วันที่ 23 มิถุนายน 2565 บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประกาศเรียกคืนรถยนต์ EV รุ่น bZ4X ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่คืน 2,700 คัน เนื่องจากอะไหล่ล้อหลวม และมีความเสี่ยงที่ล้อจะหลุดขณะขับรถ

โดยในจำนวน 2,700 คันที่เรียกคืน มีจำนวน 2,200 คันที่จำหน่ายในยุโรป, 260 คันในสหรัฐอเมริกา, 10 คันในแคนาดา และอีก 110 คันในญี่ปุ่น

ในขณะเดียวกัน บริษัทซูบารุ (Subaru) ก็เรียกคืนรถยนต์รุ่นซอลเทอร์รา (Solterra) จากทั่วโลกประมาณ 2,600 คันเช่นกัน ด้วยเหตุผลเดียวกับโตโยต้า เนื่องจากเป็นผู้พัฒนารถรุ่นนี้ร่วมกัน

หน่วยกำกับดูแลด้านความปลอดภัยของญี่ปุ่นกล่าวว่า การหักเลี้ยวอย่างแรงหรือเบรกกะทันหันอาจทำให้น็อตดุมล้อคลายตัวได้ และเพิ่มความเสี่ยงที่ล้อจะหลุดออกจากตัวรถ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีรายงานอุบัติเหตุที่เกิดจากข้อบกพร่องดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม หน่วยกำกับดูแลแนะนำให้ผู้ใช้งานหยุดขับรถรุ่นนี้จนกว่าจะมีมาตรการซ่อมแซมที่ถาวรมากขึ้น

สำหรับรถจำนวน 110 คันในญี่ปุ่น ยังไม่มีคันไหนส่งมอบถึงมือลูกค้าเนื่องจากถูกส่งมาเป็นตัวทดลองขับและจัดแสดงเท่านั้น ซึ่งทางโตโยต้ากล่าวในเว็บไซต์ว่าจะตรวจสอบรายละเอียดและซ่อมแซมให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นอกจากนี้โตโยต้ายังบอกว่าไม่ใช่รถทุกคันที่ถูกเรียกคืน แต่ไม่ได้มีข้อชี้แจงว่าผลิตมาทั้งหมดกี่คัน

ทางโฆษกของซูบารุก็ยืนยันเช่นกันว่ารถยนต์ส่วนมากที่ส่งมอบไปเป็นสำหรับตัวแทนจำหน่ายเท่านั้น และยังไม่มีการส่งมอบให้กับลูกค้าในสหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ โตโยต้าที่ได้เคยเสนอสัญญาเช่าผ่านตัวแทนอย่าง คินโต (KINTO) ก็ได้ยกเลิกแผนการและกิจกกรมทดลองขับที่เคยวางแผนไว้ใน 3 เมืองของญี่ปุ่น เพื่อมาตรการด้านความปลอดภัย

ก่อนหน้านี้ โตโยต้าได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์จากนักลงทุนและองค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากมายถึงการที่โตโยต้าไม่ยอมสนับสนุนการยกเลิกรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน และเปลี่ยนเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ

ซึ่งทางโตโยต้าโต้แย้งว่าโตโยต้าจำเป็นต้องมีตัวเลือกหลากหลายให้กับตลาดและลูกค้าที่แตกต่างกัน และรถยนต์ไฮบริดยังคงเป็นรถที่นิยมอันดับ 1 ในญี่ปุ่นมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ซึ่งมีผู้ใช้งานแค่ 1% จากรถที่ขายทั้งหมดในญี่ปุ่นในปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าก็นับได้ว่าเป็นตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และคู่แข่งจากต่างชาติอย่างเช่นเทสลา (Tesla) ก็เริ่มเข้ามาตีตลาดในเมืองใหญ่อย่างโตเกียวมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้โตโยต้าเปิดตัวรถยนต์รุ่น bZ4X ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบในที่สุด

ที่มา: Reuters

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส