[Review] PLAYERUNKNOWN’S BATTLEGROUNDS เวอร์ชัน PS4 มาเข้าร่วมสนามรบกันได้ที่ Console บ้านคุณ !!
Our score
6.4

PLAYERUNKNOWN’S BATTLEGROUNDS

จุดเด่น

  1. Gameplay ที่สนุก เข้าถึงทุกคนได้ ไม่ยากง่ายจนเกินไป
  2. การบังคับที่ออกแบบมาดี
  3. Instantly Addicted

จุดสังเกต

  1. Graphics ,Performance สุดแสนจะห่วยแตก
  2. การตั้งค่าที่ไม่อิสระสักเท่าไร
  3. Microtransaction & Loot Box
  4. ราคาสูงเกินไปสำหรับเกมที่มี Content น้อยแค่นี้
  5. Patch ตามหลังเวอร์ชั่น PC อยู่มาก
  • GAMEPLAY

    8.0

  • GRAPHICS

    5.0

  • SOUND

    7.0

  • PERFORMANCE

    5.0

  • VALUE

    7.0

พักหลังๆ มานี่วงการเกมเรา มีประเด็นร้อนแรงให้พูดถึงอยู่มากครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีๆเรื่องร้ายๆ และต้องยอมรับว่าปี 2018 นี้ค่อนข้างที่จะมีแต่เรื่องร้ายๆออกมาเยอะมากเช่นกัน “PUBG” เองก็เป็นหนึ่งในประเด็นนั้นๆ ครับ ในช่วงต้นปี 2018 เป็นต้นมา PUBG ประสบปัญหาหลายอย่างมากมาย ด้วยจำนวนผู้เล่นที่ลดลงเรื่อยๆ ตัวเกมได้พยายามเข็นไปลงให้กับตลาด Console อย่าง Xbox One ก่อนที่จะโดนกระแสด่ากลับมา ถึงการที่ตัวเกม Optimize มาค่อนข้างแย่ จนถึงสิ้นปี PUBG ก็ได้ออกสู่ชาว PS4 กันสักที

แล้วมันก็ทำออกมาได้อย่างที่คิดจริงๆ

สำหรับ PUBG เอง เป็นที่ทราบกันดีว่าตัวเกมวางจำหน่ายให้กับเวอร์ชัน PC ไปก่อนที่จะนำเอามาลงให้กับ Xbox One แต่ผมก็เชื่อว่าคนที่กดเข้ามาอ่านบทความนี้ ล้วนแล้วแต่ต้องการที่จะรู้ว่าเกมนี้มันไปได้ดีไหมในเวอร์ชัน PS4 ซึ่งถ้าใครไม่อยากจะเสียเวลาอ่านอะไรมากมาย ผมแนะนำให้ข้ามไปย่อหน้าสุดท้ายได้เลย แต่ถ้าอยากจะรู้ลึกถึงรายละเอียด ก็มารับฟังไปพร้อมกันเลยครับ

สำหรับ PUBG ในเวอร์ชัน PS4 นั้นตัวเกมแน่นอนว่ามี Patch ตามหลังเวอร์ชัน PC อยู่แน่นอน ตัวเกมจะถูกออกแบบส่วนเสริมมาสำหรับ PS4 เองโดยเฉพาะโดยไม่อิงกับ Xbox One หรือ PC สักเท่าไรครับ นั้นรวมไปถึงการที่ตัวเกมต้องใช้ PS Plus ในการเล่นออนไลน์ (ก็มันเล่นได้แต่ออนไลน์นี่หว่า) รวมไปถึงระบบ Microtransaction ที่ผมจะพูดถึงอีกทีครับ สำหรับผู้เล่นที่ใช้ทั้งเครื่องธรรมดาและโปร แน่นอนว่าเล่นด้วยกันได้ปกติ

“และแน่นอนก่อนที่เราจะเข้ารีวิว ขอขอบคุณทาง PUBG Corp ที่ส่งมอบของขวัญสุดพิเศษ และตัวเกมที่ใช้ในการรีวิวครั้งนี้ด้วยครับ”


Playstation Battlegrounds


PLAYERUNKNOWN’S BATTLEGROUNDS หรือ PUBG เป็นเกม FPS TPS ที่มีระบบการเล่นเน้นเอาชีวิตรอดแบบ Battle Royale โดยมีจุดเด่นคือการเล่นแบบ Tactical ชั้นสูงที่ต้องใช้ความสามารถของผู้เล่นในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นการยิงและการฟัง รวมไปถึงการคาดเดา และแน่นอนคือต้องมีดวงเยอะๆ ตัวเกมเริ่มต้นจากการพัฒนาต่อยอดมาจาก Mod ของ Arma 3: King of the Hill ก่อนที่จะไปทำ H1Z1 King of the Kill และกลายมาเป็น PUBG ในที่สุด

ตัวเกมในเวอร์ชัน PS4 มันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับเวอร์ชันของ PC เลยสักนิดครับ และนั้นก็หมายถึงทั้งเรื่องบัค กราฟิก ทุกๆ อย่างก็ไม่ต่างอะไรกับของ PC ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นแล้วใครที่หวังว่าในเวอร์ชัน PS4 จะทำออกมาได้ดีกว่าของ PC ก็ต้องบอกเลยว่าคุณคิดผิดแล้ว สิ่งที่ดีกว่าก็น่าจะเป็นเรื่อง Hacker ที่โอกาสจะเจอเรียกได้ว่าเป็น 0 เลยทีเดียว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มี Hacker ก็จะไม่มี Cheater นะครับ เพราะใน PS4 มันจะมีอุปกรณ์ 3rd Party ที่ออกแบบมาให้ใช้เมาส์คียบอร์ด เล่นเกมได้ปกติเลย

เลือกจุดกระโดดขณะอยู่บนเครื่องบิน

สำหรับคนที่ไม่เคยเล่น ก่อนอื่นเรามาพูดถึงแนวเกมและการเล่นของมันก่อน สำหรับคนที่ต้องการอ่านถึงประสิทธิภาพการเล่นในเครื่อง PS4 ให้ข้ามไปหัวข้อต่อไปเลยครับ PUBG เป็นเกม Battle Royale โดยจะใช้รูปแบบการเล่นเป็น FPS, TPS (เวอร์ชัน PS4 ตอนนี้มีแค่ TPS) ผู้เล่นจะต้องเอาชีวิตรอดให้เหลือเป็นคนสุดท้าย จากผู้เล่นทั้งหมด 100 คน ใครอยู่คนสุดท้ายก็จะเป็นผู้ชนะ ก่อนเริ่มเกมผู้เล่นจะถูกส่งไปอย่าง Lobby ก่อนที่จะนับเวลาถอยหลัง 1 นาที และจะถูกส่งไปบนเครื่องบิน ได้กระโดดร่มลงมาตามจุดต่างๆในแผนที่ ผู้เล่นสามารถเลือกจุดกระโดดร่มเองได้

โดยระหว่างการเล่นจะมีการกำหนด Play Zone ให้ผู้เล่นอยู่ในโซนนั้นๆ ถ้าหากผู้เล่นไม่อยู่ในโซน หรือออกมานอกโซนการเล่น ก็จะโดน Damage Overtime ลดพลังชีวิตของผู้เล่นไปเรื่อยๆ จนตาย เพราะฉะนั้นผู้เล่นต้องมีการวางแผนตลอดการเดินทางใน Match นั้นๆให้ดี ตัวเกมจะมียานพาหนะให้เลือกใช้หลายแบบ ไล่ไปตั้งแต่มอเตอร์ไซค์ไปถึงรถตู้ ผู้สามารถเล่นกับเพื่อนได้สูงสุดถึง 4 คน โดยจะแบ่งเป็นโหมด DUO และ Squad ถ้ามาคนเดียว ก็สามารถจับคู่ร่วมกับคนอื่นๆได้เช่นกัน

อย่างที่ได้บอกไปในตอนแรกว่า PUBG เป็นเกมที่เน้นการเล่นแบบ Tactical สูงมาก เพราะฉะนั้นการที่เราจะถือปืนออกไปเป็น Rambo One Man Show ไล่เก็บศัตรูเพียงคนเดียว จึงไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำแบบนั้นไม่ได้ ตัวเกมเองก็มีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง สร้างสถานการณ์การต่อสู้ได้หลากหลายรูปแบบตามเหตุการณ์ เช่นตัวของผู้เล่นที่กำลังต่อสู้กับศัตรูคนนึงอยู่ อาจจะถูกผู้เล่นอีกหนึ่งคนยิงเข้าจากด้านหลังก็ได้

อีกสิ่งนึงที่ผมชอบมากๆ สำหรับ PUBG ก็คือการที่ตัวเกมเปิดโอกาสให้ผู้เล่นใช้อาวุธชนิดไหนก็ได้ตามความถนัดของผู้เล่นนี่แหล่ะครับ อาจจะฟังดูไม่พิเศษอะไร แต่ต้องบอกว่าเกมนี้ค่อนข้างจัดการกับเรื่องความสมดุลปืนได้ดีมากเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่นปืนชนิด SMG อย่าง Vector ที่เรียกได้ว่าเป็น Killing Machine เลยทีเดียวหากผู้เล่นใช้อย่างถูกวิธี หรือปืนพกติดตัว ที่ทำหน้าที่ของมันได้ค่อนข้างดีมากๆ แถมยังมีปืนอย่าง Glock 18 ที่เรียกได้ว่าเข้าขั้นโกงเลยทีเดียว

ในการต่อสู้ระยะกลางๆ ไปถึงระยะประชิดผู้เล่นบางคนอาจจะชอบใช้ปืน AR หรือ Shotgun ในการเข้าปะทะ แต่สำหรับผม SMG คือคำตอบ ไม่ว่าจะเป็น Vertor หรือ UMP-9 คือปืนที่ดีมากๆสำหรับตัวผมเอง รวมไปถึงการต่อสู้ระยะไกลๆ ตัวผมเลือกที่จะใช้ปืนอย่าง AR ติด Scope ระยะไกล หรือ Semi Auto Rifle แทนที่จะเป็นปืนประเภท Bolt Action อย่าง Kar98, AWP อะไรพวกนี้ครับ งานนี้ใครอยากจะสวมบทบาทเป็น Hitman หรือ 007 โดยการใช้ปืนพกทั้งเกมก็ทำได้ !!

เรื่องอาวุธภายในเกมนอกจากว่าจะมีให้เลือกใช้เยอะมากแล้ว แน่นอนว่าสามารถปรับแต่งเองได้เยอะมากๆ เช่นกัน เรื่องการแต่งปืนก็จะไม่ต่างอะไรกับเกมอื่นๆ ทั่วไป ปืนที่ดรอปอยู่ตามฉากจะไม่มีอะไรติดมาให้เลยครับ ผู้เล่นสามารถหาของแต่งปืนได้ตามฉากนี่แหล่ะ โดยมันจะแบ่งประเภทออกไปหลากหลายชนิด ไล่ไปตั้งแต่ลำกล้อง Scope ติดปืน ไล่ไปตั้งแต่ Red Dot, Holo, Acog และพวก Gripping ชนิดต่างๆ, Magazine ชนิดพิเศษ. Barrel ติดปืนหลากชนิด รวมไปถึง Suppressor โดยแต่ละชนิดก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ตามความชอบของผู้เล่นครับ เช่นตัวผมที่ชอบการใช้ Holo มากกว่า Red Dot เพราะติดมาจาก R6 Siege นี่แหล่ะ

นอกจากเรื่องอาวุธที่จำเป็นสำหรับผู้เล่นแล้ว พวกชุดเกราะต่างๆ ก็มีส่วนที่จะตัดสินชีวิตของเราเช่นกัน ใน PUBG อุปกรณ์ป้องกันจะมีแค่ 2 อย่างก็คือหมวก กับชุดเกราะ โดยตัวเกมจะแบ่งระดับของมันออกไว้เป็น 3 ระดับ ไล่ไปตั้งแต่ Level 1-3 แน่นอนว่าด้วยระดับที่สูงขึ้นมันก็จะเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันให้ดีขึ้นมากเช่นกัน ในส่วนของหมวก หากผู้เล่นโดนยิงทั้งๆที่ไม่มีหมวก ไม่ว่าจะเป็นในระยะไหนหรือปืนกระบอกไหนก็ตาม ผู้เล่นจะตายภายในนัดเดียวทันที เพราะฉะนั้นหาหมวกใส่ไว้ตลอดจะดีที่สุดครับ

นอกจากนี้แล้วตัวเกมก็จะมีของชนิดอื่นๆ ที่จำเป็นต่อตัวผู้เล่น เช่นอย่างยารักษา ผ้าพันแผล ยาแก้ปวด เครื่องดืมชูกำลัง โดยของพวกนี้จะช่วยเพิ่มพลังชีวิตให้ผู้เล่นที่บาดเจ็บจากการต่อสู้ครับ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ระเบิดชนิดต่างๆ ที่ถือว่าเป็น Key สำคัญที่จะช่วยสร้างความได้เปรียบของผู้เล่นเลยทีเดียว ของพวกนี้เราสามารถเก็บได้มากน้อยตามระดับกระเป๋าเก็บของที่ผู้เล่นสามารถหาเก็บได้ตามฉากนั้นแหล่ะครับ แน่นอนว่ามันก็ถูกแบ่งระดับไว้ 3 ระดับเช่นกัน

ใน PUBG เมื่อผู้เล่นอยู่รอดเป็นคนสุดท้าย หรืออยู่รอดเป็นทีมสุดท้าย ก็จะถือว่าชนะใน Match นั้นๆ ครับ เมื่อผู้เล่นชนะก็จะได้รับแต้มเงิน BP และค่าประสบการณ์สำหรับ Event Pass ที่ผมจะพูดถึงอีกที โดยเจ้าเงิน BP ที่ได้มานี้ผู้เล่นสามารถนำเอาไปชื้อกล่อง Loot Box หรือของ Skin แต่งตัวภายในเกมได้ผ่านร้านค้าในเมนูหลักของเกมเลยครับ Skin พวกนี้ก็จะแบ่งไปตั้งแต่ชิ้นส่วนหัวจรดเท้า รวมไปถึง Skin ปืนทุกชนิดในเกม โดยมีการแบ่งระดับความหายากง่ายเอาไว้ใส่โชว์คนอื่นในเกมนั้นเอง

และนั้นคือการมาของระบบ Microtransaction ที่ผู้เล่นสามารถใช้เงินจริงๆ เติมเงิน G-Coin ผ่าน PS Store เพื่อชื้อของที่ขายในร้านค้าภายในเกม โดยของพวกนี้บังคับให้ใช้ G-Coin ชื้อเท่านั้น ไม่สามารถใช้ BP ชื้อได้ ในขณะเดียวกันของที่ใช้ BP ชื้อได้ ก็จะไม่สามารถใช้ G-Coin ชื้อได้เช่นกันครับ (ระบบนี้จะแตกต่างกับของ PC เพราะของ PC ไม่มี G-Coin แต่จะเป็นการชื้อของที่ใช้เงินจริงตามราคาที่กำหนดไว้เลย) โดยเจ้า G-Coin พวกนี้มีราคาเริ่มต้นที่ 149 บาท 500 G-Coin แต่ของภายในเกมอย่าง Skin ปืน M416 ก็เริ่มที่ 700 G-Coin กันแล้ว


Playstation Performance


ต้องยอมรับจริงๆ ว่าถ้าพูดถึงเรื่อง Performance สำหรับเกมที่รีวิวใน PS4 ตัวผมเองพูดตามตรงว่าไม่ได้คาดหวังอะไรนักจากเครื่อง Console แต่มันก็มีหลายเกมที่ทำออกมาได้ดีตามกราฟิกที่ได้ แต่เมื่อมาถึง PUBG แล้วนั้น คำพูดเดียวที่ผมสามารถอธิบายได้ทั้งหมด มันก็คือความไม่น่าดู ไม่ลื่นไหลของเกมบน Playstation 4 ครับ (ส่วน PS4 Pro รอดนะ)

รูปจาก Digital foundry

อย่าเพิ่งร้อนใจกันไป PUBG ใน PS4 นั้น Run ที่ 1080p สำหรับเครื่องธรรมดา และ 1440p สำหรับเครื่อง Pro โดยที่ทั้งสองเครื่องจะเป็นการ Run แบบ Native Resolution ไม่มีการ Upscale ใดๆ ทั้งสิ้น แถมเครื่องเวอร์ชัน Pro ยังสามารถเปิดโหมด Supersampling ได้หากเล่นในหน้าจอที่ 1080p และยังมี Texture ที่ดูดีกว่าของเครื่องธรรมดามากๆ โดยผมขออนุญาตยกรูปมาจาก Digital foundry เพื่อแสดงให้เห็นถึง Texture ภายในเกมของทั้งสองเวอร์ชันครับ

ที่นี้เรามาพูดถึงเรื่อง Frame Rate สำหรับเกมที่เน้นการเล่น PVP แบบนี้ Frame Rate คือสิ่งที่สำคัญมากๆ แน่นอนว่าตัวเกม Lock Frame Rate ไว้ที่ 30 ตลอดทั้งเกม และเป็นไปตามที่คิดก็คือเครื่องธรรมดานั้นมีเฟรมร่วงให้เห็นอยู่ตลอดทั้งเกม สำหรับเครื่อง Pro ก็พอมีให้เห็นบ้างเพียงเล็กน้อย สำหรับปัญหาเรื่องการโหลด Texture ไม่ทันของเวอร์ชัน Xbox One ก็ต้องขอขอบคุณ PS4 ตัวธรรมดาที่แรงกว่า ทำให้ไม่มีปัญหานั้นเลยครับ

ยิ่งตอนกระโดดร่มนี่ RIP Frame Rate

แต่นี่เรากำลังพูดถึงปี 2018 เกมที่ Lock Frame Rate ไว้ที่ 30 ถ้าหากเราใช้คำว่าร่วงตลอดทั้งเกม นั้นหมายความว่ามันจะลงมาเหลือ 20-25 และนั้นก็แสดงให้เห็นถือการกระตุกที่แทบจะเล่นไม่ได้ หลายๆ คนอาจจะคิดว่าผมเรื่องมากไป หรือคิดว่าเครื่องธรรมดามันก็ทำได้แค่นี้ต้องเล่นเครื่อง Pro สิ ผมอยากให้มองไปอย่างเกมใหม่ล่าสุดอย่าง Red Dead Redemption 2 หรือถ้าจะให้แฟร์ ก็ต้องเกมอย่าง Battlefield V ที่มีกราฟิกสวยงามมากกว่า PUBG หลายสิบเท่า แต่ที่ตลกคือ Battlefield V กลับ Run ได้ที่ 60 FPS แม้ว่าจะเป็นเครื่องธรรมดาก็ตามนี่ล่ะ

การที่ผมเอา PUBG มาเปรียบเทียบกับ Battlefield V ในเรื่องของ Frame Rate อาจจะไม่ค่อยจะเข้าหูคุณผู้อ่านสักเท่าไร แต่เชื่อผมเถอะว่านี่มันเป็นการเปรียบเทียบที่แฟร์สุดๆ แล้ว หรือจะให้นำเอาไปเปรียบกับกับเกมอย่าง Fortnite ที่ใช้ Unreal Engine 4 เช่นกัน ก็คงจะยิ่งไม่เข้าหูแฟนๆ เข้าไปอีก และถ้าเรามองดีๆ ก็จะรู้เลยว่าเกมอย่าง PUBG มันไม่ควรจะใช้สเป็คเครื่องที่สูงขนาด PS4 ไม่สามารถ Run ที่ 60FPS หรือเอาง่ายๆ แค่ทำให้คงที่ 30FPS ตลอดเวลาไม่ได้

โดยเรื่องนี้ผมจะไม่โทษเครื่อง PS4 เลยแต่อย่างใดครับ แต่ผมจะโทษไอ่ตัวเกมเองนี่แหล่ะ PUBG เป็นเกมที่มีปัญหาเรื่อง Optimize มานานมากๆ แล้ว ตั้งแต่เวอร์ชัน PC ยัน Xbox One ที่ทำเอาผู้เล่นหลายๆ คนปวดหัว และเบื่อที่จะด่า จนมาถึงวันนี้ในที่สุดตัวเกมก็ได้มอบเอาภาพรายละเอียดน้อย และ Frame Rate แย่บน PS4 ใครอยากได้ภาพที่ลื่นขึ้น ดีขึ้นก็คงต้องเล่นบน PS 4 Pro แทน

มีให้เลือก แต่ไม่มีบอกว่าแบบไหนเป็นอย่างไร

มาพูดถึงเรื่องการบังคับกันบ้าง ต้องบอกว่าผมค่อนข้างประทับใจกับการออกแบบปุ่มบังคับการเล่นเกมบน Controller PS4 ออกมาได้ดีมากๆ ผู้เล่นสามารถจัดการช่องเก็บของได้สะดวก ง่ายดาย สามารถบังคับตัวละครได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด โดยในช่วงแรกผู้เล่นอาจจะต้องปรับตัวสักนิด แต่เมื่อผ่านไปสัก 3-4 เกมแล้วก็จะชินเองครับ แต่น่าเสียดายที่ตัวเกมไม่สามารถปรับปุ่มได้อิสระเหมือนในของ PC แต่จะมี Option มาให้เลือกแบบ Type A-B มาให้เท่านั้นครับ

และถ้าพูดถึงเรื่อง Controller ก็คงต้องมามองอุปกรณ์เสริม 3rd Party ที่ถูกยอมรับโดย Sony เอง อย่างพวกอุปกรณ์ที่จำลองการใช้เมาส์คีย์บอร์ดเล่นเกมอย่างกับใช้เมาส์คีย์บอร์ดจริงๆ เล่น แถมยังมีอีกสารพัดอุปกรณ์ช่วยเหลืออีกมากมาย ที่บอกตามตรงว่าหนักกว่า Hacker ก็คือ Cheater พวกนี้นั้นล่ะ นึกภาพว่าใครจะเอาจอยไปยิงสู้คนใช้เมาส์คีย์บอร์ดได้กับเกมที่ไม่มี Aim Assist งานนี้คงโทษใครไม่ได้ นอกจากคนที่ใช้ของพวกนี้นั้นล่ะครับ

เรื่องระบบเสียงภายในเกมนี้ ที่ตัวผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทีมงานขี้เกียจหรืออย่างไร เพราะเราไม่สามารถปรับเพิ่มลดเสียงอะไรภายในเกมนอกจากให้เปิดปิดเพลงได้เลยครับ WHAT!!! รวมไปถึงพวก Voice Chat ที่ไม่มีให้เลือกแบบ Push to Talk ซึ่งผมก็เข้าใจว่ามันเป็นเกม Console คงจะตั้งปุ่มในกดพูดลำบาก แต่อย่างน้อยก็น่าจะเพิ่ม Voice Threshold มาให้ผู้เล่นหน่อยก็ยังดี แถมไม่มีให้ปรับความดังของเสียงพูดถึง Input และ Output อีกด้วย ซึ่งไอ่เรื่องพวกนี้มันมีในเวอร์ชัน PC นะ แล้วทำไมใน PS4 ถึงไม่มีฟระ!!

คำถามสุดท้ายก็น่าจะเป็นเรื่อง Server ที่มีให้เลือกภายในเกม ในเวอร์ชัน PS4 จะมีให้เลือกแค่ 3 โซน แต่ไม่มี SEA นะครับ งานนี้ต้องโดดร่วมแจมกับชาว Asia/Oceania โดยที่ผมก็ไม่สามารถบอกได้ว่าปิงในเกมมันอยู่ที่เท่าไร (แต่คาดว่าน่าจะ 120+) นอกจากนี้ Setting อื่นๆในส่วนของ Gameplay ก็มีเหมือนเวอร์ชัน PC ทุกประการ และแน่นอนว่าตัวเกมมีภาษาไทยแบบเวอร์ชัน PC อีกด้วยครับ ก็ถือว่า PS4 มีเกมภาษาไทยให้เล่นเพิ่มอีกเกมละนะ


สรุป


สรุปแล้ว PUBG มันก็ยังคงเป็น PUBG ของมันอยู่ดีครับ ตัวเกมไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างจากของเวอร์ชัน PC ไปเลย ที่เพิ่มเติมเข้าไป ก็คือกราฟิกที่แย่กว่าเดิม เฟรมเรตที่แย่กว่าเดิม และ Patch ที่ตามหลังกว่าของ PC อยู่ และนั้นคือสิ่งที่ PUBG ที่ชาว PS4 จะได้เล่นกัน ส่วนตัวแล้วผมเคยรีวิวเกมนี้ไปตั้งแต่เกมวางขายเวอร์ชัน EA ครั้งแรกไปไม่ถึง 1 เดือน สมัยที่คนเล่นยังไม่ถึงหลักแสน ณ เวลานั้นผมเคยพูดเอาไว้ว่า “PUBG เป็นเกมที่ดีในระดับนึง” จนถึงตอนนี้มันก็เป็นเกมที่ดีในระดับนึงจริงๆครับ

แต่เพียงแค่ว่ามันไม่ควรจะ เป็นแบบนี้ เท่านั้นเอง ตัวเกมมีปัญหามากมายหลายอย่าง ที่ผมขอแนะนำให้คนที่เล่นเวอร์ชัน PC ก็จงเล่นมันต่อไป ไม่ต้องหันมามองเวอร์ชัน Console เพื่อที่จะหนีจาก Hacker หรอกครับ เพราะใน Console มันก็มีพวกใช้ 3rd Party เมาส์คีย์บอร์ดอยู่เช่นกัน แต่สำหรับคนที่ไม่มี PC แรงๆ สักเครื่อง และอยากจะเล่น PUBG นั้น เวอร์ชัน PS4 ก็อาจจะตอบโจทย์คุณได้บ้าง แต่ก่อนที่จะกดเพิ่มลงตะกร้านั้น ผมอยากให้คุณตรวจสอบ PC คุณดีๆ ก่อน ว่ามัน Run ได้ดีกว่าเวอร์ชัน PS4 จริงๆหรือไม่ครับ

PLAYERUNKNOWN’S BATTLEGROUNDS วางจำหน่ายแล้ววันนี้ใน PS Store ด้วยราคา 904 บาท คลิก