จาก iPhone 2G ที่ สตีฟ จอบส์ เปิดตัวให้โลกได้รู้จักเมื่อปี 2007 กาลเวลาผ่าน Apple ก็พัฒนาโทรศัพท์ของตัวเองจนกลายเป็นเจ้าตลาดสมาร์ตโฟนที่เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของมนุษย์ไปตลอดกาล วันนี้ iPhone เดินทางมาถึงซีรีส์ 16 แล้ว เราไปส่องวิวัฒนาการของเจ้าโทรศัพท์รุ่นนี้กัน ปีไหนหล่อน้อย หล่อมาก ในความคิดคุณ ?

Apple ประเทศไทย ประกาศราคา iPhone 16 Series มาแล้ว และในปีนี้ รุ่นเริ่มต้นบางรุ่น ได้มีการปรับราคาลงอย่างเห็นได้ชัดเลย โดย

-iPhone 16 เริ่มต้น 29,900 บาท จากรุ่นก่อนหน้าที่เปิดตัว 32,900 บาท

-iPhone 16 Plus เริ่มต้น 34,900 บาท จากรุ่นก่อนหน้าที่เปิดตัว 37,900 บาท

-iPhone 16 Pro เริ่มต้น 39,900 บาท จากรุ่นก่อนหน้าที่เปิดตัว 41,900 บาท

-iPhone 16 Pro Max เริ่มต้น 48,900 บาท (รุ่นนี้เปิดตัวเท่าเดิมครับ)

สรุปเปิดตัว iPhone 16 Pro และ 16 Pro Max

– หน้าตาเหมือนเดิม หน้าจอใหญ่ขึ้น เดิม 6.1 นิ้ว เป็น 6.3 นิ้ว และเดิม 6.7 นิ้วเป็น 6.9 นิ้ว ตัวเครื่องสัดส่วนไม่เปลี่ยนมาก มีผลมาจากขอบหน้าจอที่บางกว่าเดิม

– ปุ่มใหม่ Capture Button สามารถกดทางลัดเพื่อเข้าโหมดกล้อง กดลากเลื่อนเพื่อซูม และกดค้างเพื่อเข้าฟังก์ชันกล้อง

– ชิปใหม่ Apple A18 Pro แรงกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 15% แต่กินพลังงานน้อยกว่า 20%

– กล้องหลังใหม่ 48MP Fusion Camara, Ultra Wide ความละเอียดใหม่ 48MP และ Tetraprism ซูม 5 เท่าทุกรุ่น

– สามารถเกรดสีภาพ และวิดีโอบนกล้อง

– ถ่ายความละเอียด 4K สูงสุด 120 FPS

– รองรับการบันทึกเสียง Spatial Audio และ Audio Mix ปรับแต่งอัดเสียงได้บนเครื่อง

– Voice Memo สามารถบันทุกเสียงได้ 2 Layers ซ้อนเสียงได้

สรุปเปิดตัว iPhone 16 และ 16 Plus หน้าจอ และดีไซน์คล้ายเดิม กล้องอัลตราไวน์ใหม่ 12MP ปุ่มใหม่ Action Button และ Camera Control เลื่อนสไลด์เพื่อซูม กดค้างเพื่อเลือกฟังก์ชันควบคุมกล้องได้ รองรับการถ่าย Spatial Video ชิปประมวลผลใหม่ A18 รองรับ Apple Intelligence

มาแล้ว Apple Watch Series 10 ดีไซน์ใหม่นิดหน่อย หน้าจอใหญ่กว่าเดิม ไม่เรียบโค้งรับกรอบ พิมพ์ข้อความง่าย สีใหม่ Jet Black ตัวเรือนอัปเกรดเป็นไทเทเนียมเกรด 5 ชนิดเดียวกับการใช้งานบนอวกาศ ราคาเปิดตัว 399 เหรียญ (13,500 บาท)