[รีวิวเกม] “DOOM” Nintendo Switch เกมยิงในตำนานฉบับพกพา
Our score
8.1

Doom

จุดเด่น

  1. เกมเพลย์ยังคงรวดเร็วเหมือนเดิม
  2. ตัว DLC มาครบ
  3. กราฟิกดูดีกว่าที่คาด

จุดสังเกต

  1. ไม่ใช่เกมใหม่
  2. มี Bug ในส่วนของระบบเสียง
  • กราฟิก

    8.0

  • ระบบการเล่น

    8.5

  • ความคุ้มค่า

    8.0

  • ความแปลกใหม่

    8.0

  • ภาพรวม

    8.0

เรียกว่าเป็นสิ่งเซอร์ไพรส์แฟนเกมทั่วโลก เพราะการมาของเกม Doom ภาคล่าสุดบน Nintendo Switch เพราะมันเป็นเกมที่เพิ่งวางขายเมื่อปีที่แล้วบน PS4 XboxOne และ PC ทำให้หลายคนคิดว่ามันไม่น่าจะสร้างบน Switch ที่มีสเปกด้อยกว่าได้

โดยเกม Doom ภาคใหม่ล่าสุดต้นฉบับอย่างที่บอกว่าออกบน PS4 , XboxOne และ PC ในปี 2016 เป็นการย้อนหลับไปสู่ความคลาสสิกของซีรีส์ Doom ที่เน้นการยิงศัตรู และการท่องไปในโลกที่เหมือนฝันร้ายในโลกของไซไฟผสมกับความลี้ลับ เกมมีการเล่าเรื่องที่รวดเร็วและไม่ได้ลงลึกอะไรมาก เพราะมันเน้นความเป็นเกมแอ็คชั่นที่มันส์สะใจกับความรุนแรงที่จัดเต็มดังนั้นเกมนี้จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปีแน่

และแน่นอนว่ากราฟิกเป็นประเด็นแรกที่หลายคนอยากรู้ว่าในเมื่อมันถูกสร้างบนคอนโซลที่ไม่ได้แรงจะออกมาดูดีแค่ไหน และสัมผัสแรกบอกได้เลยว่าดูดีกว่าที่คาดไว้มาก เพราะผู้เขียนเองได้เล่นบน PS4 มาแล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันดูแย่จนเล่นไม่ได้ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แต่ภาพจะเบลอ เพราะความละเอียดเมื่อต่อทีวีจะอยู่แค่ 720p ตามข้อมูล ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่าความละเอียดจริงๆเพียง 600p และเฟรมเรตอยู่ที่ 30 FPS ที่ลื่นไหลในระดับที่น่าพอใจ แม้จะมีแอบตกอยู่บ้างเมื่อเจอกับกองทัพศัตรูจำนวนมาก และเมื่อเราเล่นในโหมดพกพากราฟิกก็ยังคงดูดี

ระบบเสียงอาจจะเป็นส่วนที่ทั้งช่วยให้เกมสนุกมากขึ้นด้วยเพลงที่มาในแนว Rock ที่เข้ากับแนวเกม เสียงประกอบที่ใส่ความสะใจทั้งเสียงของปีศาจในเกม และเสียงปืน ที่ระเบิดกันแบบหนังแอ็คชั่น แต่เสียดายที่ระบบเสียงไม่ค่อยเสถียรเท่าที่ควร เพราะเวลาเจอศัตรูมากๆเสียงประกอบฉากกลบเสียงเพลงไปหมด  แถมยังมี Bug ที่เสียงเพลงประกอบอยู่ดีๆก็หายไปอยู่ แต่คาดว่าเดี๋ยวทีมงานจะออกตัวแก้มาในอนาคต

รูปแบบการเล่นก็อย่างที่บอกว่าเหมือนกับต้นฉบับที่เป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่ 1 ที่เน้นความรวดเร็วของเกมเพลย์ และบน Nintendo Switch ก็ยังคงถ่ายทอดความมันส์จากต้นฉบับไว้ครบถ้วน โหมดเนื้อเรื่องจะแบ่งออกเป็นฉากและเราต้องออกค้นหาของในด่านเพื่อเปิดทางไปต่อ โดยเกมจะบอกว่ามันอยู่ตรงจุดไหนทำให้ไม่หลงทาง เกมใช้ระบบเก็บยาเพื่อเติมพลัง ไม่มีการฟื้นคืนเองเมื่อได้พักเหมือนเกมยิงยุคหลังๆ ซึ่งนอกจากพลังชีวิตแล้วใน Doom ยังมีค่าพลังชุดเกราะด้วย ส่วนการควบคุมบังคับทำได้ดีทั้งการใช้จอยเล่นทั้งต่อทีวีและแบบพกพา แถมยังรองรับระบบจับการเคลื่อนไหวของ Joy-con ที่ใช้การสะบัดจอยเพื่อโจมตีศัตรูในระยะประชิดด้วย

ฉากในเกมแม้ว่าจะไม่ได้กว้าง แต่ผู้สร้างใส่ความซับซ้อน และลูกเล่นแปลกๆที่ซ่อนอยู่มากมาย ผู้เล่นต้องสังเกตบวกกับการดูแผนที่ เพื่อหาทางไปต่อรวมทั้งเรายังสามารถกระโดดได้ทำให้มีการสร้างฉากที่เราต้องกระโดดไปตามพื้นผิวกันตลอด แม้ว่าไม่ได้แปลกอะไรแต่ก็ช่วยเสริมให้เกมมีมิติในการเล่นมากขึ้น โดยเฉพาะฉากที่บางส่วนออกแบบมาซับซ้อน และมีจุดให้ผู้เล่นตกใจกันไปตลอดเกม ซึ่งส่วนนี้มีมาตั้งแต่ต้นฉบับแล้ว

แม้ว่าเกมจะเน้นหนักไปที่ความเป็นแอ็คชั่นแต่ก็ยังไม่ทิ้งระบบอัพเกรดตัวละคร ที่ลงรายละเอียดพอตัว เพราะเราสามารถอัพเกรดได้ทั้งพลังชีวิต และชุดเกราะที่จะค่อยๆเพิ่มความสามารถของเราขึ้นเรื่อยๆ และยังมีระบบปรับแต่งอาวุธที่ทำได้หลากหลายมาก และจำเป็นต่อการเล่น เพราะตัวเกมไม่ได้ง่ายๆ แถมกระสุนในเกมก็มีจำกัดดังนั้นการยิงออกไปแต่ละนัดเราต้องคิดดีๆ โดยเรามีท่าเผด็จศึกที่จัดเต็มไปด้วยความรุนแรงชนิดต่อยหัวหลุด หรือฉีกตัวขาดเป็นสองท่อนด้วยเลื่อยไฟฟ้า รอให้คอเกมแอ็คชั่นได้สะใจแถมยังช่วยประหยัดกระสุนด้วย

ส่วนศัตรูในเกมมีลูกเล่นมากมายตั้งแต่พวกเดิมมาให้เราเชือดง่ายๆ มีพวกเล็งยิงระยะไกล และยังมีพวกอัดแรงชนิดโดนครั้งเดียวจอด เพราะขึ้นชื่อว่า Doom มันคงไม่ใช่เกมง่ายๆแน่  ผู้เล่นต้องใช้ทั้งความสามารถ และเลือกอาวุธใช้งานให้ถูกประเภท เรียกว่าส่วนนี้ยังคงเป็นความโดดเด่นของซีรีส์ ที่เน้นความโหดมันส์สะใจมาตลอด

และนอกจากโหมดเนื้อเรื่องแล้วยังมีโหมดอาเขต ที่มีฉากที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความมันส์ให้กับผู้เล่นโดยเฉพาะ แถมยังสามารถทำคอมโบในการเล่นเพื่อเก็บคะแนนได้ แน่นอนว่ายังคงมีความท้าทายให้สัมผัสกันเหมือนเดิม  ส่วน ระบบออนไลน์ก็เหมือนกับบนคอนโซลเครื่องอื่น แต่ที่ชอบมากคือ ความลื่นไหลในการเล่นที่แทบไม่มีการกระตุก แถมยังใช้เวลาไม่นานในการหาคนมาเล่นด้วยเรียกว่าเร็วที่สุดในเกมบน Switch ตอนนี้เลย หรือจะนัดเพื่อนมาเล่นด้วยก็ย่อมได้ ส่วนโหมดออนไลน์ที่ใส่มาก็มีทั้ง  team deathmatch , Domination, Soul Harvest , Warpath , Sector , Freeze Tag , Clan Arena และ Infernal Run ถือว่าเป็นเกมที่ลงคอนโซลนินเทนโด ที่ผู้สร้างจัดเต็ม ขนมาแบบไม่กั๊กและมีคุณภาพสูง ไม่เหมือนเกมบางค่ายที่ตัดทุกอย่างออกแต่ขายราคาเต็ม โดยผู้เล่นสามารถเก็บค่าประสบการณ์เพื่อปลดล็อกของในเกมได้

เอาเข้าจริงๆการมาของ Doom บน Nintendo Switch ถือว่าทำได้ดีกว่าที่คาดหวังไว้พอสมควร แม้ว่าทั้งกราฟิกและเฟรมเรตที่ดูเป็นรองเวอร์ชั่นอื่น แต่ก็ไม่ได้ดูย่ำแย่จนรับไม่ได้ เพราะมันยังคงเป็นเกมยิงที่เน้นความรวดเร็วในการเล่นเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือคุณสามารถเอาไปเล่นนอกบ้านได้ทุกที่ทุกเวลา

Play video