สถานที่ท่องเที่ยวหลายพื้นที่กำลังประสบกับปัญหานักท่องเที่ยวลดจำนวนลง แม้กระทั่งในสนามบินเองแทบจะเห็นได้ชัดเลยว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาภายในประเทศบางตาลง มันเกิดอะไรขึ้นกับการท่องเที่ยวไทย เรากำลังเข้าสู่ภาวะที่เรียกว่าท่องเที่ยวซบเซาหรือยัง ?
คำถามนี้ไม่มีใครจะให้คำตอบได้ดีไปกว่า คุณกลาง-ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่จะมาเคลียร์ทุกข้อสงสัย และให้ความกระจ่างว่า ท่องเที่ยวไทย จะไปรอดไหม ในวันที่นักท่องเที่ยวซบเซา และปัญหาจีนเทา ทัวร์ 0 เหรียญ ที่หลายคนเป็นกังวล

วิกฤตการณ์นักท่องเที่ยวซบเซา กลุ่มไหนลด จนกระทบระดับมหภาค
ประเด็นแรกที่น่าเป็นห่วงในช่วงนี้ คือการที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาน้อย คนไทยที่เดินทางเข้าออกประเทศช่วงนี้จะสังเกตได้ว่าคนต่างชาติบางตาลง ไม่ได้พลุกพล่านที่สนามบินต่างจากเมื่อก่อน กรณีนี้คุณกลางได้ให้เหตุผลว่า ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน ซึ่งเป็นช่วงตกท้องช้าง ตอนนี้กลุ่มนักท่องเที่ยวยุโรปเริ่มกลับบ้านกลับประเทศไปแล้ว ซึ่งเป็นช่วงเวลาของเขา ถือว่าเป็นปกติ
คุณกลางเสริมเพิ่มว่า กลุ่มที่หายไปจริง ๆ ที่กลายเป็นวิกฤตของเราเลย แล้วต้องดึงกลับมาคือกลุ่มตลาดจีน และกลุ่มคนที่พูดภาษาจีน (Chinese Speaking) สาเหตุที่ 2 กลุ่มนี้ลดลงไปมาก เพราะเวลาที่คนไทยพูดอะไรบางอย่างแล้วกระทบกระเทือนความรู้สึกของคนจีน ทำให้เกิดกึ่ง ๆ โดมิโนที่ทำให้เกิดผลกระทบทำให้คนจีนเดินทางมาประเทศไทยน้อยลง แต่ในฐานความรักระหว่างไทยกับจีน มองว่ามันยังกลับมาได้
‘ทัวร์ 0 เหรียญ’ เป็นการตกใจเกินไปหรือมันเป็นเรื่องจริง
เรื่องนี้ คุณกลางมองว่า ทัวร์ 0 เหรียญ คือการทำ Joint Promotion การตลาดชนิดหนึ่ง (Joint Promotion คือการจัดส่งเสริมการขายแบบแนวร่วมกับสินค้าอื่น) แต่แน่นอนว่าพอพูดว่าทัวร์ 0 เหรียญ กลายเป็นว่าคนมองเป็นภาพลบ และคิดว่าไม่ควรใช้คำนี้ เพราะเมื่อใช้คำว่า ทัวร์ 0 เหรียญ ทุกคนจะเข้าใจว่าเราไม่ได้อะไรเลย แถมยังเป็นการให้คนจีนมาใช้ทรัพยากรแล้วก็เงิน
“ถ้าอยากจะหาตลาดใหม่ก็ต้องลดราคา พอลดราคา เวลาที่ต้องเข้ามาในเมืองไทยเขาก็จะมี ทัวร์เสริม (Option Tour)” โดยที่ทางทัวร์จะคิดราคาที่ Cover กับงบประมาณที่เขาได้กำไรอยู่แล้ว แต่ประเด็นก็คือ การจะขายทัวร์เสริมนี้ควรชัดเจนตั้งแต่ต้นทาง ว่าถ้าคุณมาประเทศไทย แล้วคุณอยากจะไปที่ไหนเรามีทัวร์เสริมให้ รายละเอียดมีอะไรบ้าง ต้องเป็นราคาที่ไม่ได้หลอกใคร แล้วเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง
กรมการท่องเที่ยวจึงได้ออกกฎในเรื่องทัวร์คุณภาพที่มาจากประเทศจีนที่มีราคาถูก เพื่อเป็นการกำหนดว่าเมื่อนักท่องเที่ยวมาที่ไทยแล้วมีเช็กลิสต์ หรือทัวร์เสริมอะไร ซึ่งก่อนหน้าที่จะออกกฎนี้ ก็มีหลายกรณีที่สามารถหลอกนักท่องเที่ยวไปได้
ยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ถ้าปกติขายทัวร์เสริมได้กำไร 5,000 บาท แต่เห็นช่องทางที่จะหลอกนักท่องเที่ยวได้ จาก 5,000 ก็เพิ่มเป็น 50,000 เพราะฉะนั้นตั๋วต้นทางเขาก็ขาย 0 บาทได้เลย เป็นการจูงใจขายราคาถูกเพื่อดึงดูดให้คนมากับทัวร์ก่อน เป็นลักษณะของทัวร์ไฟไหม้
พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ‘Restructure’ เพื่อสร้างนักท่องเที่ยวคุณภาพ
ความคิดเห็นบนโลกโซเชียลของชาวไทยส่วนใหญ่มองว่านักท่องเที่ยวหายไป ส่วนตัวคุณกลางให้เหตุผลเรื่องนี้ว่า ส่วนที่หายไปจริง ๆ คือกลุ่มของ Chinese Speaking ซึ่งเป็นตลาดที่มีนักท่องเที่ยวเกือบ 25%
แต่หลังจากเรามีนโยบายในการที่ต้องดูตลาดทดแทน กระจายความเสี่ยงไปยังตลาดที่เป็น Long Haul (การเดินทางระยะไกล) ที่เป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ ซึ่งกลุ่มนี้เขาจะอยู่ยาว ใช้เงินค่อนข้างเยอะ และมองหาตลาดใหม่กลุ่มที่ GDP โต อย่าง อินเดีย รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย ฯลฯ เพราะฉะนั้นอัตราการเติบโตของกลุ่มตลาดเหล่านี้จะสูงมาก
“ตอนนี้ภาพบรรยากาศที่ทุกคนพูดในเชิงการท่องเที่ยวซบเซา จริง ๆ แล้วมันไม่ได้ซบเซา แต่เป็นเพียงการซบเซาในมิติหนึ่ง เป็นการท่องเที่ยวที่จะวางโครงสร้าง (Restructure) นักท่องเที่ยวคุณภาพใหม่”
คอมเมนต์โลกโซเชียลทำให้คนจีนเที่ยวไทยลดลง ?
ด้วยประเด็นบนโลกโซเชียลที่ทำให้ความสัมพันธ์ของไทย-จีน ในเรื่องการท่องเที่ยวไปทางทิศทางลบ แม้จะเป็นเรื่องของปัจเจก
แต่ด้วยพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่สร้างความเดือดร้อนและผลกระทบให้กับคนในพื้นที่ ก็ทำให้คนไทยหลายคนรู้สึกไม่ต้อนรับการมาเยือนของคนจีน เรื่องนี้ทำให้ทางคุณกลางและ ททท. เอง ได้เชิญตัวแทน 30 มณฑลมาที่ไทย ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการทัวร์ในจีน เพื่อสร้างสัมพันธ์ครั้งใหม่ในทางการท่องเที่ยว
‘ฟรีวีซ่า’ สร้างผลดีหรือผลเสีย หลังพบนักท่องเที่ยวเกเรมากขึ้น
ในโซเชียลมีความกังวลเยอะ ว่าเพราะฟรีวีซ่าเลยเป็นสิ่งที่ทำให้จีนเข้ามาสร้างอิทธิพลและกลายมาเป็นจีนเทา หรือนักท่องเที่ยวที่เข้ามาทำพฤติกรรมแย่ ๆ ไม่เหมาะสม เจตนาไม่ดี เรื่องใหญ่ที่มีให้เห็นในข่าวจนชินตา
เรื่องนี้คุณกลางชี้แจงว่า “การที่คนมาทำเทาหรืออะไรก็แล้วแต่เนี่ย กฎหมายต้องบังคับใช้ได้ ต้องรู้ว่าพวกนี้มาทำความผิดในประเทศไทย ตอนนี้เรามี TDAC (Thailand Digital Arrival Card) ก็คือ ตม. ออนไลน์ เมื่อเรามีข้อมูลของนักท่องเที่ยวเวลาที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา ถึงแม้ว่าเขาจะได้ฟรีวีซ่า 30 วัน หรือ 60 วัน ตม. สามารถที่จะดูได้ ว่าจะให้ช่วงเวลาแค่ไหนกับคนที่มา ถ้าเขามาด้วยวัตถุประสงค์หรือเจตนา พฤติกรรมที่ไม่ดี เราก็ไม่จำเป็นต้องให้อยู่เต็ม อยู่ที่ดุลยพินิจของ ตม. อันนี้ดีมาก” ซึ่งก็ถือเป็นการคัดกรองก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเข้ามาสร้างความเสียหาย
อนาคตของการท่องเที่ยวไทย ทุกคนต้องร่วมด้วยช่วยกัน
ประสบการณ์ทำงานอยู่กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมาเกือบ 3 ทศวรรษ สิ่งที่คุณกลางอยากให้เกิดขึ้นกับอนาคตของการท่องเที่ยวไทย คือทุกคนอยู่ในระบบเดียวกัน ช่วยกันในเรื่องของสินค้าและบริการ ทั้งเรื่องการสื่อสาร รวมไปถึงการสร้างบรรยากาศที่ดีในภาคการท่องเที่ยว
“ทุกคนที่ได้อยู่ใน Ecosystem เดียวกันกับนักท่องเที่ยว ก็คือคนที่จะต้องมารับผิดชอบเรื่องท่องเที่ยวด้วย เราทำทั้งตลาดแมส (Mass Market) ตลาดขนาดเล็ก (Niche Market) และตลาดกลุ่มวัฒนธรรมย่อย (Subculture) เราต้องการรู้พฤติกรรมลึกเข้าไปถึง DNA ว่าเขาชอบอะไรแบบไหน แม้ว่าจะเป็นคนกลุ่มน้อยที่ชอบเรื่องนี้ แต่การชอบเรื่องนี้ของคนกลุ่มน้อย ถ้าเราทำให้เขาถูกใจ มันจะทำให้เขาสะท้อนผ่านออนไลน์ไปในทางที่ดีได้ บริบทหนึ่งที่อาจจะต้องช่วยกันสื่อสาร คือบริบทของการสร้างบรรยากาศที่ดี”
แม้ภาพรวมการท่องเที่ยวไทยจะอยู่ในช่วงชะลอตัว กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนและคนใช้ภาษาจีนจะหายไปมากจากหลายปัจจัย รวมถึงกระแสโซเชียลมีเดีย แต่ขณะเดียวกัน ททท. มองว่านี่คือโอกาสในการปรับโครงสร้าง สร้างนักท่องเที่ยวคุณภาพจากตลาดใหม่ พร้อมคุมเข้มพฤติกรรมผ่านระบบตรวจสอบดิจิทัล เพื่อให้การท่องเที่ยวไทยเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต