รีวิว Lenovo Legion Y7000 Gaming Notebook ที่แรงจัดหนัก ราคาเริ่มต้น 36,990 บาท
Our score
8.4

Lenovo Legion Y7000

จุดเด่น

  1. สเปกเครื่องดีมากทั้ง CPU และการ์ดจอเมื่อเทียบกับราคาค่าตัว
  2. ขนาดเล็กกว่า Gaming Notebook ทั่วไป
  3. หน้าจอ 144Hz จัดเต็ม และกางได้ 180 องศา ซึ่งแทบไม่มี Gaming Notebook ไหนทำมาก่อน
  4. ดีไซน์สวยงาม เหมาะกับเกมเมอร์
  5. มีพอร์ตให้เชื่อมต่อเยอะมากทั้งด้านข้างและด้านหลังของเครื่อง

จุดสังเกต

  1. Adapter มีขนาดค่อนข้างใหญ่และหนักมาก
  2. Layout ของคีย์บอร์ดมีการปรับเปลี่ยนบางจุด ทำให้การใช้งานช่วงแรก ๆ อาจจะไม่ชินนัก
  3. หน้าจอไม่เหมาะกับการทำงานด้านกราฟิกที่ต้องการโทนสีที่แม่นยำสูง
  • รูปลักษณ์ ดีไซน์ภายนอก

    8.5

  • น้ำหนัก

    7.5

  • สเปกเครื่องโดยรวม

    9.0

  • พอร์ตที่รองรับ

    9.0

  • ราคา

    8.0

สำหรับคนชอบเล่นเกมแล้ว สิ่งที่หลายคนมองหานั่นคือ Gaming Notebook ที่จะมาตอบโจทย์ในการเล่นเกมของเรา แต่ยิ่งสเปกแรง ราคาก็ยิ่งแรงตามไปด้วย แต่ถ้าเรามี Notebook สเปกแรง ในราคาที่จับต้องได้ จะน่าสนใจขนาดไหน ครั้งนี้ beartai จะมารีวิว Lenovo Legion Y7000 ซึ่งถือได้ว่าเป็นโน้ตบุ๊กที่ออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์ที่มีงบกลาง ๆ สามารถจับต้องได้ จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง รู้กันที่นี่

รายละเอียดสเปก
หน่วยประมวลผล
  • 9th Gen Intel®Core™ i7-9750H 2.6 GHz
ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home
กราฟิก
  • NVIDIA®GeForce RTX™ 2060 6GB DDR6
  • NVIDIA®GeForce®GTX 1650 4GB DDR5
จอแสดงผล
  • หน้าจอ 15.6 นิ้ว Full HD (1920 x 1080) IPS (144 Hz / ขอบเขตสี 72% / 300 nits)
หน่วยความจำ
  • 8 GB DDR4 2666MHz (up to 32GB 2slot)
  • 16 GB DDR4 2666MHz (up to 32GB 2slot)
แบตเตอรี่
  • 57 วัตต์/ชั่วโมง
  • 52.5 วัตต์/ชั่วโมง
พื้นที่จัดเก็บ 512GB NVMe SSD M.2 (HDD 2.5” support)
ระบบเสียง 2 x 2W Harman® Speakers with Dolby Atmos
ขนาด (กว้าง x ลึก x สูง) 360 มม. X 267 มม. X 23.9-25.6 มม. / 14.17 x 10.51 x 0.94-1.01 นิ้ว
น้ำหนัก เริ่มต้น 2.2 กิโลกรัม
คีย์บอร์ด ไฟพื้นหลังสีแดง
สี ดำราเวนแบล็ก
การเชื่อมต่อ
  • 802.11 AC 1×1 W-iFi + Bluetooth® 4.2
  • 1000M LAN
พอร์ต/สล็อต
  • USB-C
  • 3 x USB 3.1 (Gen 1)
  • ช่องหูฟัง / ไมโครโฟนคอมโบ
  • Mini DisplaPort™ 1.4
  • HDMI™ 2.0
  • ช่องต่อแลน RJ45
  • ช่องล็อก Kensington
พรีโหลดซอฟท์แวร์
  • Lenovo Antivirus
  • Lenovo Nerve Center
  • Lenovo PC Manager
  • Lenovo Vantage
  • McAfee LiveSafe™ ทดลองใช้
  • Microsoft LinkedIn
  • Microsoft Office Home and Student 2019
  • PowerDVD/Power2Go

ภาพรวมของ Lenovo Legion Y7000

ดีไซน์ภายนอก

เริ่มต้นเลยหลายคนที่มองหา Gaming Notebook ก็ต้องดูกันที่ดีไซน์ภายนอกก่อนเลย ซึ่ง Lenovo Legion Y7000 ตัวนี้ออกแบบมาด้วยดีไซน์สวยหรู ดุดันสไตล์เกมมิง โดยเฉพาะ Logo ของ Legion ที่เรืองแสงสีแดงด้านหลังเครื่อง ซึ่งเวลากางเครื่องออกมาไม่ได้อยู่สุดขอบเหมือนโน้ตบุ๊กรุ่นอื่น ๆ แต่จะกินขอบเข้ามาเล็กน้อยเนื่องจากด้านหลังเป็นพอร์ตเชื่อมต่อต่าง ๆ นั่นเอง โดยเครื่องมาพร้อมความหนาของตัวเครื่อง 24 มิลลิเมตรและหนัก 2.2 กิโลกรัม ทำให้สามารถพกพาได้ง่ายกว่า Gaming Notebook ทั่วไปมาก และอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ มันสามารถกางได้สูงสุด 180 องศาอีกด้วย

สเปก

สำหรับสเปกของ Lenovo Legion Y7000 ตัวนี้มาพร้อม CPU ตัวล่าสุด 9th Gen Intel® Core™ i7 processor และในรุ่น i7-9750H 2.6 GHz ที่รับรองได้เลยว่าสามารถรองรับการเล่นเกมได้อย่างสมบูรณ์แบบ และมีให้เลือกการ์ดจอ 2 รุ่นคือ NVIDIA®GeForce RTX™ 2060 จัดเต็มหรือ NVIDIA®GeForce®GTX 1650 สำหรับงบระดับกลาง

หน้าจอ

หน้าจอ 15.6 นิ้ว Full HD (1920 x 1080) แบบ IPS Framerate 144 Hz ให้ความรู้สึกในการเล่นเกมที่ลื่นไหลแบบสุด ๆ โดยเฉพาะเกมสำหรับ eSports ที่ต้องใช้ความรวดเร็วในการตัดสินใจก็น่าจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี แต่ในด้านการใช้งานด้านทำกราฟิก แต่งภาพ อาจจะต้องระวังเรื่องสีที่แสดงผลไม่ตรงได้ (เพราะมีการแสดงขอบเขตสีอยู่ที่ 74%) ถือว่าโดยรวมค่อนข้างตอบโจทย์สำหรับคนที่ใช้งานทั่วไปและใช้งานด้านการเล่นเกม

คีย์บอร์ด/ Touchpad

คีย์บอร์ดก็เรียกได้ว่าออกแบบมาเป็นอย่างดี สามารถป้องกันการกดผิดพลาดได้ 100% พร้อมกัดตัวอักษรด้วยเลเซอร์จึงไม่มีลอกเวลาใช้ไปนาน ๆ พร้อมอัตราการตอบสนองที่น้อยกว่า 1 ms และระยะกดเพียง 1.7 มม. ก็เรียกได้ว่าเป็นคีย์บอร์ดที่ออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์ก็ว่าได้ แต่มีจุดสังเกตเล็กน้อยตรงการจัดวางของปุ่มบางปุ่มเปลี่ยนไป อาจทำให้ไม่คุ้นชินในช่วงแรก ๆ ของการใช้งานได้ ในส่วนของ Touchpad ก็ออกแบบมาเหมือนกับโน้ตบุ๊กทั่วไป สามารถคลิกสั่งการผ่าน Touchpad โดยตรงได้ทั้งคลิกซ้าย คลิกขวา(กด 2 นิ้วพร้อมกัน) หรือจะกดปุ่มด้านล่างที่มีมาให้ก็ได้เช่นกัน

พอร์ตเชื่อมต่อ

ต่อกันด้วยเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อที่แปลกตากว่า Notebook ทั่วไป เพราะมีการใช้ด้านหลังของเครื่องเป็นจุดเชื่อมต่อแทบทั้งสิ้น ส่วนด้านซ้าย – ขวาจะเหลือเพียงพอร์ต USB 3.1 และพอร์ตหูฟัง 3.5mm ให้เชื่อมต่อเพียงอย่างเดียว ส่วนด้านหลังจะมีพอร์ต 7 ช่องดังนี้

  • USB-C
  • Mini DisplayPort™ 1.4
  • HDMI™ 2.0
  • ช่องต่อแลน RJ45
  • USB 3.1
  • ช่องเสียบสายชาร์จ
  • ช่องล็อก Kensington

ก็เรียกได้ว่าครบครันแบบสุด ๆ แถมที่สำคัญการที่พอร์ตไปอยู่ด้านหลัง ก็ทำให้ไม่เกะกะเวลาต่อสายต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

ระบบระบายความร้อน

มีระบบระบายความร้อน 4 ทิศทางในชื่อ Coldfront ให้การระบายความร้อนที่ยอดเยี่ยมเหนือเกมมิ่งโน้ตบุ๊กทั่วไป โดยด้านใต้ของเครื่องเราจะเห็นตะแกรงกรองฝุ่นและพัดลมระบายความร้อน 2 ตัวใหญ่ Dual blower Fan จัดเต็ม พร้อมช่องระบายความร้อน 4 ทิศทาง ทำให้การเล่นเกมของคุณนั้นไม่มีกระตุกเพราะเครื่องร้อนอย่างแน่นอน

ลำโพง

อีก 1 ความน่าสนใจของเครื่องนี้คือมาพร้อมกับลำโพงคุณภาพสูงจาก Harman Kardon ขับผ่านระบบเสียง Dolby Atmos จึงทำให้ประสบการณ์ในการเล่นเกมหรือดูหนัง ฟังเพลงสมจริง จัดเต็มทุกรายละเอียดเสียง

ทดสอบการเล่นเกม

มาถึงส่วนสำคัญของ Gaming Notebook นั่นคือการเล่นเกม ซึ่งแน่นอนว่าสเปกที่จัดมาให้นั้นสามารถเล่นเกมยุคปัจจุบันได้ทุกเกมในระดับ Medium ไปจนถึง Very High ขึ้นอยู่กับกราฟิกของแต่ละเกม โดยสามารถแสดงผลภาพได้ในระดับ 60 fps ขึ้นไปแบบสบาย ๆ ส่วนเกมแนว eSports ที่กินสเปกไม่มากนั้นจะสามารถใช้ประสิทธิภาพของหน้าจอ Refresh rate สูงสุด 144 Hz ได้อย่างเต็มที่

โดยการทดสอบกับเกมภาพสวย ๆ ก็สามารถแสดงผลออกมาได้อย่างดีเยี่ยม Framerate ของภาพค่อนข้างนิ่งไม่มีแกว่ง และระบบระบายความร้อนที่ค่อนข้างดี ก็ทำให้เราเล่นเกมในห้องแอร์ได้ยาวนานโดยไม่ต้องกังวลว่าเครื่องจะร้อน แต่ถ้าเล่นภายนอกอาจจะต้องพักเครื่องอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องร้อนเกินไป

และที่สำคัญ 1 ในสิ่งที่ Gaming Notebook ในรุ่นราคานี้ไม่สามารถทำได้ นั่นคือการต่อจอแยก 3 จอ ซึ่งตัวนี้นั้นสามารถทำได้ด้วยการที่เขามีทั้งพอร์ต Mini DisplayPort™ 1.4 และพอร์ต HDMI™ 2.0 มาให้ งานนี้เล่นเกมได้จัดเต็มขั้นสุดไปเลย

ทดสอบ Benchmark

สำหรับการทดสอบ Benchmark นั้นจะใช้ 3 ตัวหลัก ๆ คือ Geekbench 5, PCmark 8 และ 3DMARK ได้ผลคะแนนออกมาดังนี้

GeekBench 5

สำหรับคะแนนของ GeekBench 5 ออกมาค่อนข้างน่าพอใจ โดยคะแนนทั้ง CPU และ GPU ออกมาได้มาค่อนข้างสูงเลยทีเดียว

PCMARK 8

สำหรับคะแนนของ PCMARK 8 ถือได้ว่าสูงใช้ได้ บอกเลยว่าใช้งานทั่วไปไม่มีปัญหาแน่นอน

3DMARK

ปิดท้ายด้วยคะแนนจาก 3DMARK Time Spy ผลออกมาที่ 3,702 คะแนน อยู่ในเกณฑ์โอเคสำหรับการเล่นเกมจัดเต็ม

แบตเตอรี่

อีก 1 สิ่งสำคัญของโดยแบตเตอรี่ของ Lenovo Legion Y7000 จะอยู่ที่ 57 วัตต์/ชั่วโมง สำหรับการใช้งานทั่วไปนั้นจะสามารถใช้งานได้ประมาณ 3 – 6 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับการใช้งาน แต่ถ้าเล่นเกมหนัก ๆ ก็จะเหลือเพียง 1:30 ชั่วโมงโดยประมาณ

แต่อย่างไรก็ตาม Lenovo Legion จะมีระบบ Lenovo Vantage ที่ติดตั้งมากับ Windows 10 Home edition ซึ่งมีความน่าสนใจ โดยโปรแกรมนี้จะสามารถดูรายละเอียดของอุปกรณ์ของเครื่องเราได้ และยังสามารถปรับแต่งรายละเอียดได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นระบบ Conservation Mode ที่เหมาะสำหรับคนชอบเสียบปลั๊กใช้งานตลอดเวลา โดยระบบจะป้องกันไม่ให้ชาร์จไฟมากกว่า 60% เพื่อช่วยเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้ หรือจะเปิด Rapid Mode ที่จะช่วยให้เราชาร์จไฟเข้าได้เร็วยิ่งขึ้น ไม่เกิน 1 ชั่วโมงครึ่งก็แบตฯ เต็มแล้ว

Lenovo Legion Y7000 มาพร้อม AC Adaptor ขนาด 170W ที่ใหญ่จัดหนักจัดเต็มอีกด้วย (แถมหัวชาร์จยังเสียบได้ทั้ง 2 ด้านเหมือน USB-C อีกต่างหาก)

นอกจากนี้ตัว Lenovo Vantage ยังมี Toolbar สำหรับการเรียกใช้งานแบบง่าย ๆ ทำให้เราไม่ต้องเปิดตัวโปรแกรมหลักก็สามารถตั้งค่าต่าง ๆ เช่น Rapid Charge, Conseavation Mode เปิด/ปิด ไมค์ หรือ Touch Pad หรือโหมด Dolby Atmos ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย

ราคา

ปิดท้ายด้วยราคาค่าตัวของ Lenovo Legion Y7000 มีราคาเริ่มต้นที่ 36,990 บาทไปจนถึง 52,990 บาท แถมมาพร้อม Microsoft Office Home and Student 2019 แบบตลอดอายุการใช้งาน มูลค่า 4,290 บาท และประกันถึง 3 ปีเต็มแบบ On-site Service อีกด้วย โดยรวมก็เรียกได้ว่า Lenovo Legion Y7000 รุ่นนี้สามารถตอบโจทย์เกมเมอร์ที่มีงบระดับกลางได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้าคุณรู้สึกว่ายังแรงไม่พอก็สามารถเลือกอัปเกรดสเปกเพิ่มได้ได้ตามใจคุณเลย โดยวางจำหน่ายแล้วที่ Lenovo Exclusive Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

 

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส