สมาร์ตโฟนจอพับได้นั้นพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ OPPO เองก็เป็นอีกแบรนด์ที่ตัดสินใจเข้าสู่ตลาดสมาร์ตโฟนจอพับได้อย่างเต็มตัวแล้ว หลังจากที่แบไต๋เราได้ทำคลิปแกะกล่องกันไปก่อนหน้านี้ คลิปนี้จะเป็น Full Review ที่จะเจาะลึกทุกส่วนของสมาร์ตโฟนจอพับรุ่นใหม่นี้ OPPO Find N2 Flip

หน้าเพจเฟซบุ๊กของ OPPO ประเทศไทยเขาโชว์คำโปรยเอาไว้เลยว่านี่เป็น ‘พับที่ดีกว่า’ เพราะงั้นเราขอเจาะลึกว่าอะไรที่ทำให้เป็น ‘พับที่ดีกว่า’ ได้บ้าง

จอนอกด้านหลังเครื่อง

อย่างแรกคือเรื่องของจอนอกด้านหลังเครื่องนี่เลย ที่ให้ขนาดใหญ่ถึง 3.26 นิ้ว ความละเอียด 720×382 พิกเซล แบบแนวตั้ง อัตราส่วน 9:17 อัตราส่วนนี้แปลว่าจอนอกจะให้ประสบการณ์การใช้งานที่เหมือนเรากางเครื่องอยู่เลย ซึ่งขนาดนี้ ถือว่าใหญ่ที่สุดในวงการจอพับแนวตั้งแบบนี้ !

ทีนี้ฟีเจอร์จอนอก เรื่องนี้เราเคยบอกไปแล้วในคลิปแกะกล่องพรีวิวว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง ซึ่งพอจอนอกมันใหญ่ขึ้นแล้ว สามารถทำอะไรได้ลื่นไหลและสะดวกมากขึ้นนะ เพราะมีฟีเจอร์ทั้ง ใช้จอนอกนี้ตั้งค่าการเปิด-ปิดเพลงต่าง ๆ ได้ รวมถึงสามารถตั้งค่าตัวเครื่องได้ จากการลากด้านบนนี้ ส่วนดูแจ้งเตือน และตอบแบบรวดเร็วก็เข้าได้ด้านล่างนี้

เมนูลากด้านข้างที่มีตั้งแต่เปิดกล้องถ่ายเซลฟี่ด้วยกลัองหลัก, ดูสภาพอากาศ, ดูนัดหมายในปฏิทิน, จับเวลา ตั้งค่าหูฟัง OPPO, OnePlus, และบันทึกเสียง อันนี้ให้ดูคร่าว ๆ ในพรีวิวแล้ว แต่ในอนาคตคาดว่าแอปฯไหนที่ทำซัพพอร์ตให้ใช้กับจอนอกนี้ได้ บอกเลยว่าจะทำให้การทำงานสะดวกขึ้นแน่นอน
แต่ที่ชอบมาตั้งแต่ตอนแกะกล่องก็คือฟีเจอร์ ‘Interactive Pets’ เรียกง่าย ๆ ก็เหมือนเราเลี้ยงสัตว์เลยนั่นแหละ เพราะนอกจากที่น้องจะมาเฝ้าหน้าจอล็อกของเราแล้ว ยังมีการเปลี่ยนท่าทางไปมาตามที่เราใช้งานด้วย เช่นถ้าเปิดเพลง น้องก็จะใส่หูฟังแล้วฟังเพลงไปกับเรา หรือถ้าเราเสียบชาร์จแบตฯ น้องก็จะชาร์จไปพร้อมกับมือถือด้วย และในตอนนี้ก็มีให้เลือกถึง 5 ตัว แล้วสัตว์แต่ละตัวก็มีท่าทางไม่เหมือนกันด้วย ! นั่งมองกันทั้งวันละทีนี้

และอย่างที่บอกไว้ในคลิปพรีวิวแกะกล่องเลย ว่าบานพับของ OPPO FInd N2 Flip เขาใช้เป็น Flexion Hinge แบบใหม่ พร้อมการพับแบบ Waterdrop Design หรือแบบหยดน้ำ ที่ทำให้กาง และพับได้เรียบมากขึ้น เห็นรอยพับน้อยลงจนแทบจะมองไม่เห็น ซึ่งจากที่ถือใช้มา การที่รอยพับหายไปได้ขนาดนี้ถือว่า OPPO แม้จะเข้าตลาดระดับโลกมาช้า แต่ทำการบ้านมาได้ค่อนข้างดีเลย ลองเอาไฟส่องบริเวณรอยพับตรง ๆ เลยถึงจะเห็นว่ามีรอยพับคือมันเห็นได้ค่อนข้างยากจริง ๆ แล้วพอใช้จริงถ้าเราไม่พยายามใช้นิ้วไปรูดหารอยพับมันจริง ๆ เราก็แทบไม่รู้สึกเลย แบบนี้ถือว่าเยี่ยม

และใครที่กังวลเรื่องช่องว่างระหว่างจอกับเฟรมเครื่อง บานพับ Flexion Hinge นี่ไม่มีช่องว่างระหว่างบานพับกับจอทั้งก่อน ระหว่าง แล้วก็หลังกางเลย เพราะงั้นไม่ต้องกลัวฝุ่นจะเข้า

ส่วนเรื่องของการกาง เท่าที่ลองใช้งานมา คือกางได้หลายองศามาก ๆ แต่มันจะมีช่วงนึง ที่กางออกมามาก ๆ แล้วเหมือนน้ำหนักส่วนหัวมันมากกว่า ทำให้เครื่องกางลงไปสุด แต่ไม่มีผลกับการใช้งานนะ ซึ่งตัวบานพับนี่เขาได้รับการรับรองจากสถาบัน TÜV Rheinland ว่าโทรศัพท์ยังใช้ได้หลังจากการพับและกางกว่า 400,000 ครั้ง ซึ่งเทียบเท่ากับการเปิดและปิดโทรศัพท์ประมาณ 100 คร้ัง ต่อวันเป็นเวลากว่าสิบปีเลยทีเดียว

ดีไซน์

ส่วนหน้าตาของ OPPO Find N2 Flip รุ่นนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดูพรีเมี่ยมค่อนข้างมาก ทั้งกรอบเครื่องอัลลูมิเนียม ฝาหลังกระจก ไปจนถึงบริเวณแผ่นเหล็กด้านหลัง ที่มีดีไซน์ลายบริเวณนี้เป็นคลื่น ๆ ใส่ใจรายละเอียดทุกจุดจริง ๆ ส่วนเรื่องของสีที่แบไต๋เราได้สีม่วง Moonlit Purple ที่ OPPO บอกว่ากันรอยนิ้วมือ ที่ถือใช้มาก็พบว่ารอยนิ้วมือบนฝาหลังเครื่องติดยากจริง

นอกจากนั้น เรื่องความบางเบาเขาก็ทำได้ดีเหมือนกัน ด้วยความหนาเครื่องแค่ 7.45 มิลลิเมตร ซึ่งวัดจริงได้ (รอวัด) พอประกบกันแล้วก็จะหนาประมาณ (รอวัด) ซม. เท่านั้นเอง กับน้ำหนักที่เขาบอกว่าหนัก 191 กรัม ส่วนน้ำหนักจริงนั้นจะอยู่ที่ (รอชั่ง) ถือว่ามีความบางและเบามากอยู่ เหมาะกับการพกไปในกระเป๋าใบเล็กทุกแบบแน่นอน ส่วนเรื่องพอร์ตก็ให้ USB-C 2.0 มาพอร์ตเดียว แต่ที่น่าสนใจคือช่องใส่ซิมที่สามารถใช้ 5G ได้แบบ 2 ซิมพร้อมกันด้วย !

เรื่องเสียง

OPPO Find N2 Flip ก็ให้มาครบถ้วนมาก ทั้งลำโพงคู่บน-ล่าง และ Codec Bluetooth ของเครื่องที่รองรับได้ครบถ้วนมาก เพราะรองรับ Codec aptX Adaptive มาตั้งแต่แรก แล้วรองรับ LDAC, LHDC ด้วย ถ้าใช้หูฟังที่รองรับ ก็จะฟังเพลงได้อย่างเต็มอรรถรสแน่นอน

จอด้านใน

นอกจากจอนอกขนาดใหญ่แล้ว จอด้านในเองก็น่าสนใจไม่แพ้กันเลย ! ด้วยจอ OLED ขนาด 6.8 นิ้ว 120Hz แบบ LTPO (Low-Temperature Polycrystalline Oxide) ที่ลดรีเฟรชเรตได้ถึง 1Hz ซึ่งช่วยทำให้แบตอยู่ได้นานขึ้น ส่วนความสว่างสูงสุด 1600 Nits ความละเอียด 2520 × 1080 (FHD+) ที่ลดแสงสะท้อนได้ดี ถึงขนาดเขาเคลมว่าดีกว่าจอพับอื่น ๆ ถึง 5 เท่าเลยทีเดียว ถามว่าดีกว่าจริงไหม จากที่เอาไปออกแดดจริงมาก็ถือว่าใช้งานได้ เล่น Youtube และ Netflix ได้เต็มรายละเอียดแบบ HDR สายเสพคอนเทนต์สบายใจหายห่วงได้

อ้อ ฟิล์มติดเครื่องของจอด้านในที่ให้มาแล้วนี่แกะเปลี่ยนเองไม่ได้นะ ถ้าต้องการจะเปลี่ยน แนะนำให้ติดต่อศูนย์บริการของ OPPO เพื่อเปลี่ยนฟิล์มจะดีกว่า

กล้องหลัก

กล้องหลังของ OPPO Find N2 Flip ก็จัดมาแน่นสมเป็นเรือธงเหมือนกันนะ ! อย่างเลนส์หลักด้านบนนี่ให้มาเป็น Sony IMX890 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8 กับด้านล่างเป็นเลนส์มุมกว้างมาก Sony IMX 355 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 ที่แม้จะให้มา 2 เลนส์ แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป (รวมถึงมีชิป NPU Marisilicon X เพื่อประมวลผลภาพถ่ายในที่แสงน้อยด้วยนะ)

อย่างแรกคือฟีเจอร์เซลฟี่ที่คมชัดได้ด้วยกล้องหลัก หรือ Quick High-Res Selfie ที่ใช้จอนอกดูตัวอย่างภาพ และถ่ายได้ทั้งภาพถ่าย ภาพ Portrait และวิดีโอ ด้วยคุณภาพที่สูงกว่ากล้องหน้าทั่ว ๆ ไป แถมยังชูมือเพื่อถ่ายภาพได้โดยไม่ต้องกดถ่ายเองก็ได้นะ !

อีกโหมดที่สายถ่ายคน หรือถ่ายแฟนน่าจะชอบ คือกล้องนี้สามารถเปิด Dual Preview ได้ ก็คือก่อนถ่ายภาพ ก็สามารถเปิดตรงนี้ เพื่อให้แบบดูตัวอย่างภาพก่อนได้ จะได้เช็คท่าโพสต์ก่อนด้วย ! บอกเลยว่าแบบหลังกล้องต้องชอบแน่ ๆ

และด้วย OPPO Find N2 Flip เป็นสมาร์ตโฟนจอพับ จอนอกของ OPPO Find N2 Flip เลยเอาไว้ใช้ถ่ายภาพเซลฟี่ด้วยกล้องหลักได้ ทั้งแบบถือถ่าย และกางเครื่องแบบ FlexForm Camera (กางครึ่งนึงเพื่อเป็นขาตั้งกล้อง) ซึ่งใช้ถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ วิดีโอคอล หรือวางไว้เพื่อดูยูทูปเฉย ๆ ก็ได้

แม้จะไม่มีเลนส์ซูมแยกสำหรับการถ่ายภาพ แต่ OPPO Find N2 Flip ก็สามารถถ่ายภาพบุคคลได้ในระยะ 1 เท่านั้นแหละ สามารถปรับค่า f/ ให้เบลอมาก-น้อยได้ตั้งแต่ f/16 – f/1.4 แต่ถ้าตั้ง f/2.8 คือกำลังสวยเลย!

ภาพที่ออกมาถือว่าน่าสนใจมาก เพราะอย่างที่ทราบกันว่า OPPO เขาทำสกินโทนการถ่ายภาพที่ค่อนข้างดี รวมถึงบิวตี้เขาก็ทำได้ดีด้วย แต่ที่น่าสนใจคือการตัดขอบพื้นหลังนี่แหละ ถ้าใช้ f/2.8 อย่างที่แนะนำไป ก็จะได้ภาพที่ตัดเส้นผมที่ทำได้ค่อนข้างดี

นอกจากนั้น อย่างที่ทราบกันว่า OPPO Find N2 Flip นี้ ได้รับความร่วมมือกับ Hasselblad แบรนด์กล้องถ่ายภาพสัญชาติสวีเดน มาทำซอฟต์แวร์กล้องถ่ายภาพด้วยเช่นกัน ซึ่งซอฟต์แวร์กล้องที่ยังทำมาดูดีตามแบบฉบับของ OPPO ที่ร่วมมือกับ Hasselblad ที่มีโหมดถ่ายภาพ เสียงชัตเตอร์ และการปรับแต่งสีครบเลย

ภาพถ่ายมุมกว้างถ่ายได้กว้างสุด 112° ตัวภาพสีดูดรอปลงไปจากภาพ 1 เท่าไปบ้าง แต่ภาพถือว่าดูดี นำไปใช้ได้เลยเหมือนกันแต่ด้วยความที่กล้องถ่ายภาพที่ให้มาไม่มีเลนส์ซูม ภาพถ่ายซูมจึงใช้การครอปจากเลนส์หลักแทน สามารถซูมได้สูงสุดที่ 20 เท่าระยะหวังผลอยู่ที่ประมาณ 5 เท่า ก่อนที่ภาพจะแตก

การถ่ายภาพกลางคืน ถ่ายได้ทั้งผ่าน AI กล้องธรรมดา และผ่านโหมดกลางคืน ภาพที่ออกมาได้ความสว่างไม่แตกต่างกันมาก แต่ภาพที่ใช้โหมด AI กล้องถ่าย ภาพจะหลุดโฟกัสง่ายกว่าถ้ามือไม่นิ่งมาก ดังนั้นเราอยากแนะนำให้ถ่ายด้วยโหมดกลางคืน จะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า

วิดีโอกล้องหลังถ่ายได้สูงสุด 4K 30FPS หรือ 1080P 60 Portrait Video ถ่ายได้ 1080P 30FPS

กล้องหน้า

OPPO Find N2 Flip ใช้เซนเซอร์ Sony IMX709 ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล f/2.4 ที่จะเอาไว้ใช้งานได้ ซึ่งเอาไว้ถ่ายได้ทั้งภาพเซลฟี่ธรรมดา และเซลฟี่แบบ Portrait ได้เลย แถมยังเอาไปใช้กับฟีเจอร์ FlexForm เพื่อใช้เป็นขาตั้งกล้อง หรือวิดีโอคอลก็ได้ คุณผู้ชมลองดูภาพเอิร์นสิ ภาพออกมาสีสวยไม่แพ้กล้องหลังเลย แถมยังมีการปรับแต่งบิ้วตี้ต่าง ๆ ได้ดีจริง ๆ วิดีโอกล้องหน้าถ่ายได้ 1080P 30FPS

แบตเตอรี่

ให้มามากถึง 4,300 mAh นั้นถือว่าให้มาค่อนข้างมากเลยสำหรับสมาร์ตโฟนจอพับได้แบบนี้ จากการทดสอบเล่น Genshin Impact ปรับสุด เป็นเวลา 20 นาที แบตเตอรี่ลดไป 10% ซึ่งเราก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ด้วยหัวชาร์จ SUPERVOOC ที่ชาร์จที่ความเร็ว 44W ได้ คลิปที่แล้ว เราทราบสเปกว่าสามารถชาร์จจาก 0-50% ได้ใน 23 นาที

สเปก

แม้ OPPO Find N2 Flip จะเป็นสมาร์ตโฟนจอพับ แต่นี่ก็ยังนับเป็นสมาร์ตโฟนเรือธงได้อยู่นะ ด้วยชิปเซ็ตที่เขาจัดมาเป็น MediaTek Dimensity 9000+, แรมขนาด 8GB และรอมขนาด 256GB (มีขายความจุเดียวนะ) จากที่ลองใช้งานจริงมา ก็ถือว่าไม่มีความรู้สึกถึงการหน่วงทั้งในแอนิเมชัน หรือการเข้าออกแอปฯต่าง ๆ เพราะงั้นถ้านำไปใช้งานทั่วไป ก็หายห่วงได้แน่นอน

และใน Geekbench 6 ก็ได้คะแนน Multi Core ไป 3,322 คะแนน ถือว่าเป็นคะแนนที่ค่อนข้างสูงสำหรับการใช้งานทั่วไป เน้นไลฟ์สไตล์ และเล่นเกมเล็กน้อย ถือใช้ได้แบบสบาย ๆ เลย โดยคะแนนนี้อยู่ในระดับที่พอ ๆ กันกับ Snapdragon 8 Gen 1

กับในการทดสอบ GPU ด้วย 3D Mark ชุด Wild Life Stress Test ก็ได้คะแนนสูงสุดไปที่ 8145 คะแนน และต่ำสุดเมื่อเครื่องร้อนอยู่ที่ 4668 คะแนน โดยความร้อนที่แอปฯ จับได้นี่ก็ 35 องศา ถือว่าไม่ได้ร้อนมากจนเกินไป แม้เราจะรู้สึกร้อนพอสมควรก็ตาม

และถ้าเราทดสอบการเล่นเกมด้วย Genshin Impact ที่ตั้งค่าสูงสุด 60 FPS ไว้ ตัวเครื่องแจ้งว่าสามารถเล่นได้ที่ประมาณ 40-50 FPS และจะมีอาการกระตุกเล็กน้อยเวลาต้องโหลดอะไรเยอะ ๆ แต่ถือว่าเล่นได้แน่นอน

ข้อสังเกต

กล้องถ่ายภาพหลักไม่มี OIS หรือกันสั่นที่ตัวเลนส์ แต่จากตัวอย่างวิดีโอที่มี EIS อย่างเดียวแล้ว ถือว่ายังทำได้คุณภาพดูดีอยู่ ถ้าเราใช้โหมด Dual Preview ถ่ายคนแบบเปิดจอนอกด้วย แล้วถ่ายบริเวณที่มีแดดจัด เครื่องจะร้อนเร็วได้

ราคา

เหมือนในคลิปแกะกล่องเลย OPPO ประเทศไทยประกาศราคาจำหน่ายของ OPPO Find N2 Flip อยู่ที่ 29,990 บาท