[Review] Intel Core I5-10600K สุดยอด CPU รุ่นกลาง พร้อมกับความแรงที่ไม่แพ้ใคร
Our score
9.0

Intel Core i5-10600K

จุดเด่น

  1. ราคาที่ไม่สูงมาก หากเทียบกับรุ่นก่อน ๆ
  2. ประสิทธิภาพแบบ single-threaded ที่ดีกว่าเจ้าอื่น ๆ
  3. ใช้พลังงาน และ ความร้อนที่ไม่เยอะมากสักเท่าไร

จุดสังเกต

  1. ไม่รองรับ PCI-E 4.0
  2. เอาชนะคู่แข่งไม่ได้ในการทำงานแบบ multi-threaded

ก่อนหน้านี้เราได้ Review CPU ตัว Top ของ Intel 10th Gen ไปแล้วอย่าง Core i9-10900K (อ่านรีวิวคลิก) ทำให้เราได้รู้ถึงประสิทธิภาพสูงสุดของ Intel CPU ใน Gen นี้แล้ว มาวันนี้เรามาดูน้องเล็กใน Gen เดียวกันอย่าง Intel Core i5-10600K ที่เป็นรุ่นสูงสุดของตระกูล i5 กันบ้างครับ โดยต้องบอกเลยว่าถึงแม้จะขึ้นชื่อว่าเป็น Core i5 แต่ประสิทธิภาพนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่ารุ่นอื่น ๆ เลย

Intel Core I5-10600K

Intel Core i5-10600K นั้น เป็น CPU ตระกูล Comet Lake แน่นอนว่ายังเป็น CPU ขนาด 14nm โดยเจ้าตัวนี้จะมาพร้อมกับ 6 Cores, 12 Threads โดยมี Baseclock อยู่ที่ 4.1 GHz สามารถ Turbo Boost ไปสูงสุดที่ 4.8 GHz มีค่า TDP อยู่ที่ 125W ตัว CPU ได้ปลดล็อกมาให้แล้วสำหรับสาย Overclock และยังมาพร้อมกับ ชิปกราฟิก Intel UHD Graphics 630 ครับ

โดยรวมแล้วสเปกนั้นค่อนข้างจัดเต็มในทุก ๆ ด้าน ที่น่าสนใจคือจำนวน Threads ที่เพิ่มขึ้นมากว่าเดิมเยอะมากวัดจากรุ่นก่อน ๆ ทำให้พูดได้เต็มปากว่า Intel เริ่มจะไม่กั้ก แล้วนั้นเอง แน่นอนว่าสเปกเครื่อง PC ที่ผมใช้ Review เจ้า CPU ตัวนี้ก็เป็นสเปกบ้าน ๆ เช่นเคยครับ โดยเป็นตัวเดียวกับที่รีวิว i9-10900K ไปเลย แต่แค่เปลี่ยน CPU มาเท่านั้นเอง

  • CPU:  Intel Core i5-10600K
  • RAM: G.Skill 16GB(8*8) DDR4 3000 Dual Channel
  • VGA: Nvidia Geforce GTX 1070Ti 8GB
  • Mainboard: Asus ROG MAXIMUS XII EXTREME
  • PSU: Thermaltake Smart RGB 600W 80 Plus

ผลรีวิว Intel Core i5-10600K


Benchmark


PCMark 10

5,933 Valid score


3DMark Timespy

คะแนนรวม 6581, CPU Score 7900


Cinebench R20

คะแนน CPU 3427 คะแนน Single Core 476


PassMark Performance Test

คะแนน CPU 14569


Game Benchmark


ต้องบอกเลยว่าผลที่ออกมาทั้งหมดค่อนข้างน่าพอใจเป็นอย่างมาก Intel Core i5-10600K สามารถเอาอยู่ได้ทุกเกม จากการทดสอบผมได้ปรับกราฟิกไว้สูงสุดทั้งหมด MAX Setting เท่าที่เกมจะปรับได้ และเล่นที่ความละเอียด 1920*1080 Full HD ผลที่ออกมานั้นอยู่ในระดับน่าพอใจ และเอาอยู่ได้ทุกเกมจริง ๆ

Red Dead Redemption 2 Benchmark Mode

เริ่มจาก Red Dead Redemption 2 เกมที่มีปัญหาในเรื่องการ Optimization อยู่มาก และยังเป็นเกมที่มี Graphics Setting Option ให้เลือกปรับเยอะมาก ๆ ถึงแม้ว่าตัวเกมจะเน้นความสามารถของ GPU เป็นหลัก แต่การที่มันเป็นเกม Open World บทบาทของ CPU ก็จะมีผลอยู่มากเช่นกันครับ โดยผมได้ทดสอบทั้งระบบ Benchmark ภายในเกม และการเล่นจริง ก็พบว่าตัวเกมทำ FPS ได้ที่ 40-45 avg ถือว่าออกมาน่าพอใจมากครับ

Civilization VI Benchmark Mode

เกมต่อไปอย่าง Civilization VI ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมาก ตัวเกมรันถึง 110+ Fps avg ได้สบาย ๆ และเกมต่อไปอย่าง Total War: THREE KINGDOMS ก็เล่นได้อย่างสบาย ๆ เช่นกันที่ 57 FPS avg รวมไปถึงเกม RTS อีกเกมที่ผมติดมากในช่วงนี้อย่าง Company of Heroes 2 ก็มี FPS ที่อยู่ 75avg และเกมสุดท้ายอย่าง Conqueror’s Blade เกมที่มี Unit มากกว่า 1000 ตัวก็สามาถรันได้ที่ 68 fps avg ครับ

Rainbow Six Siege Benchmark Mode

เกมต่อมาอย่าง Rainbow Six Siege จริง ๆ เกมนี้มันมีความจำเป็นต้องนำเอามา Benchmark สักเท่าไร แต่ก็อย่างเคยครับ เพราะผมเล่นมันอยู่ทุกวัน จะเอามันมา Benchmark หน่อยก็คงไม่เสียหาย และแน่นอนว่าตัวเกมก็เล่นได้สบาย ๆ ที่ 123 FPS avg ครับ

Grand Theft Auto V Benchmark Mode

นอกจากนี้ก็ยังมีเกมอย่าง Fallout 76, GTA V, No Man’s Sky, Cities Skylines โดยทุกเกมทำ FPS ได้มากกว่า 60FPS ทุกเกมและแน่นอนกับ GTA V ที่เป็นเกมเก่ามากแล้ว แต่ก็ยังฮิต ทำ FPS ได้มากกว่า 140 FPS avg ครับผม


พลังงาน และ ความร้อน


Intel Core i5-10600K นั้นสามารถจัดการพลังงานและความร้อนได้ดีกว่าตัว i9-10900K มากครับ ทั้ง ๆ ที่ความสามารถไม่แตกต่างกันมากนัก (ในด้านการเล่นเกม) แต่ถ้าหากพูดถึงด้านการทำงาน หรือการใช้งานทั่วไป แน่นอนว่าทั้งความร้อน และการใช้พลังงานนั้นน้อยกว่าตัว i9-10900K มาก เพราะด้วยจำนวน CT ที่น้อยกว่านั้นเอง

ผลทดสอบความร้อนทั้งหมดนั้นเป็นการใช้งานผ่าน Heatsink ธรรมดาทั่วไป และมีอุณหภูมิห้องอยู่ที่ประมาณ 32-33 องศาเซลเซียส ผมได้ใช้ Thermal Compound ที่ดีมีคุณภาพอย่าง Arctic MX-4

จากการทดสอบความร้อนและพลังงานเบื้องต้นใน Idle Mode โดยผมได้เปิดใช้งาน PC มาทั้งวัน และมีการเล่นเกมมาบ้างแล้ว หลังจากปล่อยทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง โดยขณะที่กำลังใช้งาน Opera Web Browser เพื่อเขียนบทความนี้ CPU มีความร้อนอยู่ที่ 46c และใช้ไฟไป 53w ครับ

ภาพขณะกำลัง Stress Test

ต่อมาคือการ Stress Test และ Cinebench R20 ครับ แน่นอนว่าก่อนเริ่ม PC ก็ได้อยู่ใน Idle Mode และขณะที่กำลัง Benchmark CPU มีความร้อนอยู่ที่ 77-82c และใช้พลังงานสูงสุดอยู่ที่ 170-180w และอีกครั้งที่ผมขอย้ำว่าเป็นการทดสอบผ่านซิงก์ระบายความร้อนธรรมดา ๆ ที่ไม่ได้ดีเด่นอะไรเลย และมีราคาที่ไม่สูงมากครับ

ส่วนอุณหภูมิความร้อนระหว่างเล่นเกมนั้นก็อยู่ที่ 50-60c ครับ ใช้พลังงานอยู่ที่ 70-80w โดยจากผลทดสอบทั้งหมด ทำให้ผมรู้สึกเลยได้เลยว่า Core i5-10600K นั้นค่อนข้างเหมาะกับการเอามา Overclock เพื่อต่อยอดความสามารถของมันไปอีกขั้นมาก ๆ

ราคาทั้งหมดของ Intel 10th Gen ตั้งแต่รุ่น i5-10600K

Intel Core i5-10600K นั้นเป็น Budget CPU ที่เหมาะสำหรับเกมเมอร์สาย Intel ที่กระเป๋าไม่หนักมากครับ เอาเข้าจริงแล้วมันเป็น CPU ที่มีประสิทธิภาพสูงอยู่มากถ้าเอาไปเปรียบเทียบกับ Gen อื่น ๆ ในรุ่นเดียวกัน เรื่องประสิทธิภาพในการเล่นเกมนั้นบอกเลยว่าสบาย ๆ หายห่วง แต่ถ้าเป็นเรื่องประสิทธิภาพของการทำงาน อันนี้ก็ต้องถามตัวเองดูก่อนว่าเราเน้นใช้งานไปในทางไหนครับ

สำหรับ Intel Core i5-10600K มีราคาค่าตัวอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 262 USD โดยราคาไทย ก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 89xx หรือ 9xxx ครับ สำหรับวันนี้ลาไปก่อน สวัสดีครับ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส