[รีวิวเกม] The Elder Scroll V: Skyrim Anniversary Edition ฉลอง 10 ปีด้วยอัปเกรดใหญ่…ที่อาจไม่เหมาะกับทุกคน

Our score

6.0

[รีวิวเกม] The Elder Scroll V: Skyrim Anniversary Edition ฉลอง 10 ปีด้วยอัปเกรดใหญ่…ที่อาจไม่เหมาะกับทุกคน

จุดเด่น

1. คุ้มค่าสำหรับผู้เล่นสาย Vanilla และคนที่ไม่ถนัดลง Mod ด้วยตัวเอง
2. ได้ Mod กว่า 500 รายการจาก Creation Club พร้อมเนื้อหาเพิ่มเติม
3. Survival Mode ช่วยสร้างสีสันและความท้าทายได้ดี

จุดสังเกต

1. ตัวเกมยังมีบัค แม้จะไม่เคยลง Mod มาก่อนก็อาจพบปัญหาเกม Crash
2. ไม่เหมาะกับผู้เล่นสาย Mod เพราะ Mod เก่าไม่รองรับตัวเกมเวอร์ชั่นอัปเกรด
3. ราคาค่อนข้างสูงหากเทียบกับเนื้อหาที่ได้รับ

สำหรับคอเกม RPG/OpenWorld คงไม่มีใครไม่รู้จัก The Elder Scroll V: Skyrim อย่างแน่นอน เพราะถึงจะวางจำหน่ายมากว่า 10 ปีแล้ว แต่ชุมชน Skyrim ก็ยังมีผู้เล่นทั้งใหม่และเก่าเล่นกันอย่างคึกคักอยู่เสมอ ส่วนในปีนี้ทาง Bethesda มีอัปเดตครั้งใหญ่เซอร์ไพรซ์แฟน ๆ ซึ่งไม่ใช่การประกาศเปิดตัว The Elder Scroll VI แต่อย่างใด เนื่องจากอัปเดตที่ว่าก็คือการอัปเกรดตัวเกม The Elder Scrolls V: Skyrim Special Edition ให้กลายเป็น The Elder Scrolls V: Skyrim Anniversary Edition นั่นเอง ส่วนการอัปเกรดในครั้งนี้จะมีอะไรแปลกใหม่ น่าตื่นเต้น หรือคุ้มค่าที่จะเสียเงินหรือไม่ เราลองมาดูกัน

The Elder Scrolls V: Skyrim Anniversary Edition มีอะไรใหม่บ้าง?

สำหรับเกมเวอร์ชันนี้ก็คือการนำตัวเกม Special Edition มาอัปเกรดใหม่ด้วย Mod จาก Creation Club กว่า 500 รายการ ทำให้นอกจากเนื้อหาเดิม ๆ อย่าง Dawnguard, Hearthfire หรือ Dragonborn แล้ว ผู้เล่นอย่างเรายังจะได้เพลิดเพลินไปกับเควสต์ บอส อาวุธยุทโธปกรณ์และคาถาใหม่ ๆ ด้วย

ทางด้านของกราฟิกต้องบอกว่าสวยเนียนตาอยู่แล้วเพราะตัวเกมเดิมก็เป็นฉบับ Remaster ที่มาพร้อมความละเอียดระดับ High Resolution นั่นเอง ส่วนระบบใหม่ ๆ ที่น่าสนใจนอกจากที่กล่าวมาก็คือ ระบบมินิเกมตกปลา, โหมดเอาตัวรอด (Survival Mode), เนื้อหาเสริม Saints & Seducers และ Rare Curios

มินิเกมตกปลา

ไม่ต้องโดดลงน้ำไปจับปลาแบบเดาสุ่มอีกต่อไปเมื่อเราสามารถตกปลาได้ในระบบที่เพิ่มเข้ามาใหม่ แต่ความจริงการตกปลาก็ไม่ได้อิสระนักเพราะเราต้องตกปลาใน Fishing Spot ที่ระบุไว้เท่านั้น ส่วนวิธีการก็ไม่ยาก แค่เปลี่ยนมาถือเบ็ดตกปลาและไปยังจุดตกปลาที่ระบุไว้ จากนั้นก็กด E เพื่อเริ่มตกปลา และเมื่อปลากินเบ็ดก็กด E อีกครั้งเท่านี้ก็เรียบร้อย

มินิเกมตกปลาจะปลดล็อกหลังจากเราพบจุดตกปลาแห่งแรก (อยู่ใกล้กับ Standing Stone หลังออกจาก Helgen) ซึ่งที่นั่นจะมีเบ็ดฟรีให้เก็บและหนังสือสอนวิธีตกปลาในโลก Skyrim ซึ่งปลาที่ได้มานั้นนอกจากนำมาใช้เป็นวัตถุดิบทำอาหารแล้วเรายังสามารถนำปลาไปใส่ไว้ในตู้ปลาที่บ้านได้อีกด้วย

ส่วนใครเผลอทิ้งเบ็ดฟรีหรือเผลอขายไปก็ไม่ต้องกังวล เพราะเราสามารถซื้อเบ็ดตกปลาและแผนที่จุดตกปลาของแต่ละเมืองได้จากร้านค้า เรียกได้ว่าสะดวกสบายกันสุด ๆ ไปเลย

โหมดเอาตัวรอด (Survival Mode)

เปลี่ยนประสบการณ์การเล่น Skyrim ให้ท้าทายขึ้นด้วยโหมดเอาตัวรอด ที่ตัวละครของเราจะมีความเหนื่อย ความหิว รู้สึกหนาวหรือร้อน แบกของได้น้อยลง ไม่สามารถเดินทางแบบ Fast Travel ได้ และจะเลเวลอัปเมื่อนอนหลับเท่านั้น ถือว่าเป็นระบบที่ทำให้เกมสนุกขึ้นพอสมควร อาหารในเกมจะไม่ใช่แค่ของประดับโต๊ะอีกต่อไป เหมาะสำหรับคนที่ชอบความท้าทายและความสมจริง ซึ่งเราสามารถเปิด-ปิดโหมดเอาตัวรอดได้ตลอดเวลา

Saints & Seducers และ Rare Curios

เนื้อหาเสริม Saints & Seducers เป็นเนื้อหาที่เพิ่มชุด อาวุธ และของอย่างอื่นเข้ามาให้เราเล่น รวมถึงเควสต์ใหม่ ๆ ให้ทำ ส่วน Rare Curios เป็นการนำไอเทมจากภาค Morrowind, Oblivion และ Shivering Isles ใส่เข้ามาในเกมโดยเราสามารถหาได้จากการซื้อของจากคาราวานของ Khajiits

อัปเกรดเป็น The Elder Scroll V: Skyrim Anniversary Edition ดีไหม?

หลังจากลองเล่นแล้วเราพบว่าตัวเกมยังมีบัคอยู่บ้าง โดยขอแยกเป็น 2 กรณีคือสาย Vanilla และสาย Mod

สำหรับสาย Vanilla หรือผู้เล่นที่เล่นเฉพาะตัวเกมเดิม ๆ ไม่ได้ลงเนื้อหาปรับแต่งเพิ่มเติม การอัปเกรดเป็น Anniversary Edition อาจดูคุ้มค่าเพราะได้ทั้งระบบการเล่นใหม่ที่เข้ามาเสริมความสนุกรวมถึงได้เนื้อหาปรับแต่งแบบมัดรวมจาก Creation Club กว่า 500 รายการมาด้วย แต่ถึงจะไม่เคยลงเนื้อหาปรับแต่งมาก่อน ผู้เล่น Vanilla ก็อาจพบปัญหาเกม Crash หรือจอดำได้หลังการอัปเกรดตัวเกม ซึ่งล่าสุดทาง Bethesda ได้ออกแพตช์มาแก้ไขปัญหานี้แล้วเรียบร้อย

ส่วนผู้เล่นสาย Mod อาจไม่ปลื้มการอัปเกรดครั้งนี้เท่าไรนัก เพราะเนื้อหาปรับแต่งที่เคยลงไว้อาจใช้งานไม่ได้ในทันทีแถมผู้พัฒนาหลายรายก็ประกาศไม่พัฒนา Mod ให้รองรับ Anniversary Edition ด้วย เช่น Mod สามัญประจำบ้านอย่าง SKSE ก็ไม่รองรับตัวเกมเวอร์ชันใหม่และผู้พัฒนาก็ยังไม่มีแผนอัปเดต Mod ด้วย หรืออย่าง Mod Unofficial Skyrim ที่ช่วยแก้บัคหลาย ๆ อย่างในเกมก็ไม่รองรับตัวเกมใหม่เช่นกัน ดังนั้นสำหรับผู้เล่นกลุ่มนี้การอัปเกรดอาจไม่ตอบโจทย์เท่าไรนัก

สรุป

The Elder Scroll V: Skyrim Anniversary Edition ถือเป็นการอัปเดตครั้งใหญ่ของ Skyrim ที่อาจไม่ได้เหมาะกับทุกคน เพราะตัวเกมไม่รองรับเนื้อหาปรับแต่งเก่า ๆ ผู้เล่นที่ลงเนื้อหาปรับแต่งเอาไว้เยอะ ๆ หรือรักการปรับแต่งเกมด้วยตัวเองอาจไม่ถูกใจเท่าไร แต่อาจถูกใจผู้เล่นสาย Vanilla มากกว่าเพราะไม่ต้องยุ่งยากลงเนื้อหาปรับแต่งเองและยังได้ลองลูกเล่นใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในเกมแบบไม่ต้องกลัวปัญหาจากการลง Mod เดิมเอาไว้ ที่สำคัญยังมีชุดและอาวุธใหม่ ๆ สวย ๆ ให้เล่นด้วย

The Elder Scroll V: Skyrim Anniversary Edition วางจำหน่ายในราคา 1,149 บาท (ได้ตัวเกม The Elder Scrolls V: Skyrim Special Edition และ The Elder Scrolls V: Skyrim Special Edition) ส่วนผู้เล่นที่มี The Elder Scrolls V: Skyrim Special Edition อยู่แล้ว สามารถอัปเกรดได้ในราคา 660 บาท

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส