิเธียมที่ใหญ่ขึ้นและเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้ ในด้านดีไซน์สิ่งที่แตกต่างจากรุ่นเดิมคือกระจังหน้าเป็นแบบ Star Matrix เป็นรถเอสยูวีเอนกประสงค์ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยที่เราได้วิ่งทดสอบจากเส้นทาง บางนา กรุงเทพฯ – บางแสน ชลบุรี ระยะทางเกือบ 200 กิโลเมครเพื่อทดสอบสมรรถนะโดยรวม อากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนช่างเป็นใจเสียจริง ๆ และจะเป็นยังไงไปดูกัน

ด้านขุมพลังสมรรถนะ

  • All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Turbo ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวมสูงสุด 326 แรงม้า ให้แรงบิดรวมสูงสุด 530 นิวตันเมตร ระบบเกียร์แบบ DHT ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด
  • All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV สามารถเลือกระบบการขับขี่ได้ 2 ระบบ คือ ระบบไฮบริด และระบบไฟฟ้า แต่ละระบบมาพร้อมโหมดการขับขี่ 4 แบบ ได้แก่ โหมดมาตรฐาน โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด และโหมดสภาพถนนลื่น

ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัย

All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV มาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยได้แก่

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC) มาพร้อมกล้องติดรถยนต์ ADAS ช่วยควบคุมในช่วงความเร็วเต็มพิกัดที่กำหนดไว้ รวมถึงการหยุดและรีสตาร์ตกลับไปยังความเร็วที่ตั้งไว้ก่อนหน้า เมื่อระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ทำงาน กล้องจะทำการตรวจสอบความโค้งของถนน และความเร็วจะถูกปรับอัตโนมัติหากจำเป็นต้องลดความเร็วในขณะเข้าโค้งเพื่อความปลอดภัย และเมื่อผ่านโค้งไปแล้ว รถจะกลับเข้าสู่ความเร็วเดิมที่ตั้งไว้
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA) เป็นระบบควบคุมความเร็ว ที่ช่วยควบคุมรถให้ติดตามรถด้านหน้าหรือขับต่อไปด้วยความเร็วคงที่เพื่อลดภาระของผู้ขับขี่
  • ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP) ใช้เซนเซอร์และกล้องในการตรวจสอบเพื่อตรวจจับวัตถุและเส้นบริเวณช่องจอดหรือจุดจอดรถ และช่วยทำงานเต็มรูปแบบเพื่อเข้าจอด ทั้งแนวตรง แนวจอดเทียบข้าง และแนวเฉียง โดยเมื่อระบุช่องว่างที่จะนำรถเข้าจอดแล้ว รถจะทำการจอดด้วยตัวเองด้วยการควบคุมพวงมาลัย เบรก และคันเร่ง
  • ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA) ในขณะที่ขับรถต่ำกว่า 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบจะบันทึกเส้นทางและสามารถถอยหลังกลับได้ในระยะ 50 เมตรโดยอัตโนมัติ ในเส้นทางที่ถูกบันทึกไว้
  • กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ประกอบไปด้วยกล้องที่มองได้รอบ 4 ตัว มีความละเอียดคมชัด 4 Megapixel โดยระบบจะรวมเอามุมมองภาพทั้ง 4 กล้องมาสร้างภาพที่มีมุมมอง 360 องศา เพื่อแสดงให้เห็นมุมมองของรถจากมุมบน ระบบทำงานอัตโนมัติเมื่อเข้าสู่โหมดการถอยหลัง โดยสามารถดูได้เมื่อขับรถที่ความเร็ว 15 หรือ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและตอนสตาร์ทรถ
  • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) ช่วยตรวจจับรถยนต์ทั้งทางตรงและทางแยก เมื่อเสี่ยงต่อการชน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนด้วยเสียงและการเบรกอัตโนมัติช่วยหลีกเลี่ยงการชนหรือลดแรงกระแทก
  • ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB) เซนเซอร์ช่วยตรวจสอบจุดอับสายตาด้านหลังของตัวรถทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของช่องทางเดินรถในขณะถอยหลัง เมื่อกำลังถอยหลังออกจากช่องจอด เซนเซอร์หลังของรถจะทำการเช็กด้านซ้ายและขวาของช่องจราจรและ ส่งสัญญาณเตือนด้วยเสียง หากผู้ขับขี่ยังเพิกเฉย ไม่หยุดรถ ระบบเบรกอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉินจะเริ่มทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงการชน
  • ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) โดยระบบจะตรวจสอบรถบรรทุกขนาดใหญ่หรือรถที่มีขนาดยาว​ ในระหว่างการแซง ระบบจะรักษาช่องว่างระหว่างรถตามระยะที่เหมาะสม​เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และกลับสู่เลนเดิมอัตโนมัติ
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยประคองพวงมาลัยให้รถอยู่ในเลน
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยแจ้งเตือนเมื่อรถกำลังออกนอกเลน
  • ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยประคองรถให้อยู่กึ่งกลางเลน
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) โดยหากมีการตรวจสอบพบรถอีกคันกำลังแล่นมา หรือมีรถแซงขึ้นมาจากอีกเลนหนึ่ง ระบบจะทำการแทรกแซงการทำงานมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดการชน
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD) ช่วยตรวจสอบรถในเลนที่ติดกัน
  • ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM) โดยรถจะพยายามรักษาเสถียรภาพเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
  • ระบบช่วยลงทางลาดชัน (HDC) ใช้เบรกเพื่อช่วยควบคุมความเร็วของรถขณะขับบนทางลาดชันเพื่อให้ผู้ขับขี่มีสมาธิในการบังคับพวงมาลัย
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA) เมื่อออกจากจุดที่หยุดนิ่งบนเนินสูงชัน เบรกจะยังคงค้างอยู่ราว 2 วินาที จนกระทั่งคันเร่งทำงานเพื่อป้องกันการถอยหลัง
  • ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW) หลังจากจอดรถยนต์แล้ว ระบบจะแจ้งเตือนหากระบบตรวจพบเป้าหมายที่เสี่ยงต่อการชนหากเปิดประตูรถยนต์
  • ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS) โดยรถจะทำการวัดแรงดันลมยางอย่างต่อเนื่องและเตือนผู้ขับขี่หากมีแรงดันลมยางล้อใดลดลง
  • ระบบช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM) ช่วยประเมินและวิเคราะห์ลักษณะในการขับขี่ หากพบว่ามีลักษณะการขับขี่ที่เหนื่อยล้า หรือหลังจากขับรถด้วยความเร็วเกิน 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มากกว่า 4 ชั่วโมง ระบบจะแจ้งเตือนและแนะนำให้หยุดพัก

การชาร์จไฟ และแบตเตอรี่

แบตเตอรี่ชนิดลิเธียม Ternary ความจุ 34 kWh มีระยะทางวิ่งสูงสุด 201 กิโลเมตรต่อหนึ่งการชาร์จ (อ้างอิงผลการทดสอบระยะทางการขับขี่ด้วยไฟฟ้าตามมาตรฐาน New European Driving Cycle (NEDC Standard)
หัวชาร์จไฟฟ้าแบบ CCS Type 2 combo (Combined Charging System) รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง (DC) และการชาร์จแบบไฟบ้าน (AC)

ระยะเวลาในการชาร์จ

  • การชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (0% – 80%) ประมาณ 35 นาที
  • การชาร์จแบบธรรมดาด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC (0% – 100%) ประมาณ 6 ชั่วโมง
  • ระยะเวลาการชาร์จขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ระดับแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ และกำลังไฟของสถานีชาร์จนั้น ๆ เป็นต้น

สรุปและข้อสังเกต

มันเกิดมาเพื่อสายครอบครัวที่แท้จริง ช่วงล่างถูกเซตมาได้อย่างนุ่มนวลและทำได้ดีกว่ารุ่น HEV ตัวก่อน เพราะด้วยที่ตัวรถบรรจุแบตเตอรี่ที่ขนาดใหญ่ขึ้น ทางด้านทีมวิศวกรก็ได้ปรับเซตจูนค่าช่วงล่างกันใหม่เพื่อรองรับระบบ PHEV แต่มันก็ไม่เหมาะแก่การซิ่งหรือมุดแต่อย่างใด ถึงแม้แรงม้าแรงบิดจะสูงก็ตาม ช่วงที่เปลี่ยนเลนแบบกระทันหันยังมีอาการโยนตัวเหวอ ๆ อยู่บ้าง พวงมาลัยถูกเซตมาน้ำหนักเบา เน้นวิ่งทางตรง ๆ ยาว ๆ ไปเรื่อย ๆ ดีกว่า เรื่องอัตราการเร่งถือว่าเร่งแซงได้แบบไม่เคอะเขิน มันเป็นรถที่เหมาะสำหรับ daily used ที่ใช้ได้ทุกๆวัน ถ้าคุณเป็นขับรถไปทำงานทุกวัน ไป-กลับเฉลี่ยวันละ 150 กิโลเมตรต่อวัน คุณจะไม่ต้องพึ่งน้ำมันเลยหากชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ก่อนออกจากบ้าน ซึ่งมันจะตอบโจทย์มาก ๆ หากใครที่ยังกังวลเรื่องการหาที่ชาร์จไฟ ก็ไม่ต้องกลัวเพราะมันยังสามารถวิ่งแบบไฮบริดได้

หากทีมงาน beartai มีโอกาสได้รีวิวแบบฉบับเต็ม ๆ เราจะกลับมารายงานแบบละเอียดให้อีกครั้งครับ ขอขอบคุณทาง GWM ที่ให้ทดลองขับในครั้งนี้ด้วยนะครับ

ราคาของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV

ซึ่งเกรท วอลล์ มอเตอร์ ประกาศราคารถยนต์ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการภายใต้นโยบาย “ONE PRICE” ซึ่งจะเป็นราคาเดียวกันในทุกช่องทางการจำหน่ายทั่วประเทศ อยู่ที่ 1,699,000 บาท

โดยลูกค้าจากแคมเปญ ULTRA DEAL ในระหว่างวันที่ 17 กันยายน 2565 เวลา 00.00 น. ถึงวันที่ 7 ตุลาคม 2565 เวลา 18.00 น.สามารถชำระเงินจองเพื่อรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป สำหรับลูกค้าที่ต้องการสั่งจองหลังจากช่วงประกาศราคาอย่างเป็นทางการ คือตั้งแต่วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม เวลา 20.00 น.จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2565 ผ่านทาง GWM Application และเว็บไซต์ WWW.GWM.CO.TH

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ขอมอบสิทธิพิเศษกับแคมเปญ PREMIERE DEAL สำหรับลูกค้าและผู้สนใจซื้อในช่วงเปิดตัว ไม่ว่าจะเป็น

  1. ดอกเบี้ยพิเศษ 1.89% นาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25%
  2. ฟรี ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นระยะเวลา 1 ปี มูลค่าสูงสุด 30,000 บาท
  3. ฟรี GWM โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมการติดตั้งในระยะสายไฟยาวไม่เกิน 20 เมตร (จากตู้เมน) จำนวน 1 ครั้ง (ไม่รวมค่าแท่นชาร์จ) มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 60,000 บาท
  4. ฟรี น้ำมันรถยนต์ มูลค่ารวมสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท
  5. ฟรี แพ็คเกจค่าอะไหล่และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง (GWM Pro Service Inclusive – GPSI) สูงสุด 10 ครั้ง ภายในระยะเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร รวมมูลค่า 37,000 บาท
  6. ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) ตลอด 24 ชั่วโมง ฟรี 5 ปี มูลค่า 10,000 บาท
  7. ฟรี สิทธิ์ในการเรียกใช้บริการรับ (Pickup Service) หรือบริการส่งรถยนต์ (Delivery Service) เพื่อเข้ารับบริการบำรุงรักษาตามระยะทาง หรือบริการบำรุงรักษาตามระยะทางนอกสถานที่ (GWM mobile service) จำนวน 2 ครั้ง รวมมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 1,500 บาท
  8. ฟรี กรอบป้ายทะเบียนและพรมปูพื้น GWM มูลค่ารวม 2,050 บาท
  9. ฟรี คะแนน GWM Point เพื่อใช้แลกสินค้าและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ใน GWM Application จำนวน 15,000 คะแนน

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส

เนื้อหาล่าสุด

แจ๋วอีกแล้ว Quentin Tarantino เผยว่ามีแผนที่จะกำกับซีรีส์ 8 ตอนในปี 2023 !

หนึ่งในผู้กำกับที่กำลังเป็นกระแส เควนทิน ทารันทิโน (Quentin Tarantino) เปิดเผยกับสื่อว่าตัวเขามีแผนที่จะกำกับซีรีส์ขนาด 8 ตอนในปีหน้า (2023) โดยที่ยังไม่ได้เปิดเผยอะไรไปมากกว่านี้ ...อ่านต่อ

HONNE – RUEL นำทัพศิลปิน โชว์เต็มอิ่มคุ้มค่าบัตร ในงาน River Fest Music Festival 2022

ปักหมุดสร้างแลนด์มาร์กสุดชิกแห่งใหม่ใจกลางเมืองกาญจน์ไปแล้ว สำหรับงานเทศกาลดนตรีนานาชาติ ‘River Fest Music Festival’ ที่จัดขึ้นเมื่อช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ วันที่ 12-13 ...อ่านต่อ

ไทยคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 หลังเอกชน 3 รายร่วมลงขัน

การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ได้บรรลุข้อตกลงการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 กับฟีฟ่า 0eนวน 64 แมตช์ เรียบร้อยแล้ว ในมูลค่า 33 ล้านเหรียญ

Quentin Tarantino วิจารณ์วงการหนังยุคปัจจุบันว่าเป็น ‘ยุคที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์’

ผู้กำกับ เควนติน ตารันติโน (Quentin Tarantino) วิจารณ์วงการหนังยุคปัจจุบันว่าเป็น 'ยุคที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์'

อย่างเดือด! Elon Musk สั่งปลดพนักงานที่โพสต์วิจารณ์เขาบน Slack

พนักงาน Twitter หลายคนที่โพสต์วิพากษ์วิจารณ์หรือเสียดสี อีลอน มัสก์ ซีอีโอใหม่ ผ่านช่องทาง Slack ภายในของบริษัท ได้ถูกไล่ออกในชั่วข้ามคืน