หลังจากเพิ่งจัดหนักไปกับคอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 7 ปี “ด้วยรักและแอบดี” เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ 24 กันยายน   ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ที่ซัดยาว 4 ชั่วโมงเต็ม กับเซ็ตบทเพลงที่จัดเต็มมาให้ฟังกันเต็มอิ่มมากกว่า 30 บทเพลง หนุ่ม STAMP ‘แสตมป์ อภิวัชร์​ เอื้อถาวรสุข’ ก็ไม่รอช้ารักษาความฟินของแฟน ๆ ด้วยการปล่อยบทเพลงล่าสุดที่มีชื่อว่า “หลบฟ้า” ออกมาให้ได้ฟังกันแบบฟิน ๆ

“หลบฟ้า” มีชื่อภาษาอังกฤษว่า ‘NEPHOPHOBIA’ ซึ่งคำคำนี้มันมีอยู่จริง ๆ นะหมายถึงอาการกลัวก้อนเมฆบนท้องฟ้า ซึ่งไม่ว่าจะเป็นท้องฟ้าที่เงยหน้าไปเห็นจริง ๆ หรือท้องฟ้าที่ถูกถ่ายภาพมาก็ก่อให้เกิดอาการหวาดกลัวได้ทั้งนั้น  แสตมป์ก็เลยใช้มันมาเปรียบเปรยกับอาการของคนที่กลัวท้องฟ้า เพราะเคยมองฟ้าด้วยกันกับคนที่รัก และสนุกสนานไปกับการทายกันว่าเมฆก้อนนั้นก้อนนี้หน้าตาเหมือนกับอะไร จนวันหนึ่งที่ใครคนนั้นได้ออกไปจากชีวิต ท้องฟ้าที่เคยสดใสก็กลายเป็นสิ่งย้ำเตือนบาดแผลในหัวใจ และไม่ว่าจะพยายามหลบมันเท่าไหร่ ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ก็คลุมครอบเราไว้ไม่อาจหลบหนีไปไหน เฉกเช่นเดียวกันกับความคิดถึงและความทรงจำที่เรามีต่อใครคนนั้นที่อยู่ในความจำ สมองและหัวใจจนไม่อาจหลบหนีไปไหนได้เลย

“ยังไงก็ท้องฟ้า ยังไงก็ท้องฟ้า จะหลบฟ้าได้ยังไง

 มองก็คิดถึง มาก็คิดถึง คนนึงที่เคยเคียงใกล้

 ก็ไม่รู้จะหลบยังไง เพราะว่าฟ้ากว้างใหญ่เกินไป

 เมฆน้อยที่ลอยบนฟ้า ทุกครั้งที่ฉันมองออกไป ก้อนไหนก็มองเป็นเธอ”

ถึงแม้เนื้อหาของเพลงจะแลดูเศร้า แต่ว่าท่วงทำนองของบทเพลงตั้งแต่อินโทรเปิดไล่มาเรื่อย ๆ กลับแฝงประกายของความหวังและความทรงจำที่สวยงาม ทำให้บทเพลงนี้ถึงแม้จะดูเหงา ดูเศร้าอยู่บ้างแต่ก็เป็นความเหงาเศร้าที่เคล้าความคิดถึงอันงดงาม

จริง ๆ แล้วเพลงนี้เคยปล่อยออกมาเมื่อปลายปีที่แล้วโดยใช้ชื่อว่า “NEPHOPHOBIA” โดยเป็นบทเพลงเดียวกันนี้แต่ว่าเป็นเวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นที่มาพร้อม lyric video ให้อารมณ์ฟินไปอีกแบบ โดยเพลงนี้ร่วมฟีเจอริ่งและเรียบเรียงดนตรีโดย THE CHARM PARK ศิลปินญี่ปุ่นที่เป็นลูกครึ่งอเมริกัน-เกาหลี เป็นนักร้องนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์มากฝีมือในโตเกียวซึ่งเริ่มปล่อยผลงานออกมาตั้งแต่ปี 2012

ถึงแม้ THE CHARM PARK จะไม่ได้มีเชื้อสายญี่ปุ่นเลย แต่การเติบโตท่ามกลางวัฒนธรรมญี่ปุ่นทำให้เขาซึมซับความงามทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น และตั้งวงดนตรีกับเพื่อน ๆ ชาวญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือและออกเดินทางทั่วญี่ปุ่นหลังจากเรียนจบ จนตัดสินใจตั้งรกรากเป็นศิลปินอยู่ที่นี่ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้รสชาติทางดนตรีของ THE CHARM PARK มีความเป็นดนตรีป๊อปญี่ปุ่นที่สดใหม่ ทำให้เขากลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวในบทเพลงของแสตมป์ ด้วยท่วงทำนองที่ฟังหวานหูในแบบที่เราคุ้นเคยจากงานเพลงทางฝั่งญี่ปุ่น พร้อมการเรียบเรียงดนตรีที่มีความร่วมสมัยและสดใหม่ ทำให้หลับตาฟังแล้วจินตนาการเห็นภาพท้องฟ้าใส ๆ สวย ๆ ไปด้วยได้เลย

แสตมป์ได้โพสต์เล่าที่มาของเพลงนี้ไว้ในเฟซบุ๊กเพจของเขาว่า

“NEPHOPHOBIA – แปลว่า fear of clouds หรือโรคกลัวเมฆซึ่งโรคนี้มีอยู่จริง ๆ ครับผมก็เพิ่งรู้~ ผมเขียนเพลงนี้มาเป็นภาษาไทยก่อน เนื้อหาเกี่ยวกับคนสองคนที่มาสนิทกัน โดยที่คนนึงเป็นคนที่ชอบท้องฟ้าดูก้อนเมฆมาก ๆ ทั้งคู่สนิทกันจนอีกคนก็เริ่มที่จะมองดูฟ้าบ้าง ความน่าเศร้าที่เป็น Core ไอเดียของเพลงนี้ก็คือ แล้วถ้าทั้งสองคนต้องจากกันล่ะ คนที่เพิ่งเริ่มจะหัดมองดูท้องฟ้า จะมองท้องฟ้าอย่างไรไม่ให้นึกถึงคนที่ชวนเขามองท้องฟ้าในวันนั้น พอเล่า ๆ ไป จริง ๆ มันเป็นพล็อตเดียวกันกับเพลงทฤษฎีสีชมพูเลยนะครับ เพียงแต่ในเพลงนี้สีชมพูหายไป แล้วสีเทาก็มองสีชมพูอีกไม่ได้เลย”

นอกจากท่วงทำนองของบทเพลงจะมาในโทนอบอุ่นใสแล้ว อีกองค์ประกอบที่สำคัญเลยก็คือความสดใสของมามิ้งค์ CGM48 ที่มาพร้อมความเหงาแต่สดใส (เอ๊ะยังไง) ช่วยเติมสีสันให้กับมิวสิกวิดีโอและบทเพลงนี้ได้เป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว ลองไปฟังบทเพลง “หลบฟ้า” บทเพลงของคนกลัวฟ้าที่ฟ้งแล้วอยากออกไปมองท้องฟ้า กันได้เลย

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส