รีวิว Dyson Digital Slim Fluffy รุ่นใหม่ เบาลง แต่ดูดแรงเหมือนเดิม!
Our score
9.2

Dyson Digital Slim

จุดเด่น

  1. น้ำหนักเบากว่า Dyson รุ่นก่อนหน้านี้อย่างมาก ทำความสะอาดได้สนุกกว่าเดิม
  2. หัวเปลี่ยนที่ยังคงมีมาให้ครบครันพร้อมทุกสถานการณ์
  3. พกพาง่าย ใช้ได้ทุกที่ และสามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรีสำรองได้
  4. แรงดูดสูง ทำความสะอาดได้ดีจนไม่ต้องถูบ้านเพื่อขจัดฝุ่นซ้ำ

จุดสังเกต

  1. ถ้าใช้หมดอื่นนอกจาก Eco แบตเตอรีจะอยู่ได้ไม่นาน
  2. ราคาค่อนข้างแรงในระดับหนึ่งเมื่อเทียบในรุ่นใกล้เคียง
  3. ไม่สามารถดูดฝุ่นไปชาร์จไปได้
  4. ถังเก็บฝุ่นมีขนาดเล็ก จะต้องทิ้งฝุ่นบ่อย
  5. แต่ถ้าเทียบกับ Dyson รุ่นอื่นๆ ก็ถือว่าให้แรงดูดน้อยลง
  • รูปร่างลักษณะ

    10.0

  • ความสะดวกในการใช้

    9.0

  • ความสามารถในการทำความสะอาด

    8.5

  • ความยืดหยุ่นในการใช้งาน

    10.0

  • ความคุ้มค่า

    8.5

สำหรับคนที่มองหาเครื่องดูดฝุ่นที่มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบาพกพาสะดวก แถมยังดูดแรง สำหรับแบรนด์ Dyson นี้ถือว่าขึ้นชื่อในด้านนี้มาตั้งแต่ยุคแรก ๆ และเขาก็ยังคงพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาจนถึงปัจจุบัน และล่าสุดกับ Dyson Digital Slim Fluffy ที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับผู้ใช้คนไทยอย่างแท้จริง

อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มาในกล่อง

  • ตัวเครื่องที่มาพร้อมมอเตอร์ Hyperdymium ทำงานที่ 120,000 รอบต่อนาที ด้วยกำลัง 100 AW (ซึ่งน้อยกว่า Dyson V8 ที่มีแรงดูดสูงสุด 115 AW)
  • ฐานแบตเตอรีที่เราสามารถถอดเปลี่ยนได้ (เป็น Dyson รุ่นแรกที่ขายในไทย ที่เปลี่ยนแบตเองได้)
  • หัวดูดทำความสะอาด Slim™️ Fluffy
  • หัวดูดปากแคบพร้อมไฟส่อง
  • หัวดูด 2 in 1
  • หัวดูดมอเตอร์ขนาดเล็ก
  • คลิปล็อกเก็บด้ามดูด
  • ที่ชาร์จ
  • แท่นจัดเก็บอุปกรณ์

ดีไซน์

Dyson Digital Slim Fluffy มาพร้อมกับสีม่วงที่เราคุ้นเคยกันดี โดยมีวัสดุที่ถูกออกแบบมาค่อนข้างแข็งแรงทนทานเหมือนรุ่นก่อน ๆ ครับ แต่จุดเด่นเฉพาะของรุ่นนี้คือตัวเครื่องหลักได้มีการรวมเอาท่อไซโคลนกับมอเตอร์เป็นชิ้นเดียวกัน ทำให้เครื่องเล็กลงกว่าเดิม โดยมอเตอร์ Dyson Hyperdymium™ ตัวนี้ถูกออกแบบมาให้หมุนด้วยความเร็วถึง 120,000 รอบต่อนาที สามารถสร้างแรงดูดได้สูงสุด 100,000 G ก็เรียกได้ว่าจัดเต็มในเรื่องคุณภาพ และด้วยการดีไซน์นี้เอง ทำให้ตัวเครื่องโดยรวมมีน้ำหนักของตัวเครื่องที่ลดลงอย่างมาก โดยเหลือน้ำหนักเพียง 1.9 กิโลกรัมเมื่อประกอบเซ็ตมาตรฐานครับ

ความรู้สึกหลังการใช้งาน

จากการใช้งานจริงจังมาพักใหญ่ ๆ ก็เรียกได้ว่า Dyson Digital Slim fluffy ได้มีการออกแบบมาเหมาะสำหรับคนที่มองหาเครื่องดูดฝุ่นที่สามารถตอบโจทย์การทำความสะอาดได้ทุกสถานการณ์เลยครับ ด้วยน้ำหนักที่ออกแบบมาเหมาะมือ ทำให้เราสามารถทำความสะอาดตามส่วนต่าง ๆ ของบ้านได้โดยไม่เหนื่อยมากนัก

โดยเราสามารถเลือกปรับโหมดการทำงานได้ 3 โหมดหลัก ๆ คือ Eco, Med และ Boost ซึ่งเป็นโหมดความแรงสูงสุด แต่เอาจริง ๆ การทำงานด้วยโหมด Eco สามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 40 นาที พร้อมแสดงเวลาที่เหลืออยู่ ทำให้เราไม่ต้องกังวลว่าจะหมดระหว่างการทำงาน ซึ่งเวลา 40 นาทีนี้ก็ถือว่าค่อนข้างเพียงพอสำหรับการทำความสะอาดทั้งบ้านแล้วล่ะครับ แต่ถ้าเราเจอจุดไหนที่มีฝุ่นฝังแน่น เราก็เปิดโหมด Med ก็เพียงพอแล้วในการดูดให้สะอาดได้แล้ว แทบไม่ต้องเปิดใช้ถึงโหมด Boost เลยครับ

การดูดฝุ่นด้วยหัวดูดทำความสะอาด Slim™️ Fluffy ตัวหลักนี้ถือว่าค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ เพราะสามารถทำความสะอาดได้เอี่ยมดีเลยล่ะครับ โดยหัวดูด Fluffy นี้ยังมีน้ำหนักที่เบาลงกว่า 40% จากรุ่นทั่วไป และออกแบบมาพิเศษโดยให้แปรงคาร์บอนไฟเบอร์นั้นเย็บเข้าไปกับตัว Fluffy โดยตรง และใช้แกนภายในเป็นอลูมิเนียม ทำให้มีน้ำหนักเบาและแข็งแรงทนทานกว่าแกนพลาสติกแบบเดิมครับ ซึ่งหัวแปรงนี้ออกแบบมาสำหรับการทำความสะอาดพื้นผิวโดยเฉพาะพื้นผิวเรียบ ๆ ที่แม้จะเป็นซอกเล็ก ๆ ตามพื้นไม้ที่มีร่องเยอะ ๆ แบบนี้ก็สามารถทำความสะอาดได้ในระดับดีครับ

สำหรับหัวแปรงต่าง ๆ นอกเหนือจากนั้นที่แถมมาให้ก็ออกแบบมาให้ใช้งานได้เหมาะตามสถานการณ์เช่น หัวแปรงแบบ 2-in-1 ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ หัวดูดปากแคปที่มาพร้อมไฟส่อง ทำให้การดูดฝุ่นในซอกหลืบต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องคอยเปิดไฟฉายเอาไว้ โดยรวมถือว่าออกแบบมาให้เราใช้งานได้สะดวก ตอบโจทย์การทำความสะอาดทุกจุดภายในบ้าน รวมไปถึงการทำความสะอาดนอกบ้านอย่างการภายในรถยนต์นี่ก็ตอบโจทย์สุด ๆ

อีกเรื่องคือการเทผงฝุ่นสามารถทำได้ง่ายมาก ๆ แค่ดึงสลักสีแดงขึ้นมา ตัวฝาก็จะเปิดออกมาทันที เรียกว่าตอนแรก ๆ ใครที่ใช้ Dyson รุ่นอื่นมาอาจจะงง ๆ อยู่เล็กน้อย แต่พอใช้ไปซักพักก็จะรู้สึกได้เลยว่าการดึงสลักเพื่อเปิดแบบนี้สะดวกกว่าเดิมอยู่พอสมควรเลยครับ โดยจุดเด่นคือระบบฟิลเตอร์ที่มีให้ถึง 5 ชั้น ตั้งแต่ตัวถัง ตัวตาข่าย ตัวไซโคลน ฟิลเตอร์ก่อนมอเตอร์ และฟิลเตอร์หลังมอเตอร์ ทำให้เวลาดูดฝุ่นเราจะไม่รู้สึกว่ามีฝุ่นเล็ดรอดออกมาจากตัวเครื่องเลยครับ

แบตเตอรี

จุดที่หลาย ๆ คนสำหรับการใช้งานเครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สายกังวลก็คือเรื่องของแบตเตอรีครับ ซึ่ง Dyson Digital Slim Fluffy ออกแบบมาให้สามารถทำงานได้สูงสุด 40 นาทีในโหมด Eco และลดหลั่นกันไปสำหรับโหมดอื่น ๆ ซึ่งจุดเด่นสำคัญคือ เราสามารถถอดฐานแบตเตอรีออกมาเพื่อสลับได้ รวมไปถึงสามารถชาร์จแบตแยกได้อีกด้วย ทำให้เมื่อเราซื้อแบตเตอรีสำรองมาเสริม ก็จะสามารถทำความสะอาดได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีสะดุดครับ ส่วนวิธีการชาร์จเราสามารถเลือกที่จะติดตั้งเป็นฐานติดกำแพง หรือจะชาร์จแบบทั่ว ๆ ไปคือเอาอแดปเตอร์เสียบชาร์จปกติก็ได้เช่นเดียวกัน โดยการชาร์จเต็ม 1 ครั้งจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งถ้าเราต้องใช้งานต่อเนื่องจริง ๆ ก็แนะนำให้หาซื้อแบตเตอรีสำรองมาสลับใช้งานจะสะดวกกว่าครับ

จุดสังเกต

จุดสังเกตของ Dyson Digital Slim Fluffy รุ่นนี้ก็อยู่ที่โหมด Boost ที่กินไฟค่อนข้างหนักครับ ซึ่งเราสามารถใช้งานได้เพียง 5 นาทีเท่านั้นต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ซึ่งการชาร์จเต็มนั้นใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมงครึ่ง จึงเรียกได้ว่าโหมด Boost นี้ไม่เหมาะกับการใช้งานเท่าที่ควรครับ และที่สำคัญคือเราไม่สามารถดูดไปชาร์จไปได้อีกด้วย

อีกจุดหนึ่งคือถังเก็บฝุ่นมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนๆ ครับ คือรุ่นนี้มีถังเก็บฝุ่นขนาดแค่ 0.35 L เท่านั้น เทียบกับ Dyson V11 ที่มีความจุ 0.54 L ก็จะทำให้เราต้องทิ้งฝุ่นบ่อยหน่อยนะครับ

ราคา

ปิดท้ายด้วยราคาของ Dyson Digital Slim Fluffy รุ่นนี้อยู่ที่ 19,990 บาท โดยมาพร้อมอุปกรณ์ครบเซ็ตพร้อมใช้งานทันที สำหรับใครที่สนใจ ปัจจุบันสามารถซื้อได้แล้วผ่าน Dyson Brand Shop ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป ช่องทางร้านค้าออนไลน์ หรือจะซื้อผ่านเว็บไซต์ https://www.dyson.co.th/th-TH/digital-slim-fluffy ก็ได้เช่นกัน

ใครที่มองหาเครื่องดูดฝุ่นไร้สายพรีเมียมที่ตอบโจทย์การทำความสะอาดทุกรูปแบบ Dyson Digital Slim Fluffy ตัวนี้ก็ถือได้ว่าเหมาะสม ตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอนครับ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส