กล้องขนาดเล็กตัวล่าสุดจาก DJI เมื่ออาจหาญลงมาแข่งในตลาดกล้องเล็กแบบเดียวกับ GoPro HERO ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วก็แตกต่างกันหลายอย่างที่น่าจะทำให้ผู้ซื้อตัดสินใจเลือกได้ไม่ยาก

ซึ่งก่อนหน้านี้ DJI ออกกล้องตระกูล OSMO มาหลายตัวแล้วคือ

  • OSMO ที่เป็นกล้องกลมๆ เสียบมือถือเป็นจอ ซึ่งมีรุ่นย่อยอย่าง OSMO+ และ OSMO Pro
  • OSMO Mobile สำหรับเสียบมือถือ
  • และตัวใหม่คือ OSMO Pocket ตัวนี้

แกะกล่องกันก่อนเลย ตัวกล่องนี่น่าประทับใจมาก เล็กจนน่าเปิดดูว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งส่วนประกอบในกล่องก็มีตัวกล้อง OSMO Pocket อันนี้แน่นอนแหละ ตัวเล็กน่ารักเชียว

  • แล้วก็เคสสำหรับเก็บตัวกล้องซึ่งแกะออกมาจะเห็นมีคู่มือและสายมากมายอยู่ในนี้
  • ดูตัวกล้องกันก่อน DJI OSMO Pocket นั้นมาพร้อม Gimbal แบบ 3 แกน ซึ่งถือว่าโอเค สามารถให้ภาพที่สมบูรณ์กว่า Gimbal แบบ 2 แกน
  • ดูรอบเครื่องที่ฐานเป็นแบบเรียบ สามารถตั้งกล้องได้โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง สามารถชาร์จโดยใช้ USB-C ได้ ส่วนข้างเครื่องเป็นที่ใส่ MicroSD
  • ด้านหลังมีปุ่มแค่ 2 ปุ่ม ปุ่มทางขวาเอาไว้เลือกและเปิดเครื่อง ส่วนปุ่มซ้ายนี่เอาไว้ถ่ายรูปหรืออัดวิดีโอ
  • แต่เห็นเล็กๆ แบบนี้มันมีหน้าจอด้วยนะครับ ตรงนี้เป็นหน้าจอสัมผัส เอาไว้ดูเฟรมหรือสั่งงานได้
  • DJI OSMO Pocket ใช้เซนเซอร์รับภาพขนาด 1/2.3 นิ้ว f/2.0 ให้มุมภาพกว้าง 80 องศา (เทียบกับ GoPro Hero ให้มุมภาพกว้างสุด 149 องศา)
  • สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K 60 fps ที่ 100 Mbps ซึ่งก็น่าจะให้คุณภาพดีพอสำหรับเอาไปตัดต่อได้สบายๆ
  • สามารถปรับตั้งค่าแบบ Manual ได้ทั้งรูรับแสง, ISO, ความเร็วชัตเตอร์ แถมถ่าย RAW และวิดีโอแบบ D-Cinelike ได้ด้วย
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ 140 นาทีเมื่อถ่าย FullHD 30 fps และใช้เวลาชาร์จ 73 นาที
  • ที่น่าสนใจคือถุงอุปกรณ์ที่ให้มาด้วยนี้ มีสายชาร์จ USB-C มาให้ และหัวต่อ Lightning และ USB-C สำหรับ Activate เครื่อง ซึ่งจะต้องโหลดแอป DJI MIMO มาลงก่อน แล้วเสียบมือถือตรงกับ Pocket ถึงจะเปิดใช้งานเครื่องได้ (แปลว่าใครใช้มือถือที่ใช้ MicroUSB จะไม่สามารถ Activate เครื่องได้)

แน่นอนว่าเป็น DJI ก็ต้องมาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพหลากหลายคือ

  • FPV หรือโหมดมุมมองบุคคลที่ 1 เอาไว้สร้างวิดีโอที่ลื่นไหลเหมือนมองจากตานักแสดงในฉากที่ตื่นเต้น
  • ActiveTrack แพนกล้องติดตามวัตถุอัตโนมัติ
  • 3×3 Panorama ถ่าย 9 ภาพเพื่อนำมาต่อเป็นภาพใหญ๋โดยอัตโนมัติ
  • Motionlapse ถ่ายวิดีโอ timelapse แบบเคลื่อนกล้องได้
  • Nightshot ใช้ gimbal เป็นกันสั่นเพื่อถ่ายชัตเตอร์ 2-3 วิด้วยมือแบบไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องตอนกลางคืน
  • Story Mode แอปจะช่วยแนะนำการถ่ายวิดีโอให้กลายเป็นคลิปสนุกๆ ได้ง่ายๆ พร้อมใส่ลูกเล่นการเคลื่อนกล้องที่หลากหลาย

นอกจากนี้ DJI OSMO Pocket ยังมีอุปกรณ์เสริมอีกเพียบ เช่น

  • หัวแปลง USB-C เป็นช่อง 3.5 mm สำหรับเสียบไมค์ (ใช่แล้ว ที่ตัวมันไม่มีช่อง 3.5 mm)
  • อแดปเตอร์เพิ่ม Wireless ให้เชื่อม Pocket กับสมาร์ทโฟนไร้สายได้
  • แท่นชาร์จพกพา
  • ไม้เพิ่มความยาวและเป็นขาตั้ง
  • เคสกันน้ำ

ราคาน่าจะเปิดตัวในไทยที่ 13500 บาท ทั่วโลกจะขายเป็นทางการ 15 ธันวาคมนี้

เทียบกับ GoPro HERO

  • ถึง DJI OSMO Pocket จะใช้งานคล้ายกับ GoPro HERO แต่รูปแบบงานที่เหมาะกับ Pocket ก็ต่างจาก GoPro นะ
  • GoPro คือได้มุมกล้องกว้าง ทน เอาลงน้ำได้ ก็เหมาะสำหรับงานที่กล้องทั่วไปถ่ายไม่ได้ งานแอคชั่น หรือถ่ายภาพใต้น้ำ ซึ่งระบบป้องกันภาพสั่นไหวของ HERO 7 ก็ดีงามในระดับหนึ่งเลย
  • Pocket ด้วยความที่เป็น Gimbal เต็มตัว ทำให้ถ่ายการเดิน หรือวิ่งได้นิ่งกว่า GoPro แน่ๆ แต่ด้วยความที่มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหวเยอะ ทำให้บอบบางกว่า GoPro HERO 7 ทำให้เหมาะกับกลุ่มบล็อกเกอร์ไลฟ์สไตล์ทั่วไปมากกว่า

***“พิเศษสำหรับแฟนเพจแบไต๋ ซื้อ Osmo Pocket ที่ร้าน – DJI GO Gadgets ขั้น2 เซ็นทรัล เฟสติวัล อิสวิล ถนนเลียบด่วน เอกมัย รามอินทรา ส่งภาพใบเสร็จมาใน Inbox เพจแบไต๋ รับทันทีเสื้อแบไต๋ ลิมิเต็ด อิดิชัน มูลค่า 250 บาท ส่งถึงบ้าน”